ด้านประเด็นเกี่ยวกับ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และการต่ออนุญาตหนังสือให้ประกอบวิชาชีพโดยไม่มีใบอนุญาตนั้น ผอสำนักทะเบียนและใบอนุญาต ได้ชี้แจงว่า “สำหรับหนังสืออนุญาตให้ประกอบวิชาชีพโดยไม่มีใบอนุญาตนั้น มีเงื่อนไขคือ มีอายุ 2 ปี ให้ได้ไม่เกิน 3 ครั้ง ในการต่อครั้งที่ 4 ต้องนำพิจารณาเป็นราย ๆ ไป ซึ่งคุรุสภาดำเนินการเองไม่ได้ ต้องผ่านคณะกรรมการ ซึ่งคณะกรรมการมองว่าวิชาชีพครูเป็นวิชาชีพควบคุม การให้ระยะเวลาดังกล่าวตามคณะกรรมการนั้นเพียงพอแล้ว ซึ่งคุรุสภาสามารถทำได้ในเฉพาะส่วนที่ทำได้เท่านั้น” นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า “คุรุสภาทราบถึงปัญหาเหล่านี้ดี ตอนนี้ก็กำลังดำเนินการยกร่างประกาศยกเว้นใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิชาชีพควมคุมเป็นการชั่วคราว ซึ่งได้นำเสนอคณะอนุกรรมการแล้ว และมีส่วนที่ต้องปรับแก้ไขอยู่”
สำหรับข้อเรียกร้องที่ต้องการให้ออกหนังสือรับรองสิทธิให้ผู้สำเร็จการศึกษานั้น ชี้แจงว่า “ในปัจจุบันนี้เอกสารหลักฐานที่ใช้สำหรับประกอบวิชาชีพครู มีเพียง 3 อย่างคือ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ใบอนุญาตปฏิบัติการสอนที่ยังไม่หมดอายุ และหนังสืออนุญาตให้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ไม่มีหนังสือรับรองสิทธิและหากมีก็เป็นใบรับรองซึ่งมีอายุไม่กี่เดือนเท่านั้น”
โดยในประเด็นนี้ ที่ปรึกษาของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และผู้เชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้านกฎหมายได้ให้ข้อคิดเห็นว่า สำหรับการออกหนังสือรับรองที่เป็นอำนาจของคุรุสภาอาจออกให้ได้ แต่ ในเรื่องของการนำไปใช้สอบแข่งขันหรือบรรจุแต่งตั้งได้หรือไม่นั้น เป็นเรื่องของหน่วยผู้ใช้ครู ที่ยังไม่ทราบว่าจะให้ใช้ได้หรือไม่ ซึ่งจะได้นำเสนอคณะกรรมการต่อไป
นอกจากนี้ ผอ.สำนักมาตรฐานวิชาชีพ ชี้แจงว่ายังต้องรอการประกาศผล เพื่อพิจารณาว่าข้อสอบเป็นอย่างไร สำหรับหลักฐานต่าง ๆ ที่คุรุสภาออกนั้น ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายใช้ ซึ่งต้องยอมรับเงื่อนไขของฝ่ายบรรจุด้วย”
ทางด้านเลขาคุรุสภา เสริมกล่าวว่า “หากมีการออกหลักฐานรับรองก็จะสามารถออกได้ตามสภาพจริงเท่านั้นที่พึงกระทำได้”
สำหรับขอสงสัยเกี่ยวกับงบประมาณนั้น ผอ.สำนักมาตรฐานวิชาชีพ ให้ข้อมูลว่า “คุรุสภามีรายได้เพียงค่าธรรมเนียมต่าง ๆ และงบประมาณแผ่นดิน ไม่เหมือนกับ สกสค ที่หารายได้ได้เอง สำหรับการจัดสอบนี้ได้รับงบประมาณมาจำกัด โดยรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณให้ถึงปี 65 เท่านั้น หลังจากนี้จะต้องบริหารจัดการเอง”
สุดท้าย เลขาธิการคุรุสภา กล่าวย้ำว่า “ยินดีรับฟังทุกเสียงสะท้อน และจะนำเสนอประเด็นต่าง ๆ ที่ได้สะท้อนมาให้กับคณะกรรมการต่อไป สำหรับการประกาศผลการทดสอบบนั้น คุรุสภาจะดำเนินการประกาศผลสอบหลังจากประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ในวันที่ 26 และหากสอบผ่านทั้ง 5 วิชา และมีคะแนนผลการประเมินครบถ้วน ก็จะสามารถดำเนินการขึ้นทะเบียนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางระบบได้เลย ขอให้มั่นใจว่าจะสามารถทันการสอบคัดเลือกครูกรณีพิเศษนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากได้เตรียมระบบต่าง ๆ ไว้รองรับแล้ว”