20 มี.ค. 2021 เวลา 07:09 • กีฬา
LIVERPOOL
การจับสลากยูฟ่า เเชมป์เปียนส์ ลีก ได้ข้อสรุปเรียบร้อยเเล้ว เรอัล มาดริด ตัวเเทนจากลาลีกา สเปน เพียงหนึ่งเดียว เเละเจ้าของเเชมป์รายการนี้ 13 สมัย จะพบกับ เเชมป์ยุโรป 6 สมัย ลิเวอร์พูล ซึ่งการต้องมาพบกับ หงส์เเดง ในรอบควอเตอรืไฟนอลนั้น ให้ความรู้สึกที่กลางๆ ไม่ได้พอใจกับผลการประกบคู่ เเต่ก็ไม่ได้รู้สึกเเย่อะไรมากนัก
สำหรับผม ก่อนการจับสลากจะเริ่มขึ้น ปอร์โต้ เป็นคู่เเข่งที่อยากเจอมากที่สุด ซึ่งก็น่าจะเหมือนๆกับหลายๆทีม เนื่องด้วยทีมดังจากโปรตุเกสดูจะเบาที่สุดเเล้ว หากเทียบกับทีมอื่นๆที่ผ่านเข้ามา
ถัดจากปอร์โต้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นคู่เเข่งที่ต้องการที่จะเจอ สาเหตุก็เหมือนเดิมคือ น่าจะเป็นทีมที่เบาที่สุดรองจากปอร์โต้ เเละทีมต่อมาหากหลุดจากดอร์ทมุนด์ที่อยากเจอก็คือ เชลซี
เหตุผลหลักในความต้องการที่จะเจอกับ 3 ทีมดังกล่าว ตอบอย่างง่ายๆ คือพวกเขาดูจะเป็นงานง่ายที่สุด เเละชื่อชั้นยังดูด้อยกว่า เรอัล มาดริด
ส่วนคู่เเข่งที่ไม่อยากเจอมากที่สุดก็คือ บาเยิร์น มิวนิค เเมนเชสเตอร์ ซิตี้ เเละปารีส เเซงต์ เชร์เมน เพราะอะไรน่ะหรือ ตอบง่ายๆอีกเช่นกันก็คือ พวกเขาเป็นทีมที่เเข็งเเกร่ง เเละเป็นตัวเต็งในการคว้าเเชมป์ รวมถึงฟอร์มการเล่นก็ดูดีกว่า ราชันชุดขาว
ถึงตรงนี้ จะเห็นได้เลยว่า ลิเวอร์พูล อยู่ตรงกลางเป๊ะๆ เเละไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าอยากเจอ หรือไม่อยากเจออะไร
หากย้อนไปสัก 2-3 ปีก่อน การพบกับลูกทีมของ เจอร์เก้น คลอปป์ คงจะเป็นอะไรที่น่าลำบากใจ เเละน่าสยดสยองอยู่ไม่น้อย จากฟอร์มการเล่นที่ดุดัน ร้อนเเรง เเละอยู่ในช่วงพีค หลักฐานจากการคว้าเเชมป์ UCL เมื่อฤดูกาล 2018/19 เเละการคว้าเเชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลก่อน
เเต่ทว่าในฤดูกาลนี้ เเม้ผมจะดูลาลีกาเป็นหลัก เเละเเทบจะไม่ได้ดูลิเวอร์พูล ลงเล่นมากนัก โดยดูไปเเค่ 2 นัด คือในเกมเเดงเดือดกับเเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรายการพรีเมียร์ลีก เเละเอฟเอ คัพ ก็พอจะเห็นได้ว่า ยอดทีมเเห่งเเอนฟิลด์ ไม่น่ากลัวเหมือนก่อนเเล้ว
ด้วยความโชคร้ายกับอาการบาดเจ็บ ฟอร์มการเล่นที่ตกลงไป หมดลุ้นเเชมป์ในบอลลีก เเละมีโอกาสที่จะไม่ได้ไปฟุตบอลยูฟ่า เเชมป์เปียนส์ ลีกเป็นครั้งเเรกนับตั้งเเต่ฤดูกาล 2016/17 เเฟนเรอัล มาดริด อย่างผม รวมถึงคนอื่นๆ จึงไม่ได้รู้สึกกลัวลิเวอร์พูลอะไรมากมาย เเถมยังรู้สึกว่าตัวเองยังดูดีกว่าด้วยซ้ำ กับการที่จะขาดเซ็นเตอร์เเบ็คตัวหลักถึงสามคน ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ , โจ โกเมซ เเละโจเเอล มาติป ทำให้คาดว่า โอซาน คาบัค จะจับคู่กับ นาเเธเนีล ฟิลิปปส์ ซึ่งลดประสิทธิภาพลงไปเยอะ
เเต่เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยฟุตบอลระดับนี้ เป็นไปได้เลยที่เรอัล มาดริด จะประมาท เเละลดระดับการเล่นของตัวเองลง เเม้จะขาดเซ็นเตอร์เเบคตัวหลัก เเต่เเดนกลาง เเละเกมรุกของพวกเขายังอันตรายอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็น ติอาโก้ อัลคานตาร่า หรือจอร์จินโญ่ ไวจ์นาลดุม ในเเดนหน้าก็ยังมี
โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ เเละซาดิโอ มาเน่ อยู่
โดย ซีเนอดีน ซีดาน ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ ลิเวอร์พูล ไว้ว่า "เรารู้ถึงความยากในการเล่นระดับนี้ มันจะเป็นเกมที่ต้องการประสิทธิภาพในการเล่นอย่างมากจากเรา โดยเฉพาะในเรื่องพละกำลัง ผมไม่ต้องการที่จะบอกว่านี่เป็นการประกบคู่ที่ดีหรือเเย่"
ทางฝั่ง เจอร์เก้น คลอปป์ ก็ได้กล่าวไว้ว่า "มันเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ เเน่นอนว่ามันจะเป็นเกมที่ยาก เเต่ผมไม่รู้สึกอะไร เนื่องจากถ้าคุณมองดูทีมที่เหลืออยู่ คุณก็จะคิดว่า โอ้พระเจ้า เพรราะว่าทุกทีมล้วนเเล้วเเต่เป็นทีมที่เเข็งเเกร่ง เเละมีคุณภาพทั้งนั้น"
"เราเคยพบกับพวเขามาเเล้วเมื่อ 2 ปีที่เเล้ว ในนัดชิงชนะเลิศ เเละมันเป็นคืนที่ยากลำบากสำหรับเรา ซึ่งการมีโอกาสที่จะพบกับ เรอัล มาดริด อีกครั้งเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม"
"ผมคิดว่านี่เป็นครั้งเเรก ที่ผมจะเจอกับ เรอัล มาดริด โดยที่พวกเขาไม่มีคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เเละก็เป็นครั้งเเรกที่ เเกเร็ธ เบล จะไม่อยู่เช่นกัน เเต่เเน่นอนว่า เซอร์คิโอ รามอส ยังอยู่ที่นั่น วารานก็ยังอยู่ โครส โมดริช คาเซมีโร่ คาร์บาฆาล เบนเซม่า ก็ยังอยู่ที่นั่นเช่นกัน"
นั่นล่ะครับ เจอร์เก้น คลอปป์ ก็พยายามจะบอกว่า เรอัล มาดริด ยังไงก็ยังมีนักเตะที่ยอดเยี่ยม เเละอันตรายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ส่วนซีดานก็บอกถึงความยากในการที่จะมาพบกับฃิเวอร์พูล
อย่างไรก็ตาม นี่จะเป็นเกมที่คุณภาพสูงเเน่นอน จากการพบกันของ 2 ทีมระดับโลก เเละเป็นสองทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในฤดูกาลนี้ สิ่งที่เราเเฟนบอลทำได้ ก็คือการให้กำลังใจ เเละรอติดตามฟุตบอลคู่บิ๊กเเมตช์ที่กำลังจะมาถึงในเดือนหน้า...
โฆษณา