Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
พลอยเล่าเรื่อง
•
ติดตาม
20 มี.ค. 2021 เวลา 10:12 • ไลฟ์สไตล์
ก่อนที่ Vans จะ Off The Wall
#พลอยเล่าเรื่อง
🛹🛹🛹
ความนิยมของเซิร์ฟสเก็ต และสเก็ตบอร์ดในบ้านเรา ทำให้รองเท้าอย่าง Vans ได้รับความสนใจมากขึ้นตามไปด้วย สโลแกน “Off The Wall” บนรูปสเก็ตบอร์ดสีแดง ก็บอกอยู่แล้วว่า สเก็ตบอร์ดนั้นมีบทบาทสำคัญอย่างมากกับแบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นจาก พอล แวน โดเรน ชายที่ทำงานกับ Randy’s บริษัทผลิตรองเท้าเบอร์ 3 ของสหรัฐอเมริกามานานกว่า 20 ปี วันหนึ่งเขาลาออกจากงานพร้อมด้วยไอเดียที่จะผลิตรองเท้าออกจำหน่ายให้ถึงมือลูกค้าโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านมือพ่อค้าคนกลาง ซึ่งนั่นจะทำให้ราคารองเท้าถูกลงตามไปด้วย
ในปี 1966 พอล และพาร์ทเนอร์ อย่างจิม แวน โดเรน, กอร์ดอน ลี และเซิร์ก ดีเลีย หอบเอาไอเดียความคิดมาเปิดโรงงาน และร้านรองเท้าที่แคลิฟอร์เนีย ถือกฤษ์งานยามดีวันที่ 16 มีนาคม 1966 เป็นวันเป็นขาย และ Vans ร้านแรกก็ถือกำเนิดขึ้นที่ 704 E.Broadway ในเช้าวันเปิดขาย มีลูกค้า 12 คน เข้ามาซื้อรองเท้า ซึ่งทุกคู่ถูกผลิตขึ้นในวันนั้น ลูกค้ากลับมารับรองเท้ากลับบ้านได้ในบ่ายของวันเดียวกัน ด้วยความที่พื้นรองเท้ามีความเหนียว หนา และผ้าใบมีความทนทาน ทำให้รองเท้าของ Vans เริ่มได้รับความนิยมในหมูสเก็ตบอร์ดเดอร์ทั้งหลาย โมเดลแรกของ Vans ถูกเรียกขานว่า #44 หรือ Vans Authentic ขายที่ราคาคู่ละ 2.49 ดอลล่าร์สำหรับของผู้หญิง และ 4.49 ดอลล่าร์สหรับผู้ชาย
เมื่อซื้อจากมือของโรงงานผู้ผลิตและออกแบบโดยตรง ลูกค้าก็เลยสามารถให้ฟีดแบคกับพอล แวน โดเรน โดยตรง ว่าควรจะปรับ จะเปลี่ยน จะปรับปรุงตรงไหน สีไหนสวย หรืออยากได้สีไหน เป็นพิเศษ Vans ก็จัดให้ จนเป็นที่มาของรองเท้าแจ้งเกิด Era ซึ่งมีโทนี่ อัลวา และสเตซี่ เพรัลต้า นักสเก็ตบอร์ดรุ่นออริจินัล มีส่วนรวมในการออกแบบ และวางจำหน่ายในปี 1976 ซึ่งในปีเดียวกันนั้นเองที่สโลแกน Off The Wall ก็ปรากฏลงบนรองเท้าเป็นครั้งแรก ซึ่งเราว่ามันเป็นสโลแกนที่โครตเท่
Off The Wall เป็นชื่อของสเก็ตบอร์ดท่าหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในแคลิฟอร์เนียในยุค 70 โดยกลุ่มคนเล่นสเก็ตบอร์ดมักจะรวมตัวกันไปยังสระว่ายน้ำที่ว่างเปล่า ลงไปสเก็ตในสระแล้วลอยออกมาจากกำแพงของสระน้ำ ต้องเข้าใจก่อนว่าเมื่อก่อน คนที่เล่นสเก็ตบอร์ดนั้นค่อนข้างจะเป็นคนชายขอบ เป็นคนนอกสังคม ท่าทางการเล่นสเก็ตบอร์ดเลยเป็นเหมือนการแสดงออกถึงตัวตนของพวกเขา รวมทั้งยังเป็นการแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านงานศิลปะบนสเก็ตบอร์ด, เพลง และแฟชั่น มีความกบฏหน่อยๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Vans คิดว่าแบรนด์จะต้องเข้าไปมีส่วนรวม
ในช่วงปลายยุค 70 Vans ขยายสาขาในแคลิฟอร์เนียมากถึง 70 สาขา และมีการจัดจำหน่ายไปยังต่างประเทศด้วย เข้าสู่ทศวรรษที่ 80 Vans มีรองเท้าอย่าง Era, Old Skool, Classic Slip-On ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงเพราะฌอน เพนน์ ใส่ในหนัง Fast Times at Ridgemont High และ Sk8-Hi รองเท้าหุ้มข้อคู่แรกของแบรนด์เป็นจุดขาย
Vans เริ่มแตกไลน์สินค้า เริ่มไปผลิตรองเท้าเพื่อกีฬาชนิดอื่นๆ เช่น จักรยาน BMX, เบสบอล และบาสเก็ตบอล ซึ่งนำมาสู่การนำเงินรายได้จากรองเท้ารุ่นยอดนิยมไปใช้กับสายการผลิตใหม่มากขึ้นเรื่อยๆทำให้สุดท้ายพกวเขาขายรองเท้าในราคาที่ถูกกว่าราคาจริงที่ผลิตออกมา บริษัทเป็นหนี้ จนนำมาสู่การยื่นล้มละลายของในปี 1984
บริษัทถูกปรับโรงสร้างใหม่ รัดเข็มขัดทุกทางที่ทำได้ แต่ไม่ลดคุณภาพของรองเท้าลงเด็ดขาด ภายในระยะเวลา 3 ปี Vans ก็ใช้หนี้ทั้ง 12 ล้านดอลล่าร์หมด รองเท้ารุ่น Half Cab วางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในปี 1988 จากการออกแบบของสตีฟ คาบาลเลโร โปรสเก็ตเตอร์ชื่อดัง และก็กลายเป็นหนึ่งในรองเท้ารุ่นที่ยอดนิยมที่สุด ว่ากันว่าถ้าไม่มีรองเท้าโมเดลนี้ แบรนด์ Vans อาจจะไม่มีโอกาสกลับมาลืมตาอ้าปากอีกครั้ง
หลังจากการเปลี่ยนมือเจ้าของในปี 1988 และ 2004 Vans ยังคงรักษาความนิยมของตัวเองเรื่อยมา ในปี 2011 บริษัทสามารถทำยอดขายได้ทะลุ 1,000 ล้านดอลล่าร์เป็นครั้งแรก จนในปี 2016 ครบรอบ 50 ปีของแบรนด์ พวกเขาออกแคมเปญ This is Off The Wall เพื่อปรับเปลี่ยนแนวคิดของคนทั่วไปที่คิดว่า Vans เป็นของคนที่เล่นสเก็ตบอร์ดเท่านั้น ทั้งๆที่จริงๆแล้วแบรนด์สนับสนุนคนในทุกวงการ ไม่ต้องมีสเก็ตบอร์ดติดรองเท้าก็ Off The Wall ได้เหมือนกัน เราจึงเห็นคนดังมากมายใส่ Vans เดินเล่นทั้งแซค เอฟรอน, ริฮานน่า, ลิล เวนย์ เป็นต้น
ถึงตรงนี้สโลแกน Off The Wall ของ Vans จึง ไม่ได้หมายถึงท่าเล่นสเก็ตบอร์ดอย่างเดียวอีกต่อไป แต่หมายถึง อิสรภาพในการแสดงตัวตน และเสรีภาพในการสร้างสรรค์
#พลอยเล่าเรื่อง #vans #สเก็ตบอร์ด #เซิร์ฟสเก็ต #Skateboard #SurfSkate #รองเท้า #Sneaker #OffTheWall
ถ้าชอบฝากไลค์ ฝากแชร์เพจกันด้วยนะคะ 👍
2 บันทึก
4
4
1
2
4
4
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย