"เจ้าพระยา original"
...มี กั น แ ล ะ กั ญ
ภาพประกอบ google / edit by jaopraya
หลังจากที่ UN
ได้ประกาศถอดกัญชา
ออกจากรายชื่อสารควบคุมระดับสูงสุด
ก่อนหน้านี้กัญชาถูกจัดว่ามีความร้ายแรงในระดับเดียวกัญกับเฮโรอีน
"UN ไม่ใช่พ่อ!"
(เสียงพี่ Tony ตะโกนมา...)
.
.
.
เอ่อ...งั้นเราข้ามข้อนี้ไปกัญดีกว่าครับ
"รู้ จั ก กั ญ ม า ย า ว น า น"
มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์จำนวนมาก
ที่บอกว่ามนุษย์รู้จักใช้ประโยชน์จากกัญชาก่อนเกิดศาสนาด้วยซ้ำ ทั้งการนำน้ำมันมาปรุงอาหาร, นำมาใช้เป็นยา, และใช้เส้นใยในการทำเครื่องนุ่งห่ม
"กั ญ ช า คู่ บ้ า น คู่ เ มื อ ง"
เราเรียนรู้ได้จากบทประพันธ์ต่างๆ เช่น
ระเด่นลันได ของพระมหามนตรี (ทรัพย์) ที่แต่งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 หรือ นิราศเมืองแกลง ของสุนทรภู่ ก็มีบทหนึ่งที่พูดเรื่องกัญชาอย่างชัดเจน หรือแม้กระทั่งจิตรกรรมฝาผนังโบราณภายในวัด
ภาพจิตรกรรมฝาผนังในวัดพระแก้ว
นิตยสารสารคดี ฉบับ 404 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2561 โดย นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว
ได้ตามรอยกัญชาบนจิตรกรรมฝาผนัง และได้เก็บภาพถ่ายไว้จำนวนมาก
โดยคุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากที่นี่
"ท ำ กั ญ แ บ บ นี้ ได้ ยั ง ไ ง"
มีหลายกระแสทีเดียวที่ถูกอ้างว่า...
เป็นมูลเหตุให้กัญชากลายเป็นสิ่งผิดกม.
บ้างก็ว่าเกิดขึ้นเพราะการค้นพบยาแอสไพรินในปี 2442 โดยบริษัท Bayer (เยอรมนี) แอสไพรินเป็นยาแก้ปวดที่มีสรรพคุณแก้ปวดแบบเดียวกันกัญชา
หรือการสังเคราะห์ไนลอนได้ (Nylon)
ของบริษัท DuPont (อเมริกัน) ในปี 2481ไนลอนคือโพลิเมอร์ที่ได้จากปิโตรเคมีซึ่งมีสรรพคุณเหมือนเส้นใยจากกัญชาและกัญชง
และบางกระแสบ้างก็ว่า...
ปี ค.ศ. 1934 กองปราบปรามยาเสพติดสหรัฐนำโดย Harry J. Anslinger เริ่มมีการขยับเพื่อผลักดันให้กัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย (เพราะต้องการงบประมาณ และว่ากันว่า Harry ได้รับผลประโยชน์จากบริษัทยา บริษัทผลิตฝ้าย ฯลฯ ที่มีกัญชาเป็นศัตรูทางเศรษฐกิจ)
โดยเริ่มต้นจากการ เปลี่ยนชื่อกัญชา
จาก "Cannabis" ไปเป็น "Marijuana"
(ภาษาแม็กซิกัน) เพื่อทำให้กัญชากลายเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกับชนชั้นล่าง อย่างชาวแม็กซิกันและคนผิวดำ (เหยียด)
"กัญชา"
ถูกประโคมผ่านสื่อว่าเป็น"ฆาตกร"
และเกี่ยวข้องกับ"อาชญกรรม"
ปี ค.ศ. 1937 สภาคองเกรซของอเมริกาออกกฎหมายห้ามการใช้กัญชาในทุกรูปแบบ
เมื่อผมดูจากข้อมูล ดูเหมือนว่า...
"ชาวสายเขียวทั้งหลาย"จะยกยอดให้กับ Harry J.Anslinger ว่าเป็น...
"บิดาแห่งการทำให้กัญชาผิดกฏหมาย"
Harry J.Anslinger
"ส นุ ก วิ ท ย์ กั ญ"
ปี 1948 นักสัตววิทยา H.M. Peters
ได้ทำการศึกษาการชักใยของแมงมุม และภายหลัง ในปี 1995 Nasa ได้นำการศึกษานั้นมาศึกษาต่อ ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาคล้ายคลึงกัน
ซ้ายมือคือเลี้ยงแบบปกติ
ขวามือเลี้ยงคือด้วยกัญชา
ภาพประกอบจาก designyoutrust.com
ซ้ายมือคือเลี้ยงแบบปกติ
ขวามือเลี้ยงคือด้วยคาเฟอีน
ภาพประกอบจาก designyoutrust.com
ดูเหมือนแมงมุมที่ถูกเลี้ยงด้วยกัญชา
จะทำได้ดีกว่าคาเฟอีนด้วยซ้ำ
คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมในเรื่องนี้ได้ที่
"รั ก กั ญ ไ ว้ เ ถิ ด"
มีคำถามเกิดขึ้นมากมายในปัจจุบันว่า...
"กัญชาเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรือ?"
หากเปรียบเทียบกับเพื่อนๆอย่าง...
"เหล้า"และ"บุหรี่"
มีผลงานวิจัยมากมาย ที่พอจะบอกเราได้ว่า...กัญชาเป็นสิ่งเสพติดที่เป็นโทษต่อผู้ใช้และต่อคนรอบข้างน้อยกว่าเหล้าและบุหรี่เสียด้วยซ้ำ
ภาพประกอบ 9gag.com
และการใช้กัญชาปริมาณเกินขนาด (overdose) ก็ยังไม่เคยมีผู้ใดเสียชีวิตมาก่อน ถ้าหากเทียบกับการใช้สารเสพติดประเภทอื่นๆ
กัญชาอาจถูกตำหนิในเรื่องที่มีผลต่อเด็ก หากเริ่มใช้กัญชาเมื่ออายุยังน้อย อาจส่งผลถึงพัฒนาการของสมอง(ที่ถูกยับยั้ง)
และสาร THC ซึ่งหากใช้ในระยะยาวนาน ก็อาจเกิดผลเสียและเกิดการบกพร่องทางจิตได้
"พ อ พ อ กั ญ"
สิ่งที่เห็นและสิ่งที่เป็น มักไม่เหมือนกัญ
มีตัวอย่างให้เปรียบเทียบที่เห็นชัดที่สุด
คือเรื่องของ"น้ำตาล"
มีงานวิจัยกล่าวว่า มนุษย์สามารถเสพติดความหวานได้มากกว่าโคเคนถึง 8 เท่า
เวลาเราอยากกินหวานๆ สมองจะมีปฏิกิริยาเหมือนเราอยากเสพยา
เพราะความหวานไปกระตุ้นสมองที่ตำแหน่งเดียวกันกับที่ โคเคน มอร์ฟีน หรือเฮโรอีนทำ
และความหวานจากน้ำตาล
ยังนำโรคภัยไข้เจ็บนานาชนิดมาให้เรา
คนกินติดรสหวาน
เป็นผู้เสพติดใช่หรือไม่?
และกาแฟที่คุณต้องดื่มในทุกๆเช้าล่ะ
มันเข้าข่ายเป็น"สิ่งเสพติด"หรือไม่?
" เ รี ย น รู้ ไ ป ด้ ว ย กั ญ !"
ในขณะที่เขียนอยู่นี้
ราคากัญชาพุ่งทะยานขึ้นหลักหมื่น
ในขณะที่"ยาบ้า"เหลือเม็ดละ 9 บาท
20 กว่าปีที่แล้ว สมัยผมวัยรุ่น
"ยาม้า" (ยังไม่เปลี่ยนชื่อเป็นยาบ้า)
เม็ดละ 25 บาท มันเคยทะยานขึ้นแตะ
ที่ราคาเม็ดละหลายร้อย ตามความ
ต้องการของสายดาร์ก แม้จะสวนทาง
กับบทลงโทษทางกฏหมายที่หนักหน่วง
ก็ตาม
"กัญชา-กัญชง" กำลังจะเป็นเทรนด์ใหม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และตลาดของมันกำลังใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
เราไม่อาจรู้อนาคตของกัญชาว่าเป็นอย่างไรในอนาคต เพราะทุกวันนี้มีเพียงการวิเคราะห์ในเชิงธุรกิจและคาดเดากันไปต่างๆนานา
มิติของกัญชา
ยังมีหลากหลายมิติให้เราได้ติดตาม
วันหนึ่ง"กัญชา"อาจจะเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของหลายๆประเทศ
วันหนึ่ง เม็ดเงินจำนวนมากจากนักลงทุนจะหลั่งไหลมายังธุรกิจนี้กัญ
วันหนึ่ง ทุกผลิตภัณฑ์อาจมีกัญชาเป็นส่วนประกอบเพื่อสร้างจุดขาย
วันหนึ่ง"กัญชา"อาจล้นตลาด
วันหนึ่ง เกษตกร ผู้ปลูกกัญชา อาจจะ
ชุมนุมประท้วง โดยการนำกัญชาขนใส่
รถสิบล้อ มาเผาประท้วงหน้าทำเนียบ
และวันนั้น เราจะไปยืนใต้ลม...กัญ
...ซู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
![[เยอรมนีและจิปาถะ by แม่ป๋อม] 🇩🇪 ผลิตภัณฑ์จากกัญชา ในเยอรมนี 🇩🇪](https://t1.blockdit.com/photos/2021/03/604d8db48ad18e0c0ea66c21_800x0xcover_MpIpcDn3.jpg)
ขอบพระคุณทุกการติดตาม
เจ้าพระยา
อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่...
- 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
