18 มี.ค. 2021 เวลา 02:16 • ข่าว
ศาลรัฐธรรมนูญไขล็อคอายุความ
จุดเริ่มต้นการยุติคดีค่าโง่ 'โฮปเวลล์'
โครงการระบบการขนส่งทางรถไฟยกระดับในกรุงเทพมหานคร หรือโครงการโฮปเวลล์เป็นโครงการที่มีข้อขัดแย้งระหว่างกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่เป็นคู่สัญญากับบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2533 และมีข้อขัดแย้งต่อเนื่องจนนำมาสู่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) บอกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 30 ก.ย.2540
6
ข้อพิพาทดังกล่าวได้ข้อสรุปเมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ให้กระทรวงคมนาคม ร.ฟ.ท.ดำเนินการตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ โดยจ่ายเงินชดเชยให้บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ภายใน 180 วัน
4
แนวทางของกระทรวงคมนาคมหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการนับอายุความของคดีทางปกครอง (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจฉบับวันที่ 18 มี.ค.2564)
ร.ฟ.ท.คำนวณวงเงินรวมดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายถึงสิ้นเดือน เม.ย.2562 รวม 25,411 ล้านบาท หากนับวงเงินถึงปัจจุบันรวมดอกเบี้ยอาจจะสูงเกิน 30,000 ล้านบาท แต่ขณะนี้รัฐยังไม่จ่ายเงินชดเชยและเดินหน้าหาทางออกทางกฎหมาย
2
รวมทั้งที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้เจรจากับบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อขอลดดอกเบี้ยและขอขยายเวลาการชำระหนี้ รวมทั้งการยื่นชะลอการบังคับคดี ในขณะที่ด้านกฎหมายได้ขอฟื้นคดีใหม่แต่ไม่สำเร็จ
1
แต่หลังจากที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้นัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน (ผู้ร้อง) ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 กรณีมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2545 วันที่ 27 พ.ย.2545
โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 2 ว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2545 เรื่องปัญหาเกี่ยวกับระยะเวลาการฟ้องคดีปกครอง เป็นการออกระเบียบตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ พ.ศ. 2542 มาตรา 44 แต่มิได้ดำเนินการตามมาตรา 5 และมาตรา 6 วรรคหนึ่ง จึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 197 วรรคสี่
3
ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเกิดจากกระทรวงคมนาคมส่งเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาว่าระเบียบการนับอายุความขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
4
ครั้งนั้นผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่ามติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้ส่งให้สภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบ ไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา มติดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่สามารถใช้บังคับได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้กระทรวงคมนาคมมีความหวังที่จะไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยให้โฮปเวลล์ เพราะมีเหตุที่ทำให้กระทรวงคมนาคมยื่นศาลปกครองขอให้พิจารณาคดีใหม่
เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากนายประวิตร บุญเทียม โฆษกศาลปกครอง ว่า
1
"การที่กระทรวงคมนาคมยื่นขอให้ศาลปกครองพิจารณาคดีใหม่ได้ เพราะมีเหตุใหม่เพิ่มจากคำขอพิจารณาคดีใหม่ครั้งที่ผ่านมา โดยถ้ายื่นมาศาลปกครองจะนำคำวินิจฉัยฉบับเต็มของศาลรัฐธรรมนูญมาพิจารณาประกอบ และผลการพิจารณาขึ้นกับดุลพินิจศาลปกครอง"
คำอธิบายของโฆษกศาลปกครองอธิบายได้ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีผลต่อศาลปกครอง ดังนั้นหากจะให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลต่อคดี จะต้องให้กระทรวงคมนาคมยื่นให้ศาลปกครองพิจารณาคดีใหม่
1
จึงนับเป็นจุดเริ่มของทางออกที่รัฐอาจไม่ต้องจ่ายค่าโง่ให้กับเอกชน
โฆษณา