๑. ใช้ข้าวเกาเหลียงสีแดง 红高粱 Sorghum
๒. ใช้น้ำเฉพาะจากแม่น้ำซื่อสุ่ย มีค่าความเป็นกรดด่างที่เหมาะสม นำน้ำมาใช้เฉพาะในช่วงเดือนสิบของปีนี้ถึงเดือนห้าของปีถัดไป อันเป็นช่วงที่แม่น้ำใสสะอาด ปราศจากขุ่นตะกอนดินทราย
๓. ใช้ข้าวสาลี 小麦 Wheat มาหมักผสมกับน้ำและหัวเชื้อเป็นยีสต์
๔. โรงงานหมักจะตั้งอยู่ในหุบเขา ที่ระดับความสูง ๔๓๐ เมตร ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง ๑,๐๐๐ เมตรรอบด้าน ตรงกลางเป็นช่องเขา มีแม่น้ำซื่อสุ่ยไหลผ่าน หน้าหนาวอากาศไม่หนาวมาก หน้าร้อนจะอบอ้าว ทั้งหุบเขาเหมือนโรงบ่มเหล้าขนาดใหญ่ เมื่อนำข้าวเกาเหลียงกับน้ำซื่อสุ่ยมานึ่งและบ่มหมักกับยีสต์แล้ว จะทำให้ได้เชื้อจุลินทรีย์ที่เหมาะสมในการทำให้เกิดสุราขาวเหมาไถขึ้น
๕. กรรมวิธีจะเริ่มตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง นำน้ำจากแม่น้ำซื่อสุ่ยในช่วงเวลานั้น มาใส่วัตถุดิบผ่านการนึ่งและต้ม ๙ ครั้ง หมัก ๘ ครั้ง สุราที่ได้จากการหมักครั้ง ๑ และ ๒ จะเททิ้งไป หมักครั้งที่ ๖ รสเปรี้ยวจะออกมา หมักครั้งที่ ๗ รสเฝื่อนจะออกมา
พอถึงครั้งที่ ๘ รสเปรี้ยวและเฝื่อนจะหายไป เหลือแต่กลิ่นหอมอันละเมียดละไมไร้กลิ่นฉุนเพียงอย่างเดียว กลิ่นหอมนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
นักปรุงสุราจะต้องมีประสาทสัมผัสที่แม่นยำ จึงสามารถจำแนกแยกกลิ่นเหมาไถได้อย่างถูกต้อง จากนั้น เก็บรักษาไว้นาน ๕ ปี จึงบรรจุใส่ขวดนำออกมาจำหน่ายที่หน้าโรงงาน สุราอายุ ๕ ปี จำหน่ายในราคาเดียวคือขวดละ ๑,๔๙๙ หยวน (ประมาณ ๗,๐๐๐ บาท) มีจำนวนจำกัดในแต่ละวัน