13 มี.ค. 2021 เวลา 12:34 • บันเทิง
จิ๋นซีฮ่องเต้...ตอนที่ ๑๒
ฉินอ๋องเจิ้งต้องการวัดกำลังว่าใครยังสนับสนุนตนอยู่บ้าง โดยการจัดเลี้ยง...ปรากฏว่า ขุนนางมาเพราะตามหลี่ปู้เว่ยมา...
แถมมหาอุปราชหลี่ยังหักหน้าอ๋องเจิ้งด้วยการกล่าวเป็นเชิงสั่งสอน...จะจัดงานเลี้ยงแล้วไม่บอกข้า ไม่มีใครกล้ามาหรอก...แต่ไหนๆจัดแล้ว มื้อนี้ข้าขอเป็นเจ้าภาพแล้วกัน...
งานที่จัดโดยอ๋องเจิ้ง ก็เลยกลายเป็นงานของมหาอุปราชไปซะยังงั้น...
1
หนุ่มน้อย ฉินอ๋องเจิ้งแทบจะสุดปัญญาเหนื่อยล้าจากการงัดกำลังกับสิงห์เฒ่าอย่างหลี่ปู้เว่ย ก็เลยขอพักยกและปลีกตัวออกจากแคว้นไปเปิดหูเปิดตาโลกภายนอกซะบ้าง เผื่อจะได้เห็นอะไรมากขึ้น เพราะอยู่ในวังก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว...หลี่ปู้เว่ยก็อนุญาต...
แต่ระหว่างที่ฉินอ๋องเจิ้งออกไปท่องเที่ยว...สถานการณ์ในวังกลับคุกรุ่นมากขึ้น...
หลี่ปู้เว่ยสังเกตว่า ช่วงนี้เจ้าจีฮองไทเฮาชักจะไม่กระเง้ากระงอดตนเหมือนก่อน เสียงเรียกร้องให้ทำการบ้านก็เงียบไป ออกจะมึนตึงซะด้วยซ้ำ...ก็ไปเฝ้าสังเกตจนพบว่า ไทเฮาคลอเคลียกับขันทีคนนึงอย่างผิดสังเกต
สอบถามดู ขันทีคนนั้นก็คือเล่าไหว...แต่เอ๊ มันก็ถูกตอนแล้วนี่หว่า...แต่ทำไมดูลักษณะใกล้ชิดจับมือถือแขนโอบเอวกันยังกะผัวเมียเลย...
ก็เลยเรียกหมอที่ทำหน้าที่ตอนขันทีมาสอบสวน...หมอเจอหลี่ปู้เว่ยขู่ไม่กี่ที ก็สารภาพว่ารับสินบนจากเล่าไหว แล้วก็ไม่ได้ตอนจริง...
ก็หัวขาดสิฮะ...พอหมอหัวขาดแล้ว หลี่ปู้เว่ยก็จะเอาหัวเล่าไหวด้วย...แต่เจ้าจีฮองไทเฮาคราวนี้ออกฤทธิ์ปกป้องเจ้าของทวนพู่ดำในตำนานอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู...
พอจะเอาตัวมาประหารไม่ได้ หลี่ปู้เว่ยก็จ้างมือสังหารลอบฆ่า แต่เล่าไหวก็รอดตัวมาได้ทุกครั้ง...จนหลี่ปู้เว่ยต้องเปิดการเจรจากับฮองไทเฮาตรงๆ...
มหาอุปราชหลี่ ย้ำให้เห็นว่าใครคือผู้มีอำนาจที่แท้จริงในแคว้นฉิน และต่อไปจะครอบคลุมทั่วทั้งแผ่นดิน...เพราะฉะนั้น ถึงจะเป็นฮองไทเฮาก็อย่ามาหือ...
1
เจ้าจีฮองไทเฮาก็ลำเลิกกลับ...เดิมกูก็เป็นเมียมึงอยู่ดีๆ แต่มึงมันบ้าอำนาจเอากูไปสังเวยเป็นเมียอี้เหริน สัญญิงสัญญาว่าเมื่อไหร่ได้เป็นใหญ่แล้ว เราจะครองรักกันอย่างมีความสุข...
...แล้วจำได้มั้ย มึงทิ้งกูกับลูกให้ลำบากลำบนเป็นทาสเขาอยู่นับสิบปี กูก็ไม่ว่าซักคำ...ตอนนี้มึงใหญ่คับแผ่นดินแล้วมีทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว กูล่ะมีอะไรมั่ง...กูก็แค่อยากหาคนเป็นเพื่อนกินเพื่อนนอนเพื่อนเที่ยวแค่นั้น...มึงจะเว้นเล่าไหวไว้ให้กูซักคนไม่ได้เชียวเหรอ...
1
หลี่ปู้เว่ยเจอเรื่องจริงร่ายยาวขนาดนี้ ถึงกับไปไม่เป็น...แล้วฮองไทเฮาก็ปิดท้ายด้วยแผนกามิกาเซ่...
ก็เอาเซ่...ถ้ามึงจะเอาเล่าไหวของกูไปฆ่า...กูจะเปิดโปงทุกเรื่อง...อ๋องเจิ้งที่แท้เป็นลูกใคร...ฉินอ๋ององค์ก่อนทั้งสององค์ ตายเพราะใครวางยาพิษ...
...กูมันไม่มีอะไรจะเสีย พังก็พังไปด้วยกันสิวะ...มึงเอาป่าวไอ้หลี่...
เจอฮองเฮาลุกขึ้นถกผ้าถุง ท้าเหยงๆเข้าให้ หลี่ปู้เว่ยที่มีโอกาสเสียมากกว่าเพราะลงทุนไปเยอะกว่า ก็ต้องยอมถอย...ปล่อยให้เจ้าจีฮองเฮากับเล่าไหวเล่นจ้ำจี้กันต่อไปตามสบาย...
ฝ่ายฉินอ๋องเจิ้งได้ออกหาประสบการณ์ ก็ได้เจอเรื่องต่างๆมากมาย ได้รับรู้ถึงความยากลำบากของราษฎร ที่มีผลมาจากนโยบายบ้าสงครามของหลี่ปู้เว่ย...จะว่าไป ช่วงหนุ่มๆในตัวของฉินอ๋องเจิ้งก็มีทั้งธาตุดีและธาตุอำมหิตปนกันอยู่...
1
ธาตุดีก็คือมีความเมตตา เห็นอกเห็นใจผู้คน เอาใจใส่ความเป็นอยู่ของราษฎรเป็นพื้น...แต่หลายๆเรื่องที่ได้เจอ กลับเป็นมุมที่...ทำดีกลับไม่ได้ดี แต่กลับถูกรังแกซะอีก...ด้านมืดของฉินอ๋องเจิ้งเลยถูกใส่ปุ๋ยให้โหดเหี้ยมมากขึ้นๆ...อย่างเหตุการณ์นี้...
ฉินอ๋องเจิ้งได้ไปเจอเพื่อนเก่าสมัยเป็นทาสอยู่ในแคว้นจ้าว เพื่อนคนนี้ชื่อเจิ้นตวน...
เจิ้นตวนก็ยังเป็นทาสอยู่ เพียงแต่ถูกขายมาเป็นทาสในแคว้นฉิน...อ๋องเจิ้งไม่เปิดเผยสถานะตนเอง บอกเพียงแต่ว่าเป็นพ่อค้าที่ประสบความสำเร็จ แล้วรับปากเป็นมั่นเหมาะว่าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวจะปลดปล่อยเพื่อนให้เอง...
1
คืนนั้นฉินอ๋องเจิ้งไปที่บ้านเจิ้นตวน ดื่มกินระลึกถึงความหลังกับเพื่อนเก่าอย่างสบายใจ...
วันรุ่งขึ้น เจิ้นตวนไปทำงานในสวนส้มตามปกติ...ฉินอ๋องเจิ้งตามไปดูด้วย...เจ้าของสวนส้มแม่งเป็นคนขี้ตืดขนาดหนัก มีทาสคนนึง เห็นส้มเน่าอยู่ลูกนึงก็เลือกเอาด้านที่ยังดีมากิน...
เจ้าของสวนเห็นถึงกับเอาดาบแทงทาสคนนั้นตาย...ซึ่งก็ไม่ได้ผิดกฎหมายอยู่แล้วเพราะคนตายคือทาส
1
แต่ฉินอ๋องเจิ้งเห็นเหตุการณ์นี้ตำตา ก็เข้าไปต่อว่าเจ้าของสวนพร้อมกับทาสคนอื่นลุกฮือขึ้น...เจ้าของสวนเจอล้อมกรอบยังงี้ก็ต้องยอมขอโทษ และบอกว่าจะชดใช้ให้กับครอบครัวคนตาย...
1
เหตุการณ์เหมือนจะผ่านไปด้วยดี...แต่ใครจะคิดว่าวันรุ่งขึ้นกลับเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง ซึ่งอาจจะเป็นส่วนนึงที่ปลุกธาตุอำมหิตในตัวฉินอ๋องเจิ้งให้ลุกโชนขึ้นมา อย่างไม่มีวันดับลงได้...
โฆษณา