Blockdit Logo (Mobile)
ไม่เมา แต่เล่าเรื่อง
•
13 มี.ค. 2021 เวลา 01:38 • ไลฟ์สไตล์
ว่าด้วยเรื่อง“ผู้ชายชวนไปดู Netflix ที่ห้อง ทำอย่างไรดีคะ” ,คุณค่าของผู้หญิง และสังคมชายเป็นใหญ่
วันนี้อ่านบทความจากเพจ A day bulletin เรื่อง “เดินเกมให้เป็น หากผู้ชายชวนไปดู Netflix ที่ห้อง”แล้วถึงกับต้องมาเขียนสิ่งที่คิดลงบล็อกของตัวเอง เพราะทนอ่านผ่านไปเฉยๆโดยไม่พูดอะไรไม่ได้จริงๆ
หลังจากเข้าไปอ่านแล้วได้แต่พูดในใจว่า อะไรวะเนี่ย!❗️❗️คุณจะมาสอนผู้หญิงเดินเกมจริงๆหรอ 😂 (แบบ กูถามจริงๆๆๆๆ!!!) และคำตอบคือเหมือน draf 1 แบบคิดมารอบเดียว เป็นคำตอบที่ไม่มีความพัฒนา ไม่ develope ยัดเยียดคำตอบบ้านๆมาว่าให้ระวังตัว วางตัวให้มีค่า ใช้เซ็กซ์เป็นรางวัล อะไรของมันวะ โอ้ยยยยย
เจอผู้ชายแบบนี้ ปวดหัวชิปหาย (ขออนุญาตหยาบคายนิดหน่อยเพื่ออรรถรส)
เคยคุยกับแม่เรื่องนี้เหมือนกันนะ เรื่องคุณค่าของผู้หญิงเนี่ย ว่าทำตัวให้มีค่าคืออะไร อะไรคือ “คุณค่า” ของเราวะ ถ้าสมมุติเรามีเซ็กซ์แล้วคุณค่าเราหายไปหรอ? ผู้ชายจะไม่เห็นคุณค่าของเราหรอ? ทำไมต้องรอหลังแต่งงาน? ทำไมต้องมีผู้ชายคนเดียววะ ในเมื่อผู้ชายมีเซ็กซ์กับผู้หญิงหลายคนไม่เห็นเป็นไร? งง งงมากๆ555
เราเป็นคน affectionate (ดูไม่เหมือน แต่เป็น😂) คือชอบคลอเคลีย แบบชอบกอด ชอบจับมือ ชอบแสดงความรัก มีแฟนก็อยากอยู่ใกล้ๆ แต่แม่จะห้ามตลอด
เราก็ตั้งคำถามมาตลอดว่า มันจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีได้ยังไง เพราะสำหรับเรามันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ ที่ได้แสดงความรัก ทำไมมันถึงดูไม่ดี?
2
เวลาเราเห็นคนกอดกัน จูบกัน เราไม่เคยรู้สึกว่ามันน่าเกลียดเลย พอสังคมบอกว่า “มันดูไม่งาม” แม่งเลยย้อนแย้งกับความรู้สึกเรามากๆ
พอโตมาค่อยเข้าใจ แม่ก็อธิบายว่า ที่แม่ต้องห้ามเพราะมันสามารถนำไปสู่สเต็ปต่อๆไป อย่างการมีเซ็กซ์ได้ง่ายๆเลย ถ้าอยู่กัน2คน ซึ่งบางทีเราอาจจะไม่พร้อม ไม่ได้ตั้งใจ (เด็กๆควรจะระวังไว้ถูกแล้ว )
3
ซึ่งเซ็กซ์ก็เป็นอีกเลเวลนึงของ affection ที่ intimate มากๆขึ้นไปอีก แต่เราก็คิดว่ามันเป็นหนึ่งใน love language ที่เป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ ยิ่งฝั่งตะวันตกคือ no relationship without sex เราก็ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ว่า อ่าว ทำไมมันถึงไม่ดี แล้วอย่างงี้คุณกำลังจะบอกว่า ผู้หญิงชาติอื่นที่เค้ามีเซ็กซ์มาแล้วกับผู้ชายหลายคนเค้าไม่มีค่างี้หรอ
1
ก็ได้คำตอบมาว่า วัฒนธรรมมันต่างกัน !! หนักเลยทีนี้ 😂 แล้วรู้ได้ไงว่าวัฒนธรรมเราดีกว่า? จะบอกว่าเรามีคุณค่ามากกว่าผู้หญิงคนอื่นเกือบทั้งโลกหรอ ไม่น่าเชื่ออย่างแรง5555 คิดยังไงตรรกะก็พังมากๆ (นี่คือสิ่งที่เราคุยกับแม่จริงๆ เป็นแม่เราคงปวดหัวน่าดู😂)
2
แม่ก็พยายามอธิบาย ตามประสา แต่ด้วยความที่มันเป็นค่านิยมที่ไร้เหตุผลมาตั้งแต่แรก แม่ก็ให้เหตุผลไม่ได้ พูดได้แค่ “นั่นแหละผู้ใหญ่เห็นก็ว่า มันดูไม่ดี”และปล่อยให้เราwtfต่อไป
สุดท้ายได้ข้อสรุปว่า ในอนาคตถ้าเราแต่งงานมีครอบครัว ครอบครัวสามีจะได้เกรงใจ ให้เกียรติเรา ว่าเราเป็นผู้หญิงที่ดี เอาละ ตอนนี้ไปกันใหญ่เลย😂 ในหัวนี่แบบ Nooooooooo
2
งั้นมันก็เป็นแค่คุณค่าที่ทำให้ผู้ชาย(บางกลุ่ม แบบพวกล้าหลังหน่อย) รู้สึกพึงพอใจในตัวเรางี้หรอ มันทำให้เค้าภูมิใจ มีศักดิ์ศรี รู้สึกดี อยากถนุถนอมเรา ว่าเราดูมีค่า (ไม่จริงด้วยซ้ำ เห็นสุดท้ายก็ไปมีเมียน้อยทุกที) เหมือนได้ของบริสุทธิ์ แบบของใหม่อะไรแบบนี้ ซึ่งถูกฝังรากลึกมานานนนนนนนนนนในสังคมชายเป็นใหญ่ตั้งแต่โบราณ สืบทอดมาจากรุ่นสู่รู่น
เพราะฉะนั้นกลายเป็นว่า ที่ผู้หญิงต้อง งง งวยกับคุณค่าของตัวเอง ทนรับความกดดันจากสังคม ถูกคนอื่นด่าว่าง่าย ไม่มีค่า เพื่อสนองความพึงพอใจของผู้ชายกลุ่มนึงอะหรอ?
เราว่าถ้าเค้าแยกแยะคุณค่าจริงๆของผู้หญิงคนนึงออกจากอีโก้ของเค้าไม่ได้ เค้าก็คงไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่เราอยากจะใช้ชีวิตด้วยอยู่แล้วรึเปล่า ผู้ชายกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเป้าหมายเราหรอ? ก็ไม่ใช่ปะวะ 55555555
คดีนี้จึงได้ข้อสรุปว่า
การมีเซ็กซ์ไม่ได้ทำให้คุณค่าของผู้หญิงคนนึงลดน้อยลงไปเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าจะมองยังไงแม่งก็ไม่เกี่ยว เป็นแค่ความคิดของคนกลุ่มนึงที่มีต่อผู้หญิงคนนั้นเท่านั้น ซึ่งถ้าคนอื่นไม่ได้คิดแบบเดียวกัน ก็ไม่ได้มีผลอะไรเลย
คำถามคือ เราต้องการคนที่เห็นค่าของเราจริงๆ หรือคนที่เราต้องพยายามทำตัวเองให้เหมือนอย่างที่เค้านิยามคำว่า “คุณค่า” เพื่อตัวเค้าเอง ถ้าคำตอบคืออย่างแรกก็ช่างแม่ง อยากทำอะไรก็ทำ ทำอยู่บนพื้นฐานของตัวเอง ทำสิ่งที่ตัวเองรู้ว่านี่คือคุณค่าของฉันเอง จบ
ใครเป็นคนมากำหนด มันไม่มีคุณค่าของผู้หญิงหรือของผู้ชายทั้งนั้นแหละ มันมีแต่คุณค่าของความเป็นมนุษย์แบบปัจเจกบุคคล คุณค่าของฉัน คุณค่าของเธอ คุณค่าของเขา ไม่มีใครเหมือนกัน ไม่ต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้แล้วมาตัดสินคุณค่าของคนอื่น มันไม่ใช่
1
กลับมาที่บทความข้างต้น
คือต้องบอกว่า มันเป็นการนำเสนอคำตอบของเค้าเอง ความคิดของเค้าเอง และบางส่วนก็เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งมีประโยชน์และเราก็ไม่สามารถโต้แย้งได้ว่ามันไม่จริงนะ
มันแค่ไม่ใช่ความคิดที่ดีอะ ในฐานะผู้หญิง คิดว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะมาสอนให้ผู้หญิงทำ
ถ้าเราเป็นผู้หญิงปกติคนนึงที่ไม่ได้คิดอะไร อ่านไปก็คงคล้อยตาม แบบ เออหวะ เราต้องระวังตัวกับสถานการณ์กับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ถ้าเราตอบตกลงก็เท่ากับเรายอมเค้ารึเปล่า การที่รู้อยู่แต่ก็ยังไป ผู้ชายก็เข้าใจว่าเรา say yes กับความเสี่ยง กลายเป็นสมการยอม กลายเป็นง่าย = ไม่มีค่า คือมาเป็นสเต็ปแบบไม่มี think outside the boxกันเลยทีเดียว55555
ซึ่งมันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น!!
ถ้าคุณได้ก้าวตามโลกมาอีกนิดนึง คุณจะต้องเอ๊ะในใจว่า แค่การที่เราจะไปบ้านใครสักคนอะ คือเรายอมมีเซ็กส์ด้วยแล้วหรอ? เราต้องรับความเสี่ยงหรอ? มันโอเคหรอที่จะปล่อยให้ผู้ชายเข้าใจแบบนั้นโดยอัตโนมัติ!? เราว่ามันไม่โอเคคคค และมันไม่เสมอไป อย่าเอามาตรฐานตัวเองมาตราหน้าคนอื่นแบบนี้
และมันควรทำให้ชัดเจน ถ้าเรารู้ว่าไปแล้วจะมีอะไรกันแน่ๆ ถ้าเราโอเคเราก็ไป ถ้าไม่อยากมีก็ไม่ต้องไป แค่นั้น
ถ้าเค้าชวนแบบคลุมเครือเพราะหวังให้เรารับความเสี่ยง เราก็ทำให้ชัดเจนไปเลยว่าเราต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไร ถามๆไปเลยว่ามีอะไรแอบแฝงมั้ย แน่จริงพูดออกมา จบ!
1
ส่วนเรื่องว่าจะดูน่าเกลียด เค้าจะคิดยังไงเนี่ย เอาจริงๆถ้าเดตกันแบบ โตๆกันแล้ว รู้จักกันสักระยะนึงแล้ว การมีเดตที่บ้านไม่ใช่เรื่องแปลก (นี่ประเทศไทยจะให้ไปไหน ข้างนอกก็เดินไม่ได้ นั่งร้านอาหารก็แล้ว คาเฟ่ก็แล้ว กินทั้งวันก็แล้ว เดินวนในห้างแล้วไงต่อ55555) การเดตที่บ้านจึงเป็นทางเลือกที่ make sense และประหยัด เพราะถึงจุดนึงเราก็ไม่ได้อยากทำอะไร แค่อยากใช้เวลาด้วยกันแบบสบายๆ แล้วจะเลยเถิดไปไหนก็ตามความสมัครใจของทั้งคู่ ไม่ควรกดดันใดๆ
ถ้าอยาก say yes แต่กลัวเร็วไปก็แปลว่าจริงๆแล้วเรายังไม่พร้อมรึเปล่า ก็บอกเค้าไปว่าไม่พร้อม หรือจะไม่ไปก็ได้ ไม่มีอะไรเสียหาย เอาจริงๆขึ้นอยู่กับความต้องการและการสื่อสารกันให้รู้เรื่อง
แต่ถ้าคุณไปเดตกับใครแล้วเค้าทำให้รู้สึกว่าอยู่กันสองคนแล้วไม่ปลอดภัย ถ้าเราแสดงท่าทีชัดเจนว่าเรา say no แต่เค้ายังไม่หยุด แบบนี้คือเค้าไม่ respect เรา ซึ่งเราหวังว่าก่อนตัดสินใจจะไปกับใคร อย่างน้อยๆเราน่าจะพอดูออกแล้วว่าเค้าเป็นคนประเภทนั้นรึเปล่า ถ้าเป็นก็ไม่น่าจะไปเดตกับมันแต่แรกแล้ว เพราะฉะนั้นพยายามดูคนให้เป็น
เราว่าความเคารพและความจริงใจต่อกันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้วในความสัมพันธ์ ถ้ามันกะจะล่อลวงเราไปแบบนี้ ก็ไม่ต้องคิดหรอกว่าจะ position ตัวเองแบบไหน แม่งไม่มีความสัมพันธ์ให้สานแต่แรกแล้ว จบๆไป คุณไม่ควรต้องมีการเดินเกม ไม่ควรต้องเล่นตัว ไม่ต้องพยายามทำตัวให้ดูมีค่า
ต่อให้จะง่ายจริงๆ จะ ons จะ fwb ผู้ชายก็ไม่ควรจะมาตัดสินคุณค่าของเราได้ เพราะมันเป็นแค่สิ่งที่เค้ารู้สึก เกิดจากจิตสำนึกของเค้าเอง (ทำไมเวลาเค้ามีเซ็กซ์ง่ายๆเค้าไม่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าหละ?)
ทำไมเราถึงยอมให้คนอื่นมาประเมินค่าเราวะ แม่งเป็นแค่คุณค่าปลอมๆ มีอยู่แค่ในสายตาของคนที่คิดไม่เป็นและยังไม่หลุดจากกรอบค่านิยมของสังคมเดิม ไม่ใช่แค่ผู้ชายนะ ผู้หญิงด้วยกันเองก็ตัวดีเลย ยังดูถูกผู้หญิงด้วยกันเอง เผลอๆยิ่งกว่าผู้ชาย ไม่ได้ realized เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ความคิดดูถูกคนอื่นนี้มันมาจากไหน เหมือนโดนผู้ชายหลอกใช้แล้วยังไม่รู้ตัว
1
จะยากจะง่าย จะไปดู Netflix หรือไม่ไป has nothing to do with your worth , So DO WHAT YOU WANT.(what you really really want(ใครใส่ทำนองแปลว่าแก่แล้ว แต่หัวยังก้าวหน้าอยู่ 👏 55555) ตบมุกซะหน่อยจะได้ลดความโกรธเกรียวเคี้ยวโปเต้ลงบ้าง อ่ะ ตบอีกที หายโกรธละ โว้ยยย😂 ) เพราะฉะนั้นคุณค่าของคุณคืออะไรก็อยู่ที่ตัวคุณเองให้ค่าตัวเองแค่ไหน คนอื่นไม่เกี่ยว
ถามจริงๆผู้ชายเวลามีเซ็กซ์กับผู้หญิง เคยรู้สึกว่าตัวเองง่ายมั้ย? รู้สึกไร้ค่ารึเปล่า? แล้วทำไมคุณค่าของผู้หญิงถึงจะลดลง? เพราะคุณคิดไปเองทั้งนั้นแหละ
กลับไปสอนตัวเองเถอะ ว่าควรจะวางความคิดตัวเองต่อคนอื่นยังไง
ดังนั้นสิ่งที่ทำให้เราโมโหนิดๆ(ทำเป็นโมโหไม่มาก บทความจะได้ดูน่าเชื่อถือ แต่ความจริงโมโหชิปหาย55555) คือ การที่สื่อระดับนี้ มีอำนาจที่จะชักจูงความคิดคนได้ มีคนอ่านตั้งเยอะแยะแต่ทำไมยังเขียนบทความที่ย่ำวนอยู่กับที่
เราจะไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์อะไรมาก ให้ไปลองอ่านกันเอง( ถึงอ่านแล้วจะทำให้รู้สึกขยะแขยงมากๆก็ตาม (ความเห็นส่วนตัว))แต่ก็นะ555555
โฆษณา