ในฤดูกาล 2020/2021 ที่กำลังจะจบลงโดยที่ Manchester City กำลังจะชูถ้วยแชมป์แห่งเกาะอังกฤษ โดยมีคะแนนทิ้งห่างทีมอันดับที่ 2 มากถึงประมาณ 10 คะแนน ไม่ว่าจะเป็นทีมคู่แข่งร่วมเมืองอย่าง Manchester United หรือทีมที่พัฒนาได้อย่างก้าวกระโดดอย่าง Leicester City แถมทีมเต็งแย่งแชมป์จากฤดูกาลที่แล้วอย่าง Liverpool ดันเจอสารพัดปัญหาทั้งเรื่องนักเตะตัวหลักบาดเจ็บ หรือปัญหาส่วนตัวของนักเตะ ทำให้ปีนี้ Manchester City ค่อนข้างจะลอยลำในการได้ถ้วยมาครอง แต่ถ้าจะบอกว่า Manchester City ทำผลงานได้ขนาดนี้เพราะทีมอื่นเจอปัญหา ก็ไม่ถูกสะทีเดียว เพราะพวกเขาก็เจอปัญหาเหมือนกับทีมอื่นๆเช่นกัน
ตอนต้นฤดูกาล Manchester City ไม่มีทั้ง 2 นักเตะตัวหลักของทีม ทั้ง playmaker ผู้เป็นทุกอย่างให้กับทีมอย่าง Kevin De Bruyne และศูนย์หน้าที่ต้องเป็นตำนานสโมสรอย่าง Sergio Kun Aguero แถมตัวสำรองอย่าง Gabriel Jesus ก็ไม่สามารถทดแทนตำแหน่งของเขาได้ จนผู้จัดการทีมอย่าง Pep Guardiola ต้องดันนักเตะคนอื่นๆ มาเล่นแทน เช่น Ikay Gundogun, Raheem Sterling, Bernardo Silva หรือดาวรุ่งอย่าง Phil Foden ที่คาดว่าจะเป็นอนาคตของทีมและทีมชาติอังกฤษ แต่หนึ่งในนักเตะหลายๆคนที่ Pep เลือกใช้นั้น Riyad Mahrez มักเป็นตัวเลือกแรกๆ ในการเป็นตัวรุกทางฝั่งขวา ด้วยความเป็นตัวเองและสไตล์การเล่นที่ค่อนข้างต่างจากเพื่อนร่วมทีม ทำให้เขาโดดเด่นในฤดูกาลนี้มากๆ