18 มี.ค. 2021 เวลา 09:56 • กีฬา
แคว้นคาตาลัน|สงครามกลางเมือง|เอลกลาซิโก้
ชุดแข่งขันที่ 4 ของสโมสรบาร์เซโลน่าฤดูกาล 2020/2021 ที่มีนายแบบอย่างการ์เลส ปูโยล อดีตกัปตันจอมแกร่งผู้รับใช้สโมสรบาร์เซโลน่าเพียงสโมสรเดียวตลอดชีวิตการค้าแข้งของเค้า ได้ถูกปล่อยออกมาพร้อมแรงบันดาลใจที่บ่งบอกถึงความภาคภูมิใจในสายเลือดคาตาลันอย่างเต็มเปี่ยม สีลายทางสีน้ำเงินและแดงเข้ม หรือที่เรียกกันว่า Blaugrana ที่แปลจากภาษาคาตาลัน Blau แปลว่าว่าสีน้ำเงิน และ Grana แปลว่าสีแดงเข้ม ไล่เฉดสีลงมากลายเป็นลายทางแดงเหลืองซึ่งเป็นลายธงประจำแคว้นคาตาลุญญา เคยสงสัยกันหรือไม่ครับว่าความเป็นคาตาลันที่เราคุ้นหูนั้นมีความเป็นมาอย่างไร เหตุใดจึงมีความผูกพันธ์กับสโมสรบาร์เซโลน่ามากขนาดนี้
ธงชาติของสาธารณรัฐกาตาลุญญา
แคว้นคาตาลุญญา
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมามีข่าวที่ชาวคาตาลันจำนวนมากต้องการที่จะขอแยกดินแดนของพวกเค้าออกจากสเปน ซึ่งเป็นความพยายามที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ย้อนไปในยุคการแบ่งเขตการปกครองเป็นแคว้นต่างๆก่อนที่จะรวมกันเป็นประเทศสเปน แคว้นคาตาลุญญามีอาณาเขตจรดประเทศฝรั่งเศสและประเทศอันดอร์ราทางทิศเหนือ จรดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางทิศตะวันออก จรดแคว้นบาเลนเซียและแคว้นอารากอนของประเทศสเปนทางทิศใต้และทิศตะวันตกตามลำดับ และมีวัฒนธรรมและภาษาคาตาลา และมีธงชาติเป็นของตัวเอง มีศูนย์กลางของแคว้นคือเมืองบาร์เซโลน่า แต่ในปี ค.ศ. 1469 หลังจากที่กษัตริย์เฟอร์ดินานด์ แห่งอารากอน และพระราชินีอิซาเบลลา แห่งคาสตีล ทรงอภิเษกสมรสกันจึงได้รวมดินแดนมาเป็นหนึ่งเดียวซึ่งมีเมืองมาดริดเป็นเมืองหลวง และประเทศสเปนก็ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1516
แคว้นคาตาลุญญา จากเว็บไซต์ https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/9/96/Catalunya%2BComarques%2BEnglish.jpg
สงครามกลางเมืองและนายพลฟรังโก
ปี ค.ศ. 1936 เป็นปีที่สงครามกลางเมืองในสเปนได้ปะทุขึ้น จากความเห็นที่ไม่ลงรอยกันระหว่างฝ่ายเสรีนิยมและฝ่ายอนุรักษ์นิยม และเมืองบาร์เซโลนากลายเป็นศูนย์กลางของกลุ่มเสรีนิยม สงครามครั้งนี้ใช้เวลายาวนานถึง 3 ปี ก่อนสิ้นสุดลงในปี ค.ศ.1939 และสมรภูมิสุดท้ายจบลงที่เมืองบาร์เซโลน่า พร้อมกับความพ่ายแพ้ของฝั่งเสรีนิยมอย่างสมบูรณ์ เข้าสู่ยุคเรืองอำนาจของผู้นำเผด็จการนามว่า ฟรันซิสโก ฟรังโก
เหล่าทหารฝ่ายเสรีนิยมในสงครามกลางเมืองของสเปน จากเว็บไซต์ https://www.flickr.com/photos/angells60640/3792436289/in/photostream/
สงครามลูกหนัง 'เอลกลาซิโก'
หลังจบสงครามกลางเมือง ภายใต้ผู้นำเผเด็จการได้มีการลดทอนสิทธิในการปกครองตนเองของแคว้นคาตาลุญญา และชาวเมืองยังถูกห้ามใช้ใช้ภาษาท้องถิ่นของตัวเอง เมืองมาริดและบาร์เซโลน่าจึงเกิดลักษณะความเป็นขั้วตรงข้ามกันอยู่เสมอ ไม่เว้นกระทั่งในสนามหญ้า สโมสรบาร์เซโลนาก่อตั้งขึ้นมาโดยมีอัตลักษณ์แห่งความเป็นคาตาลันอย่างเต็มเปี่ยม สโมสรส่งเสริมและพัฒนาระบบเยาวชนท้องถิ่นของตน ส่วนทีมเมืองหลวงอย่าง เรอัล มาริด ได้รับการสนับสนุนจากนายพลฟรังโก กลายเป็นทีมที่มีข้อกังขาเกี่ยวกับอำนาจมืดที่มองไม่เห็นอยู่บ่อยครั้ง การพบกันของทั้งทีมจึงเปรียบเสมือนสงครามขนาดย่อมที่ชัยชนะเป็นมากกว่าผลคะแนนแต่เป็นชัยชนะทางความคิดและปรัชญาของทีมที่แตกต่างกัน จึงทำให้การพบกันของทั้งสองทีมดุเดือดทั้งในและนอกสนาม
ศึก El Clásico จากเว็บไซต์  https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/d/d5/Forcejeo_Real_Madrid_-_FC_Barcelona.jpg
ถึงแม้ปัจจุบันประเทศสเปนจะปกครองหลุดพ้นการปกครองแบบเผด็จการไปแล้วแต่ด้วยอัตลักษณ์และวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง รวมทั้งประวัติศาสตร์ที่ผ่านเหตุการณ์ต่างๆมาอย่างยาวนาน ยังคงหล่อหลอมให้ชาวคาตาลันรู้สึกภาคภูมิใจในสายเลือดแห่งคาตาลันอยู่เสมอ
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม
แคว้นคาตาลุญญามีทีมฟุตบอลทีมชาติเป็นของตัวเองคือฟุตบอลทีมชาติกาตาลุญญา ซึ่งนักเตะดาวเด่นส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้น นักเตะเชื้อสายคาตาลันจากสโมสรบาร์เซโลนาแม้จะไม่ได้ถูกรับรองการเป็นสมาชิกจากฟีฟ่า แต่หากคิดเล่นๆว่าทีมชาตินี้จริงๆแล้วละก็เหล่าทีมเจ้าประจำในฟุตบอลโลกคงมีร้อนๆหนาวๆกันบ้างแหละ
ฟุตบอลทีมชาติกาตาลุญญาปี 2013 จากเว็บไซต์ https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/f/fd/Catalan_line-up_2013.jpg
โฆษณา