พ.ศ. 2328 สมรภูมิทุ่งลาดหญ้า
เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าเจ้าอยู่หัวได้ปรึกษาข้อราชการงานสงครามกับสมเด็จพระอนุชาธิราชถึงศึกทุ่งลาดหญ้าเเล้ว ทรงเล็งเห็นพ้องต้องกันว่าพม่าเริ่มอ่อนกำลังลงมาจากการขาดเสบียงอาหารอย่างหนักเนื่องจากถูกกองโจรของเจ้าขุนเณร ตีตัดเสบียงอาหารอาวุธยุโธปกรณ์อย่างต่อเนื่องรวมถึงถูกใช้กลยุทธ์ลวงว่ามีกำลังเสริมเข้ามาจากทัพหลวงเข้ามาตลอด
จึงทำให้ขวัญกำลังใจของข้าศึกค่อยๆถอยลงทุกวัน สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทจึงทูลว่าขออย่าให้ทรงพระปริวิตกกับศึกทางลาดหญ้าเลย ขอให้ทัพหลวงขึ้นเกื้อหนุนช่วยทัพของพระเจ้าหลานเธอ กรมขุนอนุรักษ์เทเวศร์เเละเจ้ากาวิละ
ที่รับทัพข้าศึกทางภาคเหนืออยู่ ณ เวลานี้ เป็นการด่วนหากทัพเหนือของไทยเพลี่ยงพล้ำจะเสียการใหญ่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาจึงเคลื่อนทัพหลวงออกจากสมรภูมิทุ่งลาดหญ้าไปที่นครสวรรค์เพื่อช่วยทัพไทยที่รับศึกทางเหนือเป็นการด่วน
พ.ศ. 2328 ณ เมืองนครสวรรค์
เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ เป็นเเม่ทัพคุมพล 15,000 คน ขัดตาทัพข้าศึกอยู่ที่นครสวรรค์ไม่ให้ผ่านลงมาเข้าตีกรุงเทพได้
พระองค์ทรงเเบ่งกำลังพลออกเป็น 3 กอง โดย
กองหน้าทรงให้เจ้าพระยามหาเสนาเป็นเเม่ทัพยกไปสกัดข้าศึกที่พิจิตร
กองหลังทรงให้พระยาพระคลังเเละพระยาอุทัยธรรม ไปตั้งทัพอยู่ที่ชัยนาทเพื่อป้องกันข้าศึกที่อาจจะยกเข้ามาทางอุทัยธานี
กองหลวงของพระองค์ทรงตั้งคุมเชิงอยู่ที่ นครสวรรค์
ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกจะนำทัพหลวงขึ้นเหนือเพื่อเป็นกองหนุนนั้น ทรงโปรดเกล้าให้ กรมพระยาเทพสุดาวดี(พระพี่นางเธอ) อัญเชิญท้องตราพระราชกระเเสรับสั่งไปถวายเเก่เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ ความว่า
การศึกสงครามด้านเมืองกาญจนบุรีเเละราชบุรีได้ยุติลงเเล้วด้วยชัยชนะของฝ่ายไทย จึงให้เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ เร่งทำการรบให้ได้ชัยชนะเเละทรงกำชับว่า
" เเม้คิดทำไม่สำเร็จ พระเศียรก็จะมิได้คงอยู่กับพระกายเป็นเเท้ เเลบัดนี้ทัพหลวงก็จะเสด็จพระราชดำเนินขึ้นมาโดยเร็วเเล้ว"
กรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ทรงตระหนักพระทัยดีว่าทั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกเเละสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาท ทรงเป็นจอมทัพที่เคร่งครัดต่อกฏระเบียบเเละวินัยของกองทัพตลอดจนพระอัยการศึกเป็นอย่างมาก เเละทรงไม่ผ่อนผันโทษให้เเก่เเม่ทัพนายกองหรือไพร่พลที่ทำผิดกฏระเบียบเเม้จะเป็นพระราชภาคินัยก็ตาม
เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ทรงปฏิบัติหน้าที่เเม่ทัพอย่างเข้มเเข็งเเละเร่งทำการศึกขับไล่พม่าโดยทรงมีพระราชบัญชาให้กองทัพหน้าของเจ้าพระยามหาเสนา ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองพิจิตรให้ยกขึ้นไปขับไล่พม่าที่ปากพิงโดยทันที
รวมถึงทรงใช้พระอาญาสิทธิ์สั่งประหารพระยาสระบุรี ซึ่งได้รับคำสั่งจากเจ้าพระยามหาเสนาให้ยกทัพเป็นกองหน้าขึ้นไปปากพิงก่อน เเต่ท่านเจ้าเมืองสระบุรีเเลเห็นฝูงนกกระทุงจับกลุ่มตะคุ่มๆไม่ชัดเจนในเวลาเช้ามืด ก็เข้าใจผิดว่าเป็นทหารพม่าซุ่มอยู่ จึงสั่งให้ทหารของตนถอยหนี ครั้งเมื่อสว่างจึงทราบว่าเป็นฝูงนกกระทุง
พฤติกรรมดังกล่าวทำให้ไพร่พลขาดขวัญกำลังใจเเละเป็นผลเสียต่อกองทัพจึงถูกลงโทษตัดหัวเสียบประจานไว้ที่ชายหาด...............................
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
