13 มี.ค. 2021 เวลา 23:19 • การเมือง
ผลงานชิ้นโบแดงชิ้นใหญ่ชิ้นแรกของ “ประธานาธิบดีโจ ไบเดน”
ถึงแม้ว่า “ประธานาธิบดีโจ ไบเดน” จะเป็นนักการเมืองอาชีพที่ทรงอิทธิพลมาอย่างยาวนานถึง 46 ปี โดยนั่งอยู่ในตำแหน่งวุฒิสมาชิก 36 ปี และตำแหน่งรองประธานาธิบดีสมัยของ “ประธานาธิบดีบารัก โอบามา”สองสมัย แต่การที่จะเข้าไปแก้ไขสะสางปัญหาต่างๆในตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 46 ที่ “อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” ก่อสะสมเอาไว้กองพะเนินเทินทึกให้ลุล่วงไปทีละเปลาะๆได้นั้น ช่างแสนยากลำบากเหมือนดั่งเข็นครกขึ้นภูเขาเลยทีเดียว
3
แต่ทว่าในช่วงห้าสิบกว่าวันที่ผ่านมานี้ ประธานาธิบดีไบเดนได้สร้างผลงานใหญ่ขึ้นมาหนึ่งชิ้น โดยผลงานชิ้นนี้จะส่งผลดีระยะยาวให้แก่สหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ประธานาธิบดีไบเดนได้ยึดเอาปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เป็นกรณีฉุกเฉินและเร่งด่วน โดยได้วางนโยบายบริหารจัดการแก้ไขปัญหาโรคโควิด 19 แบบรื้อใหม่หมดยกทั้งแผง ที่ช่างแสนจะตรงกันข้ามกับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์อย่างสิ้นเชิง!!!
3
สำหรับแผนจัดการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคโควิด 19 ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนวางเอาไว้นั้น มีความหนาถึง 200 หน้าโดยเขาได้จัดเตรียมกลยุทธ์นี้เสร็จสิ้นก่อนหน้าที่เขาจะเข้าพิธีสาบานตัวแล้วด้วยซ้ำไป
3
ขณะนี้มีศูนย์ฉีดวัคซีนมากกว่า 450 จุดทั่วสหรัฐอเมริกา อนึ่งในช่วงแรกๆประธานาธิบดีไบเดนได้วางเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้แก่คนอเมริกันเพียงหนึ่งล้านคนต่อวัน แต่กลับปรากฏว่าสามารถเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 1.5 ล้านคนต่อวัน และได้เพิ่มขึ้นเป็นวันละสองล้านคนต่อวัน ณ ขณะนี้เขาและคณะทีมงานมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นวันละสามล้านคนต่อวัน
1
ทั้งนี้ประธานาธิบดีไบเดนได้ให้สัมภาษณ์กล่าวยืนยันว่า “ภายในสามเดือนข้างหน้า สหรัฐฯจะมีวัคซีนฉีดให้แก่คนอเมริกันทุกๆคนได้อย่างครบถ้วน” เท่ากับว่าเป็นการสร้างความหวังและกำลังใจให้แก่คนอเมริกันทุกๆคน
1
อนึ่งจากการวางแผนบริหารจัดการแก้ไขโรคโควิด19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพเกินความคาดหมายของประธานาธิบดีไบเดนในครั้งนี้ มีผลทำให้ขณะนี้สหรัฐฯแซงขึ้นหน้าเกือบทุกๆประเทศในโลก ยกเว้นเพียงแค่ประเทศอังกฤษประเทศเดียวโดยขณะนี้คนอเมริกันได้รับการฉีดวัคซีนแล้วกว่า 18% ของประชากรทั้งหมดหรือราวๆ 80 ล้านคน โดยจีนมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด19ไปแล้วเพียง 50 ล้านราย
7
และจากผลการสำรวจของสำนักข่าว Morning Consult ที่เปิดเผยล่าสุดนี้ ได้รายงานว่าคนอเมริกันถึง 77% พึงพอใจและชื่นชมต่อการบริหารจัดงานโรคโควิด 19 ของประธานาธิบดีโจ เดน แม้กระทั่งสมาชิกค่ายพรรครีพับลิกันถึง 59% ก็มีความพึงพอใจด้วยเช่นกัน
1
อย่างไรก็ตามจะเห็นได้อย่างค่อนข้างชัดเจนว่า กลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหาโรคโควิด19 ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้รักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนอเมริกัน นับว่าเขาเป็นนักการเมืองที่รักศักดิ์ศรี และเป็นนักการเมืองน้ำดี โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนต้องการแก้ให้ตรงจุด โดยอธิบายว่า”กลไกของรัฐบาลกลางสหรัฐฯมีขีดความสามารถสามารถที่จะขจัดปัญหาทั้งหมดได้ หากเร่งระดมทรัพยากรบุคคลจากทุกๆภาคส่วนให้เข้ามาร่วมผนึกพลังกันอย่างเหนียวแน่น”
5
อีกทั้งประธานาธิบดีโจ ไบเดนมิได้สร้างความขัดแย้งเพียงแต่มีความคิดเห็นต่างกันก็ถือว่าของธรรมดาที่ต่างเคารพความคิดเห็นซี่งกันและกัน
2
และการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้รับฟังผู้เชี่ยวชาญอย่างเช่น “ดร. แอนโธนี่ ฟาวซี” ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติทำให้ ดร.ฟาวซีมีกำลังใจและเต็มใจให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
ดังนั้นเมื่อมองจากภาพรวมที่เห็นค่อนข้างเด่นชัดว่า การจัดการแก้ไขปัญโรคระบาดโควิด 19 ของประธานาธิบดีไบเดนนั้น เขามุ่งมั่นยึนหยัดและยกระดับการแก้ไขปัญหาวิกฤติโรคโควิด-19 ขึ้นเป็นวาระสำคัญแห่งชาติเลยทีเดียวโดยจับมือร่วมทำงานเป็นทีมกับ ดร. แอนโธนี่ ฟาวซี และยังแต่งตั้งให้ ดร.ฟาวซี รับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาด้านการแพทย์ควบคุมโรคระบาดโควิด- 19
5
ส่วนประเด็นร้อนฉ่าของสหรัฐฯที่พัวพันเกี่ยวโยงควบคู่ไปกับโรคโควิด-19 ก็คือ ความเลวร้ายของภาวะเศรษฐกิจ และจากการหยั่งเสียงของสำนักโพลเอพีเปิดเผยออกมาเมื่อวันที่ 5 มีนาคมนี้ว่า คนอเมริกันถึง 63% มองว่าขณะนี้สภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯอยู่ในขั้นวิกฤตเลวร้ายแบบสุดๆ โดยคนอเมริกันให้คะแนนต่อประธานาธิบดีไบเดนในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจอยู่ที่ 55%
1
ทั้งนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เล็งเห็นว่าการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำเป็นที่จะต้องแก้ไขควบคู่ไปกับปัญหาวิกฤตทางเศรษฐกิจ โดยประธานาธิบดีไบเดนได้เสนองบประมาณ 1.9 ล้านล้านเหรียญ ก่อนหน้าที่จะเข้าพิธีสาบานตนเข้าสู่ทำเนียบขาว โดยงบประมาณก้อนโตมหาศาลนี้จะครอบคลุมไปถึงการช่วยเหลือด้านสวัสดิการให้แก่เด็กๆเยาวชนอเมริกัน 69 ล้านคนอย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นเม็ดเงินถึง 100 พันล้านเหรียญ
2
อีกทั้งประธานาธิบดีไบเดนยังตั้งเป้าหมายที่จะช่วยเหลือเด็กๆในครอบครัวของชาวอเมริกันเดือนละ 300 เหรียญ และหากเด็กมีอายุเกินห้าปีขึ้นไปจะได้รับคนละ 250 เหรียญทุกๆเดือน โดยประธานาธิบดีไบเดนหวังว่าจะช่วยขจัดความยากจนให้แก่ครอบครัวที่มีเด็กๆได้ถึง 45% และลดความยากจนของครอบครัวได้ถึง 50%
3
ทั้งนี้ “วุฒิสมาชิกมิตต์ รอมนีย์” สังกัดพรรครีพับลิกันก็ได้ออกมากล่าวสนับสนุนเป็นพิเศษต่อสวัสดิการของเยาวชนคนอเมริกันทั่วทั้งประเทศ ที่แตกต่างจากนักการเมืองค่ายพรรครีพับลิกันเดียวกันกับเขา จึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่วุฒิสมาชิกรอมนีย์ได้รับความนิยมชมชอบจากสมาชิกพรรคเดโมแครตมากกว่าบรรดาสมาชิกในค่ายพรรครีพับลิกัน!!!
1
นอกเหนือจากการที่ประธานาธิบดีไบเดนจะเร่งให้การช่วยเหลือต่อเยาวชนชาวอเมริกันแล้วนั้น งบ 1.9 ล้านล้านเหรียญก็จะมีส่วนเข้าไปช่วยเหลือต่อผู้ไร้ที่อยู่อาศัย ช่วยเหลือผู้ที่ค้างชำระค่าบ้าน ช่วยเหลือธุรกิจขนาดย่อมที่ขณะนี้กำลังซวนเซล้มลุกคลุกคลาน ช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ที่มีรายได้ต่ำคนละ 1,400 เหรียญ และหากผู้มีรายได้ต่ำมีคู่สมรก็จะได้รับเพิ่มเป็น 2,800 เหรียญโดยการช่วยเหลือนี้จำกัดสำหรับผู้มีรายได้ไม่เกิน 75,000 เหรียญต่อปี และหากเป็นคู่สามีภรรยาจะต้องมีรายได้ไม่เกินปีละ 150,000 เหรียญ สำหรับผู้ว่างงานจะได้รับเงินช่วยเหลืออาทิตย์ละ 300 เหรียญจนถึงเดือนกันยายนนี้
2
และเงินงบประมาณก้อนโตนี้จะแบ่งสรรปันส่วนไปช่วยเหลือรัฐบาลท้องถิ่น 350 พันล้านเหรียญ และอีก 130 พันล้านเหรียญจะส่งความช่วยเหลือไปตามโรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆ
1
เป็นที่น่าสังเกตว่านโยบายของประธานาธิบดีไบเดนที่จะเพิ่มค่าแรงจากชั่วโมงละ 7.50 ขึ้นเป็นชั่วโมงละ 15 เหรียญในครั้งนี้ กลับไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากถูกวุฒิสมาชิกของพรรครีพับลิกันและวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตบางส่วนเซย์โนสกัดกั้นต่อต้าน
3
ถึงแม้ว่างบประมาณกู้ชาติ 1.9 ล้านล้านเหรียญอาจจะเป็นเงินก้อนโตก็ตาม แต่งบฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจและบริหารจัดการโรคโควิด 19 ที่ประธานาธิบดีทรัมป์เซ็นต์อนุมัติไปเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2020 ที่มียอดงบประมาณเป็นเงินถึง 2.2 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งครั้งนั้นมีวุฒิสมาชิกของพรรคเดโมแครตให้ความร่วมมือกับพรรครีพับลิกันอย่างเต็มที่ที่ขณะนั้นพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากและได้ผ่านญัตติด้วยเสียง 96 ต่อ 0 แต่เพราะเหตุใดในครั้งครานี้พรรครีพับลิกันกลับคัดค้านแบบหัวชนฝาไม่ยอมให้ร่างผ่านไปได้อย่างง่ายๆ
1
แต่เมื่อนักการเมืองของพรรครีพับลิกันพยายามต่อต้านโดยเสนอให้เหลือเพียง 618 พันล้านเหรียญหรือหนึ่งในสามจาก 1.9 ล้านล้านเหรียญผ่าน เป็นผลให้ประธานาธิบดีไบเดนไม่มีทางเลือกที่ได้ใช้ไม้ตายจำต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและเด็ดเดี่ยวโดยผนึกพลังของพรรคเดโมแครตอย่างเดียวโดยทำในสิ่งที่ถูกต้องตามความต้องการของอเมริกันเจ้าของประเทศที่กำลังเดือดร้อนสุดๆและภาวะเศรษฐกิจกำลังทรุดหนักโดยประธานาธิบดีไบเดนอธิบายว่าไม่มีเวลาที่รีรอต่อไปได้อีกทั้งเขาไม่สามารถปล่อยให้นักการเมืองของพรรครีพับลิกันทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของตำแหน่งประธานาธิบดีที่เขากุมอยู่
3
กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นในที่สุดประธานาธิบดโจ ไบเดนกำลังจะเข้าสู่หลักชัยที่คงจะได้รับอนุมัติงบ 1.9 ล้านล้านเหรียญจากสภาผู้แทนราษฎรในขั้นสุดท้ายในกลางสัปดาห์นี้ โดยได้ผ่านวุฒิสภาแล้วเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว โดยจะกลายเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงชิ้นแรกของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในระยะเพียง 50 วันและได้พิสูจน์ให้โลกได้เห็นแล้วว่าเขาสามารถผนึกพลังให้ทุกๆฝ่ายร่วมทุ่มเทพลังแสดงฝีมือกันอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และยังมุ่งมั่นร่วมมือทำงานกันแบบเอาจริงเอาจังที่มีกลยุทธิ์ที่แน่นอน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมและน่าสรรเสริญ และจากข้อมูลของ “องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ” (Organization for Economic Cooperation and Development) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศของกลุ่มที่พัฒนาแล้ว ได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 มีนาคมนี้เปิดเผยว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะเพิ่มเป็น 6.5% จาก 3.2% ในปีนี้เท่ากับว่าประธานาธิบดีไบเดนกำลังนำสหรัฐฯถูกทิศทางละครับ
1
คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ / ดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย
โฆษณา