16 มี.ค. 2021 เวลา 00:30 • การศึกษา
🤓 3 เทคนิคการหาความรู้พัฒนาตนเองที่ทำได้เองที่บ้าน 🤓
การพัฒนาตัวเองไม่ว่าในด้านใดด้านนึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในยุคสมัยนี้เลยครับ เมื่อทุกอย่างรอบตัวเราดำเนินไปเร็วมากจนใครที่อยู่กับที่ก็อาจจะตามข่าวสารหรือเทรนด์ต่างๆไม่ทันบ้าง อาจจะคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่องในบางหัวข้อ หรืออาจจะ Struggle ในการทำงานที่คิดว่าเรายังขาด Skill บางอย่างไปและอยากที่จะพัฒนาทักษะเหล่านั้นให้ดีขึ้น
3
วันนี้เพจเล่าของผมก็เลยจะเล่าให้ฟังถึงทางเลือกในการพัฒนาตัวเองนั้นมีการพัฒนาในแบบไหน และสามารถเรียนรู้ผ่านการใช้ช่องทางอะไรบ้างครับ
การพัฒนาตัวเองในมุมมองของผมนั้นสามารถแบ่งหยาบๆออกมาได้ 2 แบบครับคือ
- การพัฒนาที่ความคิด (เปลี่ยน mindset เปลี่ยนมุมมองต่อการใช้ชีวิตและการทำงาน)
การพัฒนาตนเองในด้านนี้จะใช้เวลาที่นาน, มี process ที่จะไม่เป็นเส้นตรง และจะมีความ Unique กันไปในแต่ละคน กล่าวคือเราอาจจะต้องใช้วิธีนึง แต่เพื่อนของเราอาจจะต้องใช้อีกวิธีนึง ในขณะที่บางคนอาจจะไม่ต้องทำอะไรเลย อยู่ๆก็เข้าใจในสิ่งรอบตัวแล้วมี mindset ที่เปลี่ยนจากเหตุการณ์เล็กเพียงเหตุการณ์เดียวก็ได้ครับ
เราอาจจะควบคุมแนวคิดตัวเองไม่ได้ 100% แต่สามารถเร่งความเร็วของมันได้ครับ เช่นการอ่านหนังสือ หรืออ่านบทความที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิต เป็นต้น
- การพัฒนาทักษะความสามารถ (อัพสกิลในการทำงาน ทั้ง Hardskill และ Soft Skill)
การพัฒนาตนเองในส่วนนี้นั้นจะแตกต่างจากส่วนแรกอย่างชัดเจน เพราะต้องเน้นการลงมือทำจริงๆ เพื่อพัฒนาทักษะต่างๆ หรืออาจจะต้องขวนขวายหา Workshop ต่างๆเพื่อเรียนรู้จากจุดเริ่มต้นและเพิ่มประสบการณ์ให้มากขึ้นครับ
แต่ก็มีทางลัดเช่นกันคือการเรียนรู้จากคนที่เป็น Expert ในแต่ละด้าน ซึ่งจะทำให้เราประหยัดเวลาในการลองผิดลองถูก (Trial & Error) ไปเรื่อยแน่นอนครับ
***ซึ่งเดี๋ยวผมมี offer ที่น่าสนใจในตอนท้ายให้ทุกคนด้วย 😁😁
ดังนั้นสิ่งแรกที่เราต้องตัดสินใจก่อนเริ่มวางแผนใดๆเลยก็คือต้องตัดสินใจว่าอยากพัฒนาตัวเองในด้านไหน แล้วจึงเลือกเครื่องมือ หรือ Tools ที่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นให้ได้ครับ
เมื่อแบ่งหยาบๆตามที่บอกไป เรามาดูกันว่าการพัฒนาตัวเองทั้ง 2 แบบนั้น มีเทคนิคหรือช่องทางให้เลือกกันบ้าง
1. การอ่านหนังสือ
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า หนังสือเปลี่ยนชีวิต (Life-Changing Books) กันมาบ้างนะครับ ซึ่งมันคือการอ่านหนังสือเพียงเล่มเดียว แต่กลับเปลี่ยนชีวิตของเราไปตลอดกาล ส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของความคิด, มุมมองของการใช้ชีวิต
เรียกได้ว่าพออ่านจบแล้วอยากจะลุกขึ้นมาทำอะไรซักอย่างนึงให้ชีวิตของเราดีขึ้นนั่นเอง
หนังสือเหล่านี้มักจะหนีไม่พ้นหมวด Self-Help / Self-Nourishment และหนังสือดังๆส่วนใหญ่ก็จะเป็นหมวดนี้ด้วยครับ
4
ด้วยความที่หมวดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ก็จะมีหนังสือแนวนี้ออกมาเยอะมากๆ ปัญหาก็คือเราไม่รู้ว่าเล่มไหนที่มันเหมาะกับเราจริงๆกันแน่
1
ในโพสต์นี้ผมก็เลยขอแนะนำหนังสือระดับ Top Shelf ที่ได้รับคำชื่นชมจากนักอ่านทั่วโลกมาแนะนำให้กันตามรูปเลยนะครับ พยายามเลือกมาหลายๆแนว (หลายๆแนวในที่นี้คืออาจจะเป็นมุมมองคนละแบบ หรือ บางเล่มอาจจะขวางโลกไปเลย) สนใจเล่มไหนสามารถไปหาอ่านกันเพิ่มเติมได้นะครับ
นอกเหนือจากหมวด Self-Help ก็จะมีหนังสืออีกหลายแบบที่สามารถพัฒนาทักษะความสามารถได้ด้วยครับ ทั้งด้านการเงินการลงทุน, การตลาด, การบริหารคน ที่ล้วนแล้วแต่มีประโยชนืในการทำงานทั้งสิ้น ส่วนนี้หาได้จากรีวิวที่ผ่านมาของผมเลยครับ
ข้อดี : มีตัวเลือก/ตัวช่วยเยอะ ทำให้เราสามารถหาหนังสือที่น่าสนใจได้ และเริ่มต้นได้ง่าย
ข้อเสีย : ในบางหัวข้อตัวเลือกอาจจะเยอะจนเกินไป และอาจจะไม่เจอเล่มที่ใช่ซักที และบางเล่มเนื้อหาไม่อัพเดท
1
2. การฝึกฝนลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง
เป็นอีกวิธีที่ไม่ต้องลงทุนด้วยเงิน แต่ลงทุนด้วยเวลาของเราครับ นั่นคือการลงมือทำไปเลย อยากพัฒนาอะไรก็เริ่มโดยไม่มีข้ออ้างในการผลัดวันประกันพรุ่ง
- อยากพัฒนาทักษะการพูด ก็เริ่มจากการไปยืนพูดหน้ากระจก
- อยากพัฒนาการวาดรูปก็หยิบดินสอกับกระดาษมาเริ่มเลย
- อยากลองเขียนโปรแกรมก็ขวนขวายหาความรู้แล้วลงมือเขียนโค้ดไปเลย
- หรือถ้าอยากพัฒนาทักษะด้านการค้าขายก็ศึกษาหาข้อมูลแล้วเริ่มขายอะไรซักอย่างที่ตัวเองถนัดและสนใจ
หรือเรียกว่าให้ประสบการณ์เป็นคนสอนเรานั่นเอง ล้มเอง เจ็บเอง เรียนรู้เอง
อาจจะใช้ Internet เป็นตัวช่วยในการหาข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งจาก Google, YouTube หรือ Website ต่างๆ เพื่อทุ่นแรงและระยะเวลาบางส่วนได้ครับ
ข้อดี : ได้ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ทำมากได้มาก ทุกสิ่งที่ทำก็ได้ประโยชน์กับตัวเราเองทั้งสิ้น
ข้อเสีย : โอกาสผิดพลาดมีสูงมาก ถ้าเป็น Scale ขนาดใหญ่อาจทำให้เสียเงินหรือเวลาไปมากพอสมควร
3. การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ
เมื่อสองวิธีแรกก็สามารถบรรลุเป้าหมายได้ แต่อาจจะใช้เวลาค่อนข้างนาน เนื่องจากจะต้องค้นคว้าหาข้อมูลและลองผิดลองถูกกว่าจะเจอทางเลือกที่ดีและเหมาะสมกับเรา
จึงนำมาสู่วิธีสุดท้าย นั่นคือการเรียนรู้จากคนที่เป็น Expert ในแต่ละด้าน ซึ่งคนเหล่านี้สามารถนำความรู้ประสบการณ์และการลองผิดลองถูกที่ผ่านในชีวิตของเค้า กลั่นกรองออกมาเป็นบทเรียนที่เป็นเหมือนทางลัดหรือเป็นลิฟท์ที่ทำให้เราข้ามขั้นตอนต่างๆที่วุ่นวายไปได้เยอะเลย
ยกตัวอย่างง่ายๆถ้าคุณอยากจะฝึกอะไรซักอย่าง สมมุติเป็นเรื่องของการลงทุน
อันนี้แน่นอนว่าพอคุณเริ่มหาข้อมูลจะพบว่าทางเลือกการลงทุนนั้นมีเยอะแยะมากมาย ไหนจะหุ้น, ทองคำ, กองทุน, หุ้นกู้, Derivative Warrant, สัญญา Future สมัยนี้ก็จะมี Crypto เพิ่มเข้ามาอีก
พอจะไปเปิดบัญชีก็จะมีทั้งบัญชีหุ้น, บัญชีกองทุน, บัญชี Margin พอเปิดได้ก็ต้องศึกษาอีกว่าส่งคำสั่งซื้อขายอย่างไร เปิดปิดกี่โมง มีคำสั่งแบบไหนบ้างอีก คือขั้นตอนมันเยอะแยะวุ่นวาย
แต่ถ้าคุณไปฟังคนที่อยู่ในวงการการลงทุนมากว่า 10 ปี เทรดมาแล้วเกือบทุก Assets มาจัด Session นั่งอธิบายทุกอย่างให้คนเริ่มต้นลงทุนฟังทั้งหมดนี้จะสามารถเข้าใจได้ในระยะเวลาไม่นานเลยครับ
และนี่คือวิธีสุดท้ายที่ผมคิดว่าจะเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ข้อดี : เรียนรู้สิ่งต่างๆได้เยอะและเร็วกว่าสองวิธีแรก
ข้อเสีย : คนที่เป็น Expert เหล่านั้นอาจจะไม่มี Session แบบนี้บ่อยๆ
ดังนั้นเพื่อการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญในราคาที่ไม่รุนแรง วันนี้ผมก็มีทางเลือกเป็น Deal พิเศษลดราคา 50% มาฝากทุกคนครับ
⭐️⭐️นั่นคือ Platform การเรียนรู้แห่งใหม่ของไทยที่ชื่อว่า Future Skill ⭐️⭐️
สำหรับ Future Skill นั้นคือ Platform การเรียนออนไลน์ที่รวบรวมคอร์สการเรียนรู้ที่เน้นทักษะแห่งอนาคต ทั้งในเรื่องของ Creative, Technology และ Business คอร์สการเรียนทั้งหมดถูกสอนโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาอาชีพและสอนเป็นภาษาไทยทั้งหมด หมดปัญหาเวลาเจอกับคอร์สเรียนออนไลน์ของมหาวิทยาลัยต่างชาติแล้วไม่ถนัดภาษาอังกฤษ
ปกติแล้วคอร์สเรียนต่างๆของ Future Skill จะมี Range ราคาอยู่ที่ 990 บาทไปจนถึง 2,290 แต่แพคเกจที่ผมได้มานั้นจะเป็นแบบรายปีโดยใส่ Code ส่วนลด “FSXLAO50” คุณก็จะได้รับส่วนลดพิเศษสำหรับแฟนเพจเล่าจุกๆไปเลยที่ 50% !!!
🔥 จ่ายเพียงปีละ 3,594 บาท (จากราคาเต็ม 7,908 บาท)
🔥 และสามารถเข้าไปเรียนได้ทุกคอร์สแบบบุฟเฟต์ไม่จำกัดจำนวนรอบ !!!
รวมไปถึงถ้ามีอัพเดทคอร์สใหม่มาก็สามารถกดเข้าไปเรียนได้เลยโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://page.futureskill.co/fsxlao
โค้ดลด 50% : FSXLAO50
วิธีการชำระเงิน
1. ลงทะเบียนกับทางระบบ Future skill
2. เลือกแพ็คเกจที่ต้องการสมัคร ( 1 ปี )
3. เลือกวิธีการชำระเงิน
- ชำระผ่านบัตรเครดิต
- ผ่อน 0% 4 เดือน
- ชำระผ่านทางธนาคาร iBanking (สแกน Qrcode)
หากต้องการความช่วยเหลือหรือมีข้อสงสัยใดสามารถสอบถามทางเจ้าหน้าที่โดยตรงได้ที่
สำหรับคอร์สเรียนที่น่าสนใจสำหรับผมมีดังนี้ครับ
หมวด Creative
- ทำ Content ให้มีคนเสพย์หลักล้านด้วย Super Content
- ทำสื่อโฆษณาทั้งภาพนิ่งและ Video ง่ายๆด้วยมือถือเครื่องเดียว !!
- ทำกราฟิกขายของบนโซเซียลมีเดียด้วยตัวเอง
หมวด Technology
- Upskill Python Programming เส้นทางสู่ Developer
- Data Science for Everyone
- สร้าง Mobile Application ทั้ง IOS และ Android ง่ายๆด้วย React-Native
หมวด Business
- ติดปีกทักษะการตลาดออนไลน์ ยอดขายปังทำเองได้ด้วย Digital Media Strategic Planning
- คนรุ่นใหม่เข้าใจการลงทุน
- ปูพื้นฐาน Excel ของคุณให้พร้อมในยุค Big Data
เรียกได้ว่าแค่เข้าไปเรียน 9 ตัวนี้ก็คุ้มมากแล้ว 🤓🤓 แถมยังมีให้เลือกอีกกว่า 80 คอร์สเรียน คุ้มมากๆครับ สมมุติว่าเรียนซักเดือนละคอร์ส 12 คอร์สต่อปีก็ตกราคาเฉลี่ยแค่ 299.50 บาทเท่านั้นเอง
*** Code นี้มีระยะเวลาในการสมัครจำกัดนะครับ ใครสนใจสามารถสอบถามมาที่เพจ หรือ Comment ถามได้เลย เดี๋ยวทาง Future Skill จะมาแนะนำขั้นตอนการสมัครอีกทีครับ
โฆษณา