18 มี.ค. 2021 เวลา 11:00 • ข่าว
คดีฆาตกรรมโหด ครอบครัววัตต์ และ จดหมายจากฆาตกร
5
วันที่ 13 สิงหาคม 2018 : ที่เมือง Frederick รัฐ Colorado สหรัฐอเมริกา ตำรวจได้รับแจ้งว่า Shannan Watts และ ลูกสาวทั้งสองคนของเธอก็คือ Bella Watts วัย 4 ขวบ และ Celeste Watts วัย 3 ขวบได้หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา สร้างความกังวลให้กับสามี Chris Watts รวมไปถึงเพื่อนและครอบครัวของพวกเธอเป็นอย่างมาก
2
Chapter 1 : Background ของครอบครัว Watts
เรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลจะเป็นอย่างไรนั้น จะต้องย้อนกลับไปในช่วงปี 2009 ที่ Shannan Watts หรือชื่อเดิม Shannan Cathryn Rzucek ได้เริ่มออกเดทกับ Chris Watts หรือ ชื่อเดิม Christopher Lee Watts จากการส่งคำขอเป็นเพื่อนใน Facebook จนทั้งคู่ได้พัฒนาความสัมพันธ์ และตัดสินใจแต่งงานกันในที่สุด เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2012 หลังจากนั้นทั้งคู่ได้ย้ายรัฐจาก รัฐ North Carolina ไปสร้างบ้านและครอบครัวร่วมกันที่เมือง Frederick รัฐ Colorado โดยให้กำเนิด ลูกสาวที่น่ารักทั้งสองคนคือ Bella Marie Watts ในวันที่ 17 ธันวาคม 2013 และ Celeste Cathryn Watts ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2015 ตามลำดับ ซึ่งทั้งคู่เกิดมาด้วยความช่วยเหลือจากเทคนิคทางการแพทย์ เนื่องจาก Shannan ป่วยด้วยโรค SLE (Systematic Lupus Erythematosus) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ โรคพุ่มพวง ซึ่งเป็นโรคที่ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะทำลายเนื้อเยื่อของตนเองทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง โดยอาการของโรคนี้จะมีการกำเริบและสงบเป็นระยะ ทำให้เธอไม่สามารถมีบุตรด้วยวิธีการทางธรรมชาติได้ และเมื่อทุกคนมองเข้ามาจะพบกับครอบครัวที่น่ารัก ที่มีพ่อแม่ และ ลูกสาวสองคนอยู่กันอย่างมีความสุข
7
ทว่า Celeste ลูกสาวคนเล็กนั้น เกิดมาด้วยภาวะ Narrow Esophagus หรือ หลอดอาหารตีบแคบตั้งแต่กำเนิด จำเป็นต้องผ่าตัดและรักษาตัวที่โรงพยาบาล อีกทั้ง Shannan ยังเป็นโรค SLE ทำให้ Chris และ Shannan ซึ่งมีรายได้ร่วมกันประมาณ 90,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ณ ช่วงเวลานั้น ไม่อาจรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวของ Shannan และ Celeste กว่าเดือนละ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐ ได้นานนัก รวมถึงเวลาต่อมา Shannan ได้เข้ารับการผ่าตัดกระดูกคอ หรือ Cervical Surgery โดยมีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดครั้งนี้สูงถึง 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งยังมีหนี้บัตรเครดิตอีกมายมาย และนั่น ก็ทำให้ทั้งคู่ถูกฟ้องล้มละลาย ด้วยหนี้สิน กว่า 448,820 ดอลลาร์สหรัฐ
4
แม้ครอบครัวนี้จะผ่านเหตุการณ์ล้มลุก คลุกคลานมามาก แต่ด้วยความมุมานะของ Chris และ Shannan ทำให้ในปี 2016 พวกเขามีโอกาสได้เข้าทำงาน ที่มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น โดย Shannan เป็นเซลล์ขายตรงของบริษัท Level company เธอตั้งใจทำงาน จำหน่ายสินค้าของบริษัทและเข้าอกเข้าใจลูกค้าเป็นอย่างมาก จนบริษัทยกให้เธอเป็นท็อป 5 ของบุคลากรที่ประสบความสำเร็จและมอบรถยี่ห้อ Lexus ให้กับเธออีกด้วย ส่วน Chris ได้ทำงานที่ Anadako Petroleum โดยเขาเป็นวิศวกร ของบริษัทนั้น
ครอบครัว Watt
Chapter 2 : The breakdown
ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2018 Shannan ก็ได้รับข่าวดีว่าเธอตั้งครรภ์ลูกคนที่สามด้วยวิธีการทางธรรมชาติเธอดีใจมากและวางแผนเซอร์ไพรซ์สามี และเมื่อเขาได้รู้ก็บอกว่ามันเยี่ยมยอดมาก เหตุการณ์ทุกอย่างดูเหมือนจะดำเนินไปตามปกติ Shannan ก็ได้วางแผนที่จะเฉลยเพศของลูก ให้คนในครอบครัวของ Chris และของเธอในวันที่ 19 สิงหาคม 2018 โดยจะทำการอัลตร้าซาวด์ดูเพศของลูกในอีกประมาณเกือบ 3 เดือนข้างหน้า ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2018 เธอตื่นเต้นมาก หากแต่สามีเธอดูไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าใดนัก และเหตุการณ์ดังต่อไปนี้จะนำไปสู่การฆาตกรรมที่โด่งดังและสะเทือนใจคนมีครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง
วันที่ 27 มิถุนายน 2018 Shannan ตัดสินใจพาลูกสาวทั้งสองคนของเธอไปพักผ่อนกับแม่ของเธอที่รัฐ North Carolina ถึงหกสัปดาห์แต่ Chris ไม่ได้ไปด้วย เนื่องจากงานของเขาไม่สามารถลางานหรือลาพักร้อนได้เป็นเวลานานซึ่งเขาก็สัญญาว่าจะตามไปในอาทิตย์สุดท้ายเพื่อใช้เวลาร่วมกัน แต่ในระหว่างห้าสัปดาห์ ที่ทั้งคู่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน Shannan ก็ระแคะระคายว่าสามีของเธอได้เปลี่ยนไป เธอคิดว่า เขานอกใจเธอ เนื่องจากเขาไม่ยอมรับสายเธอบ่อยๆ และไม่ค่อยตอบข้อความของเธอด้วย ซึ่งทุกครั้งที่เธอโทรไป เขาจะเอาแต่บอกว่า เขากำลังออกกำลังกาย หรือ ทำงานอยู่ตลอดเวลา ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันมากขึ้น จน Shannan ตั้งใจจะเข้ารับการปรึกษาปัญหาชีวิตคู่แต่ Chris ปฏิเสธ อีกทั้งยังบอกว่าเขาไม่ค่อยมีความสุขที่จะมีลูกคนที่สามกับเธอสักเท่าไหร่ เขาพอใจที่จะมีลูกสองคนมากกว่า ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอมั่นใจว่าเขานอกใจเธออย่างแน่นอน
2
และใช่ Chris ได้นอกใจเธอจริงๆ ไปกับ เพื่อนร่วมงานของเขา ที่มีชื่อ ว่า Nichol Kessinger พวกเขาออกเดทกันบ่อยครั้ง ในระหว่างที่ Shannan และลูกๆไม่อยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่สนามแข่งรถ พิพิธภัณฑ์รถเก่า ร้านอาหาร หรือแม้แต่ในบ้านของเขาเอง พวกเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเลยเถิดต่อกันหลายครั้ง ตลอดเวลา Chris บอกกับ Nichol ว่า เขากำลังจะหย่าขาดกับภรรยา ตอนนี้ทั้งคู่ได้แยกกันอยู่ และไม่กี่วันก่อนเขาจะบินตามไปสมทบกับ Shannan เขาได้พา Nichol ไปท่องเที่ยวและค้างคืน ที่ Great Sand Dunes National Park อีกทั้ง Nichol ยังคอยส่งรูปวาบหวิวให้กับ Chris หลายรูป ซึ่งเขาก็ฉลาดพอที่จะเก็บรูปเหล่านั้นไว้ในแอพเก็บรูปที่มีหน้าตาของแอพพลิเคชัน เป็นเครื่องคิดเลข ดังนั้น หากว่า Shannan พยายามที่จะค้นโทรศัพท์มือถือของเขามากแค่ไหน เธอก็จะไม่พบสิ่งใด
1
วันที่ 30 กรกฎาคม 2018 Chris ได้บินไปหา Shannan และลูกๆที่รัฐ North Carolina แต่ Shannan พบว่าเขาไม่กอดไม่สัมผัสเธอเหมือนเดิม เขาปฏิบัติตัวต่างจากทุกครั้งไปมาก เขาปฏิเสธที่จะมีเซ็กส์กับเธอทำให้เธอสงสัยเป็นอย่างมากว่าตลอดห้าสัปดาห์ที่ผ่านมาเค้าไม่มีความรู้สึกคิดถึงเธอหรืออย่างไร Shannan ได้ปรึกษากับเพื่อน แต่เพื่อนของเธอพยายามปลอบใจเธอว่า ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น ถึงกระนั้นความรักที่มีต่อสามีทำให้เธอคิดได้ว่าอาจจะมีอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เขาห่างเหินกับเธอนั่นก็คือ เรื่องที่เธอเคยทะเลาะกับพ่อแม่ของเขาเนื่องจากพ่อแม่ของเขามักจะสั่งอาหารที่มีถั่วลิสงมาให้เด็กๆเห็น ซึ่งลูกสาวทั้งสองของเธอแพ้ถั่วลิสงอย่างรุนแรงจนถึงขั้นอาจอันตรายถึงชีวิต และเธอคิดว่าพ่อแม่สามี ไม่ได้ใส่ใจกับรายละเอียดที่สำคัญตรงนี้เลย แม้กระทั่ง ในวันที่ทั้งคู่กลับมาถึงบ้านที่ รัฐ Colorado ก็ยังทะเลาะกันตลอดเวลาจนถึงขั้น Shannan ยกเลิกงานเฉลยเพศของลูก ที่เธอได้พบว่า เธอได้ ลูกชายและมีแผนจะตั้งชื่อลูกว่า Niko Lee Watts
5
แม้ Shannan จะคลางแคลงใจ แต่เธอก็มีงานของบริษัทที่จะต้องบินไปยังรัฐ Arizona กับเพื่อนสนิทของเธอ ชื่อว่า Nickole Atkinsonโดยที่ลูกๆของเธอไม่ได้ไปด้วย Shannan สับสนและเจ็บปวดที่สามีละเลยเธอ ก่อนไปเธอจึงพยายามเขียนจดหมายปรับความเข้าใจกับสามี พยายามโทรหาและขอคุยกับลูกของเธอถามไทยว่าลูกเป็นอย่างไรบ้าง แต่ Chris กลับส่งรูปภาพที่เป็นตุ๊กตาและมีทิชชู่คลุมหน้ากลับไปให้เธอ ทำให้เธอคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดมากๆ และเช่นเคยเมื่อ Shannan ไม่อยู่ Chris ได้จ้างพี่เลี้ยงซึ่งเป็นลูกสาวของเพื่อนที่ชื่อ Jeremy Lindstrom มาดูแลลูกสาวในวันที่ 11 สิงหาคม 2018 เพื่อที่จะได้ไปออกเดทกับ Nichol ชู้รักของเขาอีกครั้ง ทั้งคู่เดทกันที่ร้าน The Lazy dog Sports Bar and Grill in Erie รัฐ Colorado
1
ถัดมา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2018 Shannan ได้ส่งข้อความหา Chris ตอนเช้าว่า สวัสดีตอนเช้าที่รัก ฉันคิดถึงคุณกับลูกๆ มาก ขอดูรูปของลูกๆหน่อยได้ไหม และ Chris ก็ส่งรูปของ Bella กับ Celesteให้กับเธอ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นรูปสุดท้ายของเด็กทั้งสองที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากนั้น Chris โทรบอกเพื่อนร่วมงานของเขา Kodi Robert ว่า เขาจะไปทำงานในการเช็คพื้นที่ของบ่อน้ำมันดิบ CERVI 3-19 แทนเพื่อนของเขาเอง
ส่วน Shannan ในระหว่างทางกลับบ้านเธอได้บอกเพื่อนของเธอ Nickole ว่าวันพรุ่งนี้เธอมีนัดกับหมอเพื่ออัลตราซาวด์เช็คดูลูกของเธออีกครั้งเวลา 10 โมงเช้า ของวันที่ 13 สิงหาคม 2018 Shannan ได้ขอให้เพื่อนเธอไปส่งด้วยซึ่ง Nickole ก็ตอบตกลง หลังจากนั้นเวลา Nickoleให้การภายหลังว่า นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอเห็น Shannan
Chris และ Nichol Kessinger
Chapter 3 : The Disappearance การหายตัวไป
เวลา 05.30 น. Chris ได้ขับรถของเขาออกไปทำงานและได้ขนอะไรบางอย่างขึ้นรถไปด้วย
1
เวลา 08.25 น. Chris ได้โทรหา Shannan แต่เธอไม่ได้รับสาย จากนั้นเขาจึงโทรหาโรงเรียนของ Bella และ Celeste บอกพวกเขาว่า Shannan จะไปส่งลูกๆที่โรงเรียน เขาไม่ได้ไปส่งเด็กๆ และตลอดทั้งเช้าวันนั้น Nickole เพื่อนของ Shannan พยายามติดต่อเธอหลายครั้ง แต่ Shannan ไม่เคยรับสายเลย ซึ่งผิดปกติมากๆเพราะด้วยนิสัยส่วนตัวของ Shannan ที่เป็นคนที่ค่อนข้างติดมือถือ รวมทั้งงานของเธอคือการโทรคุยกับลูกค้า ทำให้ Nickole กังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
1
ดังนั้นเมื่อเวลา 12:10 น. Nickole และลูกชายของเธอได้ขับรถมายังบ้านของ Shannan เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อพวกเขามาถึง พบว่าประตูหน้าต่างถูกล็อกทั้งหมด พวกเธอพยายามเคาะประตูและตะโกนเรียก Shannan แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน เธอจึงนึกขึ้นได้ว่าโรงจอดรถอาจจะมีรถ Lexus ของเธอจอดอยู่ จึงลองมองไปข้างใน พบว่า รถนั้นยังจอดอยู่พร้อมกับคาร์ซีทของลูกสาว Nickole กลัวว่าเพื่อนของเธอจะเป็นลมในบ้าน เนื่องจาก Shannan เป็นโรคเบาหวาน จึงพยายามใส่รหัสประตูเข้าบ้าน แต่ Chris ได้รับการแจ้งเตือนในโทรศัพท์ว่ามีคนพยายามจะเข้าบ้านของเขา เมื่อเขาตรวจสอบกล้องวงจรปิด จึงรู้ว่าเป็นใคร เขาจึงโทรหา Nickole แล้วถามว่าทำไมเธอถึงจะพยายามเข้าบ้านของเขา ซึ่งเธอก็ตอบว่า เธอติดต่อ Shannan ไม่ได้ แม้จะพยายามโทรหาทั้งพ่อแม่ของเธอว่าเธอไปหาพวกท่านหรือไม่ และตามไปที่คลีนิคที่เธอมีนัดอุลตร้าซาวด์แล้ว แต่ไม่พบ พร้อมกับถาม Chris ว่า เขารู้ไหมว่า Shannan อยู่ที่ไหน หรืออาจจะไปที่ไหนกับใครหรือเปล่า
2
Chris ตอบกลับมาว่า เขาอยู่ห่างออกไปไม่นานและอย่าเพิ่งแจ้งตำรวจ แต่ด้วยความร้อนใจ ของ Nickole เธอได้แจ้งตำรวจทันที และตำรวจที่รับเรื่องในวันนั้นก็คือ เจ้าหน้าที่ Scott Coonrod ซึ่งได้มาถึงที่นั่นเวลา 13.50 น. เขาพยายามสำรวจบ้านรอบๆเพื่อหาทางเข้าไปในบ้าน แต่ก็ไม่พบทางเข้าใดๆ เขาติดต่อ Chris อีกครั้งเพื่อขอรหัสเข้าบ้าน แต่ Chris บอกว่าเขาใกล้จะถึงแล้ว ขอเวลาให้เขา 5 นาที และเมื่อ Chirs มาถึงภาพจากกล้องที่ติดกับหน้าอกของเจ้าหน้าที่ บันทึกไว้ว่า สิ่งแรกที่เขาทำกลับเป็นการ ตรวจเช็คอะไรบางอย่างทางที่นั่งด้านหลังคนขับ ก่อนจะเดินมาทักทายตำรวจ และเปิดบ้านให้ทุกคนได้เข้าไปสำรวจ เขาวิ่งขึ้นไปที่ห้องนอน และออกมาพร้อมกับแหวนแต่งงานของ Shannan ท่าทีของเขาค่อนข้างลุกลี้ลุกลน และไม่ได้แสดงท่าที่ว่า อยากจะตามหาภรรยาและลูกๆแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงถามว่า ในวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง Chrisได้บอกว่า Shannan มาถึงที่บ้านประมาณ ตีสอง ซึ่งเขาและลูกๆได้นอนไปแล้ว หลังจากนั้นเขาก็ตื่นมาตีห้าเพื่อเตรียมตัว เตรียมอุปกรณ์ ออกไปทำงานในเวลา 05.27 น. Shannan ได้บอกกับเขาว่า วันนี้จะไปเจอเพื่อน แต่เขาไม่รู้ว่า เป็นเพื่อนคนไหน บ้านของเพื่อนอยู่ที่ไหน และจะไปในเวลาเมื่อไหร่
8
ทางด้าน Nickole พบว่า Shannan ได้ทิ้งโทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าสะพายของเธอไว้ที่บ้าน ซึ่งน่าแปลกมาก เพราะในกระเป๋าสะพายของเธอมียาประจำตัวของเธออยู่ เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะหายไปแบบนี้ จึงสอบถามระแวกบ้านว่ามีใครพบเห็น Shannan กับลูกๆไหม และโชคดีที่เพื่อนบ้านของ Chris บอกกับตำรวจว่า เขามีกล้องวงจรปิด ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ตำรวจจึงขอดูภาพบันทึก ซึ่งนั่นทำให้ Chris มีท่าทีมีพิรุธมากกว่าเดิม เพราะเขาแทบจะไม่ดูภาพวงจรปิดเลย แต่กลับสังเกตการณ์ผู้ที่มาดูภาพกล้องวงจรปิดรอบๆมากกว่า แม้กระทั่งเพื่อนบ้านยังบอกแก่ตำรวจว่า Chris นั้นดูไม่เป็นธรรมชาติเลย และเมื่อดูภาพในกล้องวงจรปิดแล้ว ก็ไม่อาจบอกอะไรได้มากนัก เนื่องจาก เป็นมุมที่ค่อนข้างไกลและไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่ทราบแน่นอนว่า ในวันนั้น Shannan ไม่ได้ออกไปไหน และไม่มีใครมารับเธอออกไปจากที่บ้านแน่นอน
4
ยิ่งไปกว่านั้น Sandra Zrucek แม่ของ Shannan ได้โทรหาเจ้าหน้าที่ Scott บอกว่า Chris น่าจะมีส่วนในการหายตัวไปของลูกสาวเธอ เพราะทั้งสองคนกำลังทะเลาะกัน และอยู่ในช่วงระหองระแหงกัน เมื่อไม่สามารถหาตัว Shannan ได้ เจ้าหน้าที่ Scott จึงเรียกกำลังเสริมมาสอบปากคำกับ Chris แต่ครั้งนี้ เขาได้ให้การต่างไปจากเดิม ซึ่งเขาบอกว่า Shannan เดินทางมาถึงบ้านในเวลา 01.48 น. (สาเหตุที่เขาบอกเวลาที่ถูกต้องเพราะ เขาได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดมาแล้ว) ส่วนตัวเขาได้ตื่นนอนเวลา ตีสี่ เพื่อมาออกกำลังกายที่ชั้นใต้ดินประมาณ 15 นาที จากนั้นขึ้นมาหา Shannan แล้วทั้งคู่ก็ทะเลาะกัน เนื่องจากเขาต้องการที่จะหย่ากันเธอ พอเวลา 05.27 น. เขาก็ได้ออกไปทำงานและพยายามติดต่อเธอ อีกสองครั้งในเวลา 07.40 น. และเวลา 08.25 น. แต่เธอก็ไม่ได้รับสาย
3
Chapter 4 : Investigation การสืบสวนสอบสวน
ในวันที่ 14 สิงหาคม 2018 หนึ่งวันหลังจากการหายตัวไปของฉัน Shannan ตำรวจและเอฟบีไอ ได้ทำการสืบสวนสอบสวนอย่างเข้มข้น รวมทั้งสำนักข่าวสื่อต่างๆได้ให้ความสนใจกับคดีนี้เป็นอย่างมาก รวมถึงช่องข่าว Danver 7 news ที่ได้เข้าไปสัมภาษณ์ Chris Watts ซึ่งในการสัมภาษณ์นั้น เขาไม่ได้ดูจริงใจ หรือ เสียใจอย่างแท้จริง เมื่อเจ้าหน้าที่ไปสอบถามทั้งเพื่อนบ้าน เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน และครอบครัวของทั้งคู่ ก็มองว่า มีเพียง Chris เท่านั้นที่ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไป ของ Shannan และลูกๆมากที่สุด จึงขอให้เขามาเข้าเครื่องจับเท็จ ซึ่ง Chris ก็ยินยอม
2
Chapter 5 : The Confession การสารภาพผิด
การหายตัวไปของ Shannan Watts และลูกๆเข้าวันที่สอง สถานการณ์เริ่มตึงเครียด ทางด้านเจ้านายของ Chris ชื่อว่า Tony Huskey ได้เข้าไปค้นข้อมูลในคอมพิวเตอร์ที่ทำงานของเขา พบว่ามีข้อความที่เขาและ Nichol Kessinger ได้คุยโต้ตอบกันทำนองชู้สาว จึงส่งข้อมูลเหล่านี้ให้เอฟบีไอ และเมื่อ Chris ต้องเข้าเครื่องจับเท็จ โดยเจ้าหน้าที่ Tammy Lee จาก CBI (Colorado Bureau of investigation) เขาก็ไม่ผ่านคำถามข้อสำคัญ ถึง 3 ข้อด้วยกัน นั่นก็คือ
2
ข้อ 1 คุณโกหกหรือเปล่าเวลาที่คุณเห็น Shannan เป็นครั้งสุดท้ายมันไม่ใช่ 01.48 น.
เขาตอบว่า เขาไม่ได้โกหก = ไม่ผ่าน ,
ข้อ 2 คุณรู้มั้ยว่าตอนนี้ Shannan อยู่ที่ไหน
เขาตอบว่า ไม่รู้ = ไม่ผ่าน ,
ข้อ 3 คุณใช่มั้ยที่เป็นคนที่ทำให้ Shannan Watts หายตัวไป
เขาตอบว่า ไม่ใช่ = ไม่ผ่าน
หลังจากผลจากเครื่องจับเท็จออกมาว่า เขาไม่ผ่าน เจ้าหน้าที่ FBI และ CBI เข้ามาถามเขาว่ามีอะไรจะสารภาพไหม ซึ่งเขาก็ตอบว่า ไม่รู้อะไรทั้งนั้น ระหว่างนั้นเอฟบีไออีกกลุ่มหนึ่งได้แกะรอย GPS จากรถของ Chris พบว่าในเช้าวันนั้นเขาได้เข้าไปที่บริเวณ CERVI 3-19 จริงๆ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ไปสำรวจบริเวณรอบๆ พบหลักฐานบางอย่างเพิ่มมากขึ้น
ทางด้าน Chris ที่กำลังตึงเครียดหลังจากถูกสอบสวนมาเป็นเวลานาน เขาก็ได้ขอพบพ่อของเขา และสารภาพกับพ่อของเขาในที่สุด โดยมีเจ้าหน้าที่ได้ดักฟังเสียง และอัดวิดีโอในห้องนั้น ว่า เขานอกใจภรรยาจริงและเขาเป็นคนฆ่าเธอ เพราะโกรธที่เธอบีบคอลูกลูกจนเสียชีวิต ศพของทั้งสามคนถูกค้นพบในบริเวณที่ทำงานของเขา โดย Bella และ Celeste ถูกพบในบ่อน้ำมันคนละบ่อ ส่วน Shannan ถูกพบร่างฝังอยู่ทิศที่บริเวณใกล้ใกล้นั่นเอง
1
และแล้ว วันที่ 6 พฤศจิกายน 2018 Chris ได้ยอมรับสารภาพดังนี้
ในวันนั้นเขาได้กระทำการบีบคอของ Shannan จนสิ้นลมหายก่อน แล้ว Bella ลูกสาวคนโต ได้เข้ามาเห็นแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของเธอ เขาบอกลูกว่า แม่ไม่ค่อยสบาย จึงเอาผ้าปูที่นอน คลุมของภรรยาและพาขึ้นรถพร้อมกับลูกๆไปด้วย ในเวลานั้น Bella และ Celeste ยังมีชีวิตอยู่ อย่างแรกที่เขาทำเมื่อไปถึงพื้นที่ CERVI 3-19 ก็คือขุดหลุมฝังศพของ Shannan ก่อน หลังจากนั้นก็ทำการฆาตกรรม Celeste ลูกสาวคนเล็กวัยสามขวบโดยใช้ผ้าห่มของเธอปิดปากและจมูก (Smothering) จนขาดอากาศหายใจ จากนั้นก็มาฆ่า Bella ลูกสาวคนโตวัย สี่ขวบ แต่ก่อนนั้น Bella ได้บอกว่า หนูจะต้องเป็นเหมือนน้องหนูใช่ไหม อย่าค่ะ พ่อ อย่าทำ แต่เธอก็โดนพ่อของเธอบีบคอจนเสียชีวิต หลังจากนั้น Chris ก็กลับไปทำงานตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
5
ทั้งสามศพ ได้ถูกชันสูตรโดยทางนิติเวชศาสตร์ โดยสาเหตุของการเสียชีวิตของ Shannan,Bella และ Celeste Watts คือ Asphyxia หรือ การขาดอากาศหายใจเสียชีวิต โดยเฉพาะ Bella ที่ก่อนเสียชีวิต เธอได้ต่อสู้ดิ้นรน กัดลิ้น กัดปาก และกัดเหงือกของตัวเองด้วยความทรมาน ก่อนจะสิ้นใจ
3
ในที่สุด เขาถูกตัดสินให้มีความผิดทั้งหมด 9 ข้อหา นั่นก็คือ 3 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , 2 ข้อหา เพิ่มเติมเนื่องจากลูกๆ ยังเป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี , 3 ข้อหา ในการปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ และ 1 ข้อหา การยุติการตั้งครรภ์ อย่างผิดกฏหมาย ซึ่งก็คือ ลูกชายที่อยู่ในครรภ์ของ Shannan นั่นเอง ทำให้เขาได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต สาเหตุที่เขาไม่ได้รับตัดสินโทษให้ประหารชีวิต เนื่องจากเขาได้ยอมรับสารภาพแต่โดยดี
Chapter 6 : จดหมายจาก Chris Watts
หลังจากที่เขาถูกจับกุม และ ถูกตัดสินโทษ จำคุกตลอดชีวิต ก็ได้มีสื่อต่างๆ พยายามจะสัมภาาณ์เขามากมาย แต่เขาก็ไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด จนกระทั่ง หลังจากเขาอยู่ในเรือนจำไม่นาน เขาจึงเขียนจดหมายขึ้นมาฉบับหนึ่ง ให้แก่ Cheryln Cadle นักเขียนหนังสือคนนึง เพื่อสารภาพการกระทำ และ ความรู้สึกในขณะที่เขากำลังฆ่าภรรยาและลูกๆของเขาไว้ดังนี้
1
Chapter 6 : จดหมายจาก Chris Watts
หลังจากที่เขาถูกจับกุม และ ถูกตัดสินโทษ จำคุกตลอดชีวิต ก็ได้มีสื่อต่างๆ พยายามจะสัมภาาณ์เขามากมาย แต่เขาก็ไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด จนกระทั่ง หลังจากเขาอยู่ในเรือนจำไม่นาน เขาจึงเขียนจดหมายขึ้นมาฉบับหนึ่ง ให้แก่ Cheryln Cadle นักเขียนหนังสือคนนึง เพื่อสารภาพการกระทำ และ ความรู้สึกในขณะที่เขากำลังฆ่าภรรยาและลูกๆของเขาไว้ดังนี้
2
‘‘ ในวันที่ 12 สิงหาคม หลังจากที่ผมได้ส่งลูกลูกเข้านอน ผมเดินออกจากห้องลูกลูก แล้วคิดว่านี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะทำหน้าที่พ่อ เพื่อส่งลูกเข้านอน ผมรู้ว่าการตายของทุกคนจะต้องเกิดขึ้นแต่ถึงแม้ผมจะรู้ ผมก็ไม่มีความคิดที่จะหยุดการกระทำของผมเลย ผมนั่งคิดทบทวนถึงวันที่ผมนั่งจัดงานวันเกิดให้ลูก เล่นกับพวกเขา เด็กเด็กชอบเล่นลูกโป่งน้ำ เรามีความทรงจำที่ดีด้วยกัน ร้องเพลงด้วยกันระหว่างทางขับรถกลับบ้าน ผมอาบน้ำให้เด็กๆ พวกเราทานอาหารเย็นร่วมกัน และก่อนนอนผมก็เป็นคนที่จะอ่านหนังสือและร้องเพลงกล่อมพวกเขา และเมื่อ Shannan ได้ไปทำงานต่างที่ ผมมักจะพาเด็กเด็กไปเที่ยวนอกบ้านเพราะมันจะเป็นเวลาที่ได้สานสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก และในคืนนั้น คืนก่อนเกิดเรื่องราวทั้งหมด ผมไม่อยากคิดถึงฉากสุดท้ายของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเช้าอีกวันเลย
1
ในวันที่ 13 สิงหาคมคืนนั้น ผมได้เดินไปยังห้องของลูกลูก เหตุการณ์นี้เกิดก่อนที่ผมจะมีปากเสียงกับ Shannan ผมได้เดินเข้าไปที่เตียงของเบลล่าแล้วก็ซีซี ผมได้ใช้หมอนกดเข้าไปที่หน้าของพวกเธอและนี่มันคือเหตุผล ที่ผลชันสูตรพบว่าเด็กเด็กมีร่องรอยของการถูกหมอนกดไปที่หน้า เมื่อผมลงมือเสร็จแล้ว ผมได้กลับไปยังห้องนอนที่ Shannan รออยู่ตรงนั้น เรามีปากเสียงกันจนผมได้ทำการบีบคอเธอ จนเธอเสียชีวิต
3
มันดูแปลกไหมล่ะเมื่อลองนึกถึงเหตุการณ์นี้ผมยังจำหน้าของเธอที่โดนผมบีบคอจนหน้าเธอคล้ำและเลอะไปด้วยมาสคาร่าได้ดีเลยหล่ะ
1
ตลอดช่วงอาทิตย์ก่อนที่ผมจะลงมือ ผมนั่งคิดถึงการฆ่าเธอและตอนนี้ผมกำลังทำมันอยู่ และเมื่อเธอดูเหมือนเริ่มจะหมดสติผมยังคงบีบคอของเธอบีบแรงขึ้นไปอีก บีบหลอดเลือดดำ จนเลือดไม่ไปเลี้ยงสมองของเธอและสุดท้ายเธอก็เสียชีวิต
ผมรู้ว่า หากผมผ่อนแรงมือที่บีบคอเธอ เธอก็คงจะยังรั้งผมไม่ให้ผมไปอยู่กับ Nichol Kessinger ใครหลายๆหลายคนถามว่าแล้วทำไมเธอไม่สู้กลับล่ะ คำตอบง่ายง่ายก็คือเธอไม่สามารถทำได้ ดวงตาของเธอเป็นสีแดงฉาน เต็มไปด้วยเลือดเธอมองหน้าผม แล้วเธอก็ตายไป เมื่อผมรู้ว่าเธอตายผมจึงปล่อยมือออกจากคอเธอหลังจาก Shannan ตายอยู่ดีดี Bella และ CC ก็ได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมเด็กเด็กถึงฟื้นขึ้นมาได้ ตาของเบลล่สมีรอยช้ำเป็นอย่างมาก เด็กทั้งสองคนดูเหมือนผ่านอุบัติเหตุร้ายแรงมา. นี่มันทำให้เหตุการณ์ดูเลวร้ายลงไปอีกเพราะเด็กเด็กรู้ว่าผมได้ทำอะไรกับพวกเธอ และพวกเธอก็คงรู้ว่าผมจะต้องทำแบบนี้อีกครั้งที่บ่อน้ำมันที่ผมทำงาน
7
เด็กเด็กเริ่มวิ่งไปทั่วบ้านสายตาของพวกเธอมองผมด้วยความกลัว เบลล่าเริ่มที่จะร้องไห้เมื่อซีซีเห็นพี่สาวของเธอร้องไห้ซีซีก็เลือกที่จะร้องตาม มันดูเป็นฝันร้ายของเด็กเด็ก การที่เด็กเด็กทำแบบนี้มันเหมือนกับว่าพระเจ้าได้เตือนผมให้หยุดในทุกๆสิ่งที่ผมจะทำต่อจากนี้แต่ผมในตอนนั้นผมยังเต็มไปด้วยความโกรธที่พวกเด็กเด็กยังมีชีวิตอยู่
6
ผมได้นำร่างของฉันนัดเข้าไปขุดฝังเมื่อผมขุดหลุมหลุมที่ผมขุดมันดูลึกเอามากๆและ เมื่อผมได้ดึงผ้าคลุมตัว Shannan ออกเธอก็กลิ้งลงไปอยู่ในหลุมที่ผมขุดในตอนนั้น ผมเห็นว่าเธอได้คลอดลูกออกมาด้วยหน้าของเธอแนบลงกับพื้นเลยผมยังจำได้ว่าผมหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ที่ผมไม่ต้องไปจัดท่าทางอะไรของเธอเลยและเมื่อผมจัดการกับ Shannan เสร็จผมก็ได้เดินกลับมาที่รถใช้ผ้าห่มของของซีซีในการอุดปากอุดจมูกปลิดชีวิตเธอ จากนั้นผมก็ได้นำร่างของซีซีประโยชน์ลงบ่อน้ำมัน
2
ผมแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าทำไมมันง่ายถึงเพียงนี้ ผมโยนเธอลงผ่านรูถัง ทั้งเชื่อไหมหล่ะว่า ผมได้ยินเสียงที่ร่างของซีซีตกกระทบกับน้ำมันจากนั้นผมก็เดินกลับมาจัดการกับเบลล่า เบลล่าเธอเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งเรื่องแม่ของเธอและน้องของเธอ. ตอนนั้นผมรับรู้ได้ว่าเบลล่าเธออยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปมากๆเพราะเธอเป็นเพียงคนเดียวที่คิดจะสู้กับผม เธอถามว่า เธอต้องเป็นแบบน้องของเธอใช่มั้ย เธออ้อนวอนผม No,daddy,no ! อย่าค่ะพ่อ อย่า ! เธออาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงต้องตาย แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอรู้คือผมคือคนที่ฆ่าเธอ ... ’’
6
ซึ่งระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ Chris ได้มีผู้หญิงเขียนจดหมายรักและให้กำลังใจเขา บางคนก็ส่งรูปภาพวาบหวิวของตนเองเข้ามาด้วยมากมาย หนึ่งในนั้นได้บอกว่า ฉันหวังว่าฉันจะเป็นแสงสว่างในชีวิตคุณหรือฉันรู้สึกมีความผูกพันกับคุณ หรือ ในใจฉันคุณคือคนดี หรือ ฉันเชื่อว่าเธอเป็นคนบริสุทธิ์ เป็นต้น
โฆษณา