17 มี.ค. 2021 เวลา 04:08 • ศิลปะ & ออกแบบ
พรสวรรค์ นนทะภา
ปั้นดินให้เป็นงานศิลป์ระดับชาติ
เรื่อง : ชญานุช วีรสาร (2559)
บ้านหม้อเป็นดินแดนแห่งภูมิปัญญาที่มีชื่อเสียงของมหาสารคาม ทั้งหมู่บ้านมีอาชีพปั้นหม้อกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ “พรสวรรค์ นนทะภา” สนใจศิลปะเครื่องปั้นดินเผาพื้นบ้านจากที่นี่ และขอซื้อดินเหนียวจากชาวบ้านมาเสกสรรค์ปั้นเป็นประติมากรรมชิ้นเอกที่มีชื่อว่า “ความทรงจำในวิถีชีวิตชนบทอีสาน” Memory of Northeastern Way of Life
จุดเริ่มต้นแห่งงานศิลปะชิ้นที่สร้างชื่อให้พรสวรรค์ เกิดจากความชอบในงาน Handmade ของชาวบ้านหม้อ เขามองว่างานเครื่องปั้นดินเผาเป็นเครื่องชี้ให้เห็นถึงอารยธรรม ประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ และเชื่อมโยงให้เห็นถึงการดำรงชีวิต ความเชื่อ ความศรัทธา ศาสนา ตลอดจนภูมิปัญญาของชาวบ้าน แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของสุนทรียะทางด้านศิลปะของคนในสมัยก่อน จากความสนใจนี้เองจึงบังเกิดความคิดสร้างสรรค์ผสมผสานการทดลองโดยใช้กระบวนการจากภูมิปัญญาของชาวบ้านแบบดั้งเดิม ทำให้ประติมากรรมชิ้นเอกได้ปรากฏขึ้นหลังจากนั้น
ก้อนดินเหนียวจากบ้านหม้อถูกขึ้นรูปเป็นความอ่อนช้อยเปรียบได้กับความเรียบง่ายแบบไทยๆ แต่งดงามด้วยลวดลายและพื้นผิวเล็กๆ ที่เกิดจากการใช้หินทิ่มไปทั่วชิ้นงาน เป็นการสร้างสมาธิให้คนทำงานศิลปะ และสะท้อนความขยันอดทนของคนในชนบทด้วย
“ถ้าเรามองผ่านผลงานจะเห็นได้ว่า คล้ายๆ รูปทรงพืชผักผลไม้ที่มีอยู่ในชนบท เช่น ฟักทอง บวบ หรือเมล็ดพันธุ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์แทนค่าวิถีที่พอเพียง ความเรียบง่ายในสังคมเกษตรกรรม มีพืชพันธุ์ธัญญาหารที่อุดมสมบูรณ์แบบอินทรีย์ ไม่มีสารเคมี สังคมมีอยู่มีกิน ร่างกายปลอดสารพิษ สุขภาพแข็งแรง จิตใจก็เป็นสุข เมื่อกายเป็นสุข จิตใจสุข สังคมก็เป็นสุข” เขาเล่าถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ในงาน ซึ่งฟังดูเป็นความหมายที่ไม่ซับซ้อนและเป็นสิ่งที่ใครๆ ต่างก็ปรารถนา
 
งานชั้นดี ย่อมมีรางวัลการันตี...
“ความทรงจำในวิถีชีวิตชนบทอีสาน” ได้รับรางวัลมากกมาย อาทิ รางวัลดีเด่นศิลปกรรมดินเผาแห่งชาติ รางวัลที่ 3 ศิลปกรรมกรุงไทย รางวัลเหรียญทองคุรุศิลป์รุ่น 6 รางวัลดีเด่นศิลปกรรมปตท. ครั้งที่ 30 รางวัลยอดเยี่ยมศิลปกรรมปตท. ครั้งที่ 31 รางวัลเกียรตินิยมเหรียญเงินศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ 61 และ 62
แต่รางวัลสูงสุดในชีวิตที่เขาได้รับคือ “การได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เรารักเราชอบได้จนทุกวันนี้”
 
ประติมากรรมชุดดังกล่าวพาเขาเดินทางไปไกลเพื่อให้คนสนใจศิลปะได้ชื่นชมทั้งในและต่างประเทศ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม
“การสร้างงานชิ้นนี้ของผมเป็นแรงบันดาลใจให้กับนิสิตนักศึกษาในการสร้างสรรค์ศิลปะต่อไป” เขาพูดถึงคุณค่าของงานที่นอกเหนือจากรางวัล “ได้เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างดินบ้านหม้อของมหาสารคามให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ”
ไม่ใช่แค่เป็นความภูมิใจของตัวศิลปินเองเท่านั้น แต่ยังสร้างความภูมิใจให้แก่คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม สถาบันที่เขาสังกัดอยู่ และสถาบันที่เขาจบการศึกษาปริญญาโทอย่างคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามด้วย
“ในทัศนะของผมการทำงานศิลปะในเวทีประกวดเป็นสิ่งที่ดี เป็นทางเลือกหนึ่งให้กับผู้สร้างสรรค์ได้เข้าร่วมกิจกรรม ได้เผยแพร่ผลงานอีกทางหนึ่ง ส่วนรางวัลที่ได้มานั้นเป็นผลพลอยได้ แต่ขอให้เราทำงานอย่างสม่ำเสมอ กล้าที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆ ทำด้วยใจรัก และจริงใจนั่นแหละสำคัญที่สุด” พรสวรรค์กล่าวภายใต้แววตาแห่งความมุ่งมั่น
พร้อมทิ้งท้ายให้ข้อคิดสำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจงานประติมากรรม
“เราต้องขยันหาประสบการณ์ มีความเพียร อดทน รัก และศรัทธาในสิ่งที่เราทำ ทำในสิ่งเราชอบและเข้าใจอย่างจริงจัง”
 
รางวัลเป็นเหมือนพรที่ได้จากสวรรค์ แต่ความขยันทำให้ พรสวรรค์ นนทะภา มีวันนี้
โฆษณา