18 มี.ค. 2021 เวลา 05:20 • ประวัติศาสตร์
โศกนาฏกรรมเรือเซวอลอับปาง ความสูญเสียกว่า 300 ชีวิตกับตราบาปของกัปตัน
หากพูดถึงเหตุการณ์เรืออับปางที่เสียผู้คนเยอะๆ ทุกคนก็น่าจะ นึกถึง เรือไททานิค
แต่ทุกคนรู้ไหมเคยมีเหตุการณ์เรืออับปาง
ที่จะไม่มีวันลืมเลย
ในวันที่ 16 เมษายน 2014 เรือเฟอร์รี่เซวอลมุ่งหน้าออกจากเมืองอีช็อนไปยังเกาะเชจู
ซึ่งเป็นการเดินเรือตามปกติในเส้นทางอยู่แล้ว
เพื่อขนส่งผู้โดยสารไปยังที่หมายตาม
สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ วันนั้นมีนักเรียนจำนวน 325 คนจากโรงเรียนมัธยมทันว็อนที่กำลังตื่นเต้นกับทัศนศึกษาในครั้งนี้ ในจำนวนนักเรียน 5 คนเป็นชาวต่างชาติ เกือบทั้งหมดเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลาย
แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์เรืออับปางระหว่างทางด้วยปัจจัยหลายอย่าง แต่แล้วจากความมั่นใจที่พอจะหลงเหลืออยู่ว่านักเรียนส่วนใหญ่จะรอดชีวิตออกมาได้กลับกลายเป็นว่าพวกเขาต้องจมลงไปกับเรือลำนี้ แม้จะปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วก็ตาม
โดย การที่เรือเซวอลอับปาง ถูกโทษว่าเกิดจากหลายสาเหตุ รวมถึงการออกแบบปรับแต่ง
เรือใหม่ การบรรทุกน้ำหนักเกิน การปล่อยให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีประสบการณ์มาขับเรือ และ
ความหละหลวมของกฎข้อบังคับจากทางรัฐบาล
ซึ่งต่อมากัปตันเรือถูกติดสินว่ามีความผิด
ในข้อหาฆาตกรรม
หลายคนยังคงรู้สึกอุ่นใจและเชื่อใจคำพูดของ กัปตันเรือ
หนึ่งในคลิปวิดีโอที่ถูกบันทึกโดยนักเรียนที่อยู่
บนเรือเซวอลวันนั้น เผยให้เห็นว่าพวกเขายังคงมีสติและใจเย็น พูดคุยกันระหว่างรอ
ความช่วยเหลือ บางคนก็นั่งทานขนมรอ
แต่หารู้ไม่ว่าเรือกำลังพลิกฝั่งไปเกินกว่า
90 องศาแล้ว
หนึ่งในนักเรียนโบกมือให้กับกล้องพร้อมเพื่อนหลังจากที่ได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์บินอยู่เหนือศีรษะ “เฮลิคอปเตอร์มาแล้ว”
สิ่งเหล่านี้คือคำแนะนำจากการตัดสินใจของกัปตันเรือ เป็นผู้บอกให้ผู้โดยสารรอคอยความช่วยเหลืออยู่ในเรือเท่านั้น เพราะเกรงว่าการกระโดดลงไปในน้ำที่เย็นจัดและกระแสน้ำเชี่ยวกรากจะเป็นอันตรายถึงชีวิต
❗แต่กัปตันเรือ ได้ออกจากเรือไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม หน่วยกู้ภัยไม่สามารถมาถึงตัวเรือได้ทันเวลา ขณะที่นักเรียนที่ติดอยู่ในเรือกำลังรอความช่วยเหลือเริ่มวิตกกังวลมากขึ้นพร้อมเรือที่กำลังจมลงไปเรื่อยๆ บางคนพยายามจะพังกระจกจากตัวเรือเพื่อหนีออกมา…
และมีสิ่งหนึ่งที่น่าโกรธที่สุดคือ
❗กัปตันทิ้งผู้โดยสารไว้ในเรือ
สิ่งที่น่าใจหายไปมากกว่านั้นก็คือกัปตันเรือ 
ลี จุนซอก ผู้ที่ควรจะทำหน้าที่ของตัวเอง กลับหนีออกมาจากเรือที่กำลังอัปปางก่อนปล่อยให้ผู้โดยสารเผชิญชะตากรรม ทิ้งเกียรติกัปตัน ทิ้งหน้าที่ของกัปตันในการดูแลความปลอดภัยของทุกคนบนเรือ และอยู่บนเรือเป็นคนสุดท้าย
ภายหลังจากที่เขาหนีออกมาจากเรือได้ และยอมรับสารภาพว่าในวันนั้นได้แอบไปงีบหลับก่อนที่จะเกิดเหตุเรือล่ม ปล่อยให้ผู้ช่วยต้นเรือที่ขาดประสบการณ์มาคุมเรือแทน
พร้อมกับกล่าวถึงเหตุผลที่ไม่ยอมปล่อยให้ผู้โดยสารอพยพออกมาจากเรือก่อนที่เรือจะจมว่าถ้าปล่อยให้ผู้โดยสารอพยพออกโดยไม่มีการชี้แนะที่เหมาะสมหรือไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพ
พวกเขาอาจจะเจอกับอันตรายในท้องทะเลหรือโดนคลื่นพัดหายไป จึงไม่ได้สั่งอพยพคนในเรือและยอมรับว่าตนเองมีความผิดในส่วนที่ตัดสินใจแบบนั้น ซึ่งตัวเขากับผู้ช่วยกลับหนีออกมาเป็นกลุ่มแรก
ทั้งนี้ เขาถูกตัดสินข้อหาหนักพร้อมกับผู้ช่วยอีก 2 รายได้แก่ข้อหาละทิ้งเรือ กระทำการโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย ไม่ขอความช่วยเหลือจากเรือลำอื่น
และละเมิดกฎหมายเดินเรือจากกรณีของเมื่อเกิดเหตุเรืออับปาง กัปตันจะต้องปฏิบัติหน้าที่อยู่ช่วยเหลือผู้โดยสารและลูกเรือเป็นคนสุดท้าย
ทั้งนี้ เขาถูกตัดสินข้อหาหนักพร้อมกับผู้ช่วยอีก
2 รายได้แก่ข้อหาละทิ้งเรือ กระทำการ
โดยประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและ
ถึงแก่ความตาย ไม่ขอความช่วยเหลือจาก
เรือลำอื่น
และละเมิดกฎหมายเดินเรือจากกรณีของเมื่อ
เกิดเหตุเรืออับปาง กัปตันจะต้องปฏิบัติหน้าที่
อยู่ช่วยเหลือผู้โดยสารและลูกเรือเป็นคนสุดท้าย
ทางศาลสูงสุดเกาหลีใต้ยืนยันคำพิพากษาตัดสินจำคุกกัปตันเรือตลอดชีวิต ในส่วนของลูกเรืออีก 14 รายมีโทษจำคุกตั้งแต่ 18 เดือนจนถึง 12 ปี
ทางศาลสูงสุดเกาหลีใต้ยืนยันคำพิพากษาตัดสินจำคุกกัปตันเรือตลอดชีวิต ในส่วนของลูกเรืออีก 14 รายมีโทษจำคุกตั้งแต่ 18 เดือนจนถึง 12 ปี
❗คำบอกลาครั้งสุดท้ายของนักเรียน
ด้วยโทรศัพท์ที่ยังคงมีอยู่ในมือ นักเรียนส่วนใหญ่ที่กำลังจะจมลงไปกับเรือเซวอลพยายามจะส่งข้อความสุดท้ายไปหาพ่อแม่ของพวกเขาก่อนที่จะไม่โอกาสได้ร่ำลา
หนึ่งในข้อความของนักเรียนชายที่ส่งไปหา
คุณแม่ เพื่อที่จะบอกลาคุณแม่เพราะคงไม่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุในครั้งนี้เป็นแน่แล้ว
“แม่ครับ ผมส่งมาให้แม่ตอนนี้เพราะผมกลัวว่าผมอาจจะไม่มีโอกาสได้บอกแม่อีก ผมรักแม่นะ” (รายงานระบุภายหลังว่านักเรียนชายคนนี้รอดมาได้)
อีกหนึ่งข้อความจากนักเรียนหญิงที่คุยกับแม่ “พวกเราใส่เสื้อชูชีพแล้วค่ะ เขาบอกให้พวกเรารอและเตรียมตัวเอาไว้ เรากำลังรอกันอยู่ หนูเห็นเฮลิคอปเตอร์แล้ว”
นอกจากนั้นก็ยังมีแชทระหว่างกลุ่มนักเรียนกับคุณครูผู้ดูแลโฮมรูมที่กำลังร่วมพูดคุยกันว่าคงจะได้พบเจอกันอีกหลังจากที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ไปได้
นักเรียนที่สามารถเอาชีวิตรอดมาจากเรือล่มกล่าวว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากจะกระโดดออกมาจากเรือ ยอมฝ่าฝืนมาตรการความปลอดภัยที่ได้รับแนะนำมาจากกัปตันว่า
ให้รออยู่ในเรือ ซึ่งจากการกระทำเช่นนี้มีนักเรียน
8 คนที่รอดพ้นจากการจมหายไปกับเรือ
ชาวเกาหลีใต้ที่ได้ติดตามข่าวโศกนาฏกรรม
เรือเซวอลส่วนใหญ่ มองว่าหากผู้โดยสารพยายามที่จะหนีออกมาจากเรือแทนที่จะรอคอยความช่วยเหลือ พวกเขาอาจจะรอดชีวิตก็เป็นได้เพราะกว่าเรือจะจมก็กินเวลาไปนานกว่า 2 ชั่วโมง
ห้องเรียนที่ว่างเปล่าและคงสภาพเดิมหลังเกิดโศกนาฏกรรม
ภายหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุและกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของเกาหลีใต้ ภายในห้องเรียนของนักเรียนที่เสียชีวิตถูกตกแต่ง
ไปด้วยดอกไม้และภาพถ่ายของพวกเขา และ
ถูกปล่อยให้คงสภาพเช่นนั้น
สำหรับนักเรียนหลายคนที่เสียชีวิตจากเรือ
เซวอลอับปาง หากพวกเขารอดก็อาจจะได้
เข้าร่วมพิธีจบการศึกษาในปีที่แล้ว และ
อาจมีอนาคตที่สดใสเป็นผู้ใหญ่ในสังคมต่อไป
โฆษณา