ขนมจีนไหหลำ
ถ้าพูดถึงขนมจีนไหหลำ หลายคนอาจจะนึกภาพไม่ออก
แต่สำหรับคนที่เคยกินก็พอจะจินตนาการได้
ด้วยเส้นขนมจีนอันเป็นเอกลักษณ์
ซึ่งจะมีขนาดยาวใหญ่กว่าเส้นขนมจีนน้ำยาที่เราคุ้นเคย
คนไหหลำจะเรียกอาหารประเภทนี้ว่า “ฮุ้น”
ฮุ้นแห้ง ซึ่งจริงๆ ไม่แห้งเลย องค์ประกอบที่โดดเด่นนอกจากเนื้อสามชั้นตุ๋น ก็มีหน่อไม้ชิ้นใหญ่
ลักษณะทางกายภาพของฮุ้น จะมีแบบน้ำใส (ลักษณะเหมือนก๋วยเตี๋ยวน้ำทั่วไป) และแบบแห้ง (จริงๆ มันก็ไม่แห้งมากนะ จะออกเป็นน้ำข้นๆ คล้ายสตู)
แบบน้ำก็น่าสนใจ
และสำหรับคนที่เคยกินฮุ้น หลายคนอาจจะนึกถึง ร้านเจ๊วา &
เจ๊หย่งแห่งย่านสะพานขาว หรือ ร้านสวนสนแห่งย่านนางเลิ้ง
รวมถึงร้านสุธาทิพย์ย่านวัดสระเกศ
ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับรับการการันตีถึงความเป็นตำนานเก่าแก่
และความเลิศของรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์
ทว่ายังมีร้านขนมจีนไหหลำอีกร้านที่อาจจะไม่โดดเด่นด้านภาพลักษณ์
แต่ด้านรสชาติผมโคตรภูมิใจนำเสนอ
โฉมหน้าเจ๊เผี่ยง สายอินดี้
“ร้านขนมจีนไหหลำ...เจ๊เผี่ยง” แห่งย่านบางโพ
ร้านนี้ผมทานมาตั้งแต่เมื่อครั้งวัยเยาว์ เพราะเมื่อก่อนบ้านผมอยู่แถวนี้
เป็นร้านแรกที่เปิดบริสุทธิ์ผมด้านการกินขนมจีนไหหลำ
ถือเป็นร้านขนมจีนไหหลำโอลด์สคูล ที่เปิดมานาวนานกว่า 50 ปีแล้ว
และด้วยความอินดี้ของเจ๊เผี่ยง แกจึงไม่นิยมออกสื่อซักเท่าไหร่
เนื้อสดโคตรนุ่ม
แต่เรื่องรสชาตินี่ผมโคตรการันตีเลยว่า ไม่ได้ด้อยกว่าร้านชื่อดังอื่นๆ เลย
ซึ่งส่วนตัวผมเอง ถ้าให้เลือกจริงๆ แล้ว ร้านนี้ถือเป็นอันดับหนึ่งในใจด้วยซ้ำ
ขนาดว่ากินแบบติดงอมแงมตั้งแต่เด็ก โตมาย้ายบ้านไปแล้ว ก็ยังทุลนทุลาย ขวนขวายกลับมากินอยู่บ่อยๆ
โดยเฉพาะเมนู ฮุ้นแห้งของร้านนี้ ที่มากี่ทีก็ต้องสั่งมากินทุกครั้ง
ฮุ้นแห้งของเจ๊เผี่ยง ใช้เนื้อสามชั้นตุ๋น เคี่ยวกันตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น
ตุ๋นตอนกลางคืน เอามาขายให้กินตอนเช้า
เนื้อสามชั้นตุ๋นที่ออกมามีความประกายวาววับ ดูแล้วชวนตะลึง
เกิดความประทับใจอย่างลึกซึ้ง
เนื้อสามชั้นตุ๋นของชั้น มาเป็นชิ้น ชั้นยอมทำทุกอย่างเพื่อจะได้กิน
ซึ่งความคลาสสิค คือ ฮุ้นแห้งของร้านนี้จะ
มีจำนวนการผลิตต่อวันแค่ประมาณ 20 ชามเท่านั้น !!!
คือ ถ้ามาสาย คือ อดแดก ผมมักใช้วิธีโทรมาจองกันพลาดไว้ก่อนเสมอ
ตระการตากับเนื้อสามชั้น เผลอแปร๊บเดียวเข้าไปอยู่ในปากเสียแล้ว
บางครั้งโทรมาจองแต่เช้า แต่ก็ยังไม่ทันแดก ก็เคยมี
ผมถามเจ๊เผี่ยงว่า ทำไมไม่ทำให้เยอะขึ้น จะได้มีขายได้หลายๆ ชาม
เจ๊เผี่ยงตอบผมว่า ต้นทุนเนื้อมันแพง กำไรน้อย เลยไม่ค่อยอยากทำเยอะ
กลัวเหลือ เดี๋ยวจะขาดทุน
แต่เท่าที่ดู ผมก็ไม่เห็นว่าจะเหลือซักวันนะ !!!
ผมเลยบอกว่าถ้างั้นก็ขายราคาแพงขึ้นหน่อยก็ได้ จะได้กำไรเยอะขึ้น
เจ๊เผี่ยงก็ตอบกลับว่า ขายแพงไม่ได้หรอก เดี๋ยวไม่มีคนซื้อ กลัวเหลือ
เดี๋ยวจะขาดทุน บอกแล้วว่าแกเป็นสายอินดี้
จากจุดเริ่มต้นเมื่อหลายสิบปีก่อน ที่เจ๊เผี่ยงเคยตระเวนขายตามโรงงิ้ว
จนมาซื้อตึกเปิดร้านของตัวเอง เวลาผ่านมาร่วม 50 ปี
องค์ประกอบสำคัญที่ต้องกินคู่กัน คือน้ำส้มผสมกะปิ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้จริงๆ
ปัจจุบันเจ๊เผี่ยงอายุมาก เรียกได้ว่าเข้าสู่วัยชราเต็มขั้น การเคลื่อนตัวก็เชื่องช้าไม่แคล่วคล่องเหมือนก่อน
แต่ร้านขนมจีนไหหลำของแกก็ยังรสชาติอร่อยเหมือนเดิม และยังคงเปิดบริการอยู่
โดยทุกวันนี้จะมีลูกหลานสลับเปลี่ยน แวะเวียนมาคอยช่วยงาน
ผมไม่รู้ว่าถึงวันนึงถ้าเจ๊เผี่ยงแกขี้เกียจ หรือว่าทำไม่ไหวแล้ว ร้านนี้จะเป็นยังไงต่อ
สูตรขนมจีนไหหลำที่เจ๊เผี่ยงเล่าว่า
ได้รับมาจากรุ่นพ่อแม่ของเจ๊จะได้รับการสืบทอดต่อไปรึเปล่า
ก็ได้แต่หวังว่าจะมีใครซักคนมาช่วยสืบสานต่อ ให้ผมได้กินของอร่อยต่อไป...
ไม่งั้น อาจถึงขั้นต้องลงแดงได้เลยทีเดียว
อินทีเรียสไตล์ โอลด์สคูล
ร้านของเจ๊เผี่ยงตั้งอยู่ที่
ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ซอย 17 หากมาจากทางเกียกกาย
ตรงเลยสี่แยกบางโพมาหน่อยซอยอยู่ซ้ายมือ เข้าซอยมาไม่ถึง 20 เมตรก็เจอ
Je Phiang Hainanese Noodle
32, 555 ถ. ประชาราษฎร์สาย1 Bang Sue, Bangkok 10800
02 585 2891
Credit : FB : เพื่อนร่วมอุดมกิน
#ไทยมานะ #เพื่อนร่วมอุดมกิน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
