22 มี.ค. 2021 เวลา 10:10 • ความคิดเห็น
ถ้าบอกว่า คน 3 คน จะสามารถสร้างไอเดียได้ 200 ไอเดีย ในเวลาเพียง 15 นาที จะเชื่อรึเปล่า?
2
"ไม่เชื่อ" นี่คงจะเป็นคำตอบที่ใครหลาย ๆ คนพูดออกมา
ผมเองก็เป็นหนึ่งคนที่เคยพูดประโยคนั้นออกมา จนกระทั่งได้เรียนรู้เกี่ยวกับ หนึ่งในขั้นตอนของ Design thinking ที่เรียกว่า Ideate
ซึ่งทำลายกรอบความคิดของผมที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ โดยสิ้นเชิง
เพราะแท้จริงแล้ว ความคิดสร้างสรรค์ ในตัวบุคคลแต่ละคน ยังมีอยู่ครบถ้วน แต่เราแค่ถูกจำกัดด้วยคำว่า "กรอบ" ทำให้ ความคิดสร้างสรรค์นั้น ไม่ได้ตื่นขึ้นมาสักที
และ "กรอบ" ก็เป็นตัวจำกัดความคิดเรา ให้อยู่กับที่และเชื่อเสียสนิทว่า "เราทำไม่ได้" ด้วยนั่นเอง
การสร้างสรรค์ใหม่ นั้นจึงไม่ยาก เพียงแค่เรา ปรับกรอบที่เคยมีอยู่ ให้ดูเปลี่ยนไป และเหมาะสมที่จะกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของเรานั่นนเอง
แล้วจะทำอย่างไรให้ เราสามารถ ระดมสมองได้ถึง 200 ไอเดีย ใน 15 นาทีกันหละ??
1
หลายต่อหลายครั้งที่มีคนอยากจะได้ไอเดียใหม่ ๆ ในองค์กร พวกเขาจะเรียกคนผู้คนมารวมกัน และระดมไอเดียที่มีอยู่ แต่หลายต่อหลายครั้ง แทบจะไม่มีใครเสนอไอเดียเลยด้วยซ้ำ สาเหตุ นั้นก็เพราะว่า มีคนกำลังฆ่าความคิดสร้างสรรค์อยู่นั่นเอง
เคยเป็นไหมที่เวลาต้องการไอเดีย พอมีคนเสนอไอเดียมา และจะมีอีกคนทันทีที่บอกว่ามันทำไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ ไม่ work หรอก นั่นแหละครับ คือการฆาตกรรมความคิดสร้างสรรค์ ในห้องประชุม
โดยธรรมชาติของคนนั้นไม่ชอบการเสียหน้า ดังนั้นจึงไม่อยากมีใครเสียหน้าเวลาที่ได้นำเสนอไอเดียไปแล้ว ถูกคนอื่นมาบอกว่ามันไม่ดี ไม่เวิร์ค นั่นเอง
ส่วนวิธี ของการระดมสมองที่ควรจะทำ นั่นก็คือ เราจะไม่ฆ่าไอเดียใครในห้องประชุม แต่เราจะยอมรับไอเดยนั้นไว้ แม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่าไม่ดี แต่เราจะไปต่อยอดจากไอเดียนั้นแทน
อย่างเช่น ถ้าเกิดว่า เรากำลังคิดว่า ถ้าเราไปเที่ยวกันทะเลกัน จะต้องมีอะไรบ้าง
คนแรกพูดขึ้นมาว่า เอาแว่นตาไป
คนต่อไปก็จะบอกว่า ใช่เลย และเอา หมวกไปด้วยสิ
คนต่อไปก็จะบอกว่า ใช่เลย งั้นเอา เสื้อฮาวายไปด้วยนะ
พอทำแบบนี้แล้วเราจะเห็นได้ว่า ไอเดียจะพรั่งพรูออกมาอย่างไม่มีจำกัด ต่อให้ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 5 นาที สำหรับคน 3 คน อาจจะได้ไอเดียว่าไปทะเลจะต้องมีอะไรบ้าง มากถึง 80 ไอเดียเลยทีเดียว
การเชื่อมต่อไอเดียด้วย Yes......and นั้น ทำให้ เวลาคิดหรือเสนอนั้นเป็นไปอย่างไหลลื่น บางทีเราอาจจะกำลังคิดไม่ออก แต่เป็นเพราะอีกคนบอกมาว่า อยากได้แว่น เลยคิดออกว่าถ้ามีแว่นก็ต้องมีหมวกด้วยสิ ในทันที เรียกว่าเป็นการต่อยอดไอเดียได้อย่างไม่มีข้อจำกัดนั่นเอง
2
นอกจาก Yes.....and นั้นจะช่วยทำให้ไอเดียนั้นพรั่งพรู ออกมาแล้ว ก็ยังมีเทคนิคอื่นๆ ที่ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ หรือไอเดียของเราได้อีก
อย่างที่บอกไปแต่ต้นแล้วว่า เรามักถูก "กรอบ" เข้ามาตีไว้ว่าจะติดนั่น ถ้าทำแบบนี้ จะติด นี่ ถ้าจะทำแบบนั้น
จนทำให้เราไม่อยากจะคิดอะไรใหม่ ๆ เพราะติดแน่นอยู่ในกรอบที่ว่า
ดังนั้นเราจึงต้องลองเปลี่ยนกรอบที่มีใหม่ เพื่อให้ไอเดียเดิมที่เคยติด อยู่นั่น ระเบิดออกมาได้
ตัวอย่างการเปลี่ยนกรอบที่มี นั้น เช่น
ถ้ามีเงินไม่จำกัด จะเอาอะไรไปทะเล??
ถ้าไม่ต้องสนใจคนอื่นจะเอาอะไรไปทะเล??
ถ้าไม่ต้องในใจกฎระเบียบจะทำอะไรที่ทะเล??
สุดท้ายผมแถม การตั้งกรอบใหม่อีกข้อ นั่นก็คือ
ถ้ามีเวทมนตร์จะ เสกอะไรหรือทำอะไรเวลาไปทะเล??
แค่การเปลี่ยนกรอบ 4 ข้อด้านบน ก็น่าจะกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ที่มีได้เยอะแยะมากมาย เพราะเวลาเราคิดตอนแรกนั้น เวลาจะเอาอะไรไปทะเล ก็มักจะติดในกรอบเดิมๆ ของตัวเองเช่น ขนไม่ไหว เอาไปไม่พอ เปลืองงบประมาณ แต่ถ้าจะให้สร้างสรรค์ เราต้องตัดกรอบเหล่านี้ทิ้งไป และปล่อยให้จินตนาการได้โลดแล่นอย่างเต็มที่
จากที่เคยลองทำเล่น ๆ ให้หัวข้อ 4 หัวข้อด้านบน อย่างละ 3 นาที 3 คน สามารถสร้างไอเดียได้ 120 ไอเดียเลยทีเดียว
จะเห็นได้ว่า กรอบที่ถูกวางใหม่นั้น จะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ เดิมที่เคยหลับอยู่ให้ตื่นขึ้นมาได้ จนในที่สุด ในเวลาเพียงแค่ 15 นาที ก็สามารถที่จะคิดได้ถึง 200 ไอเดีย
1
ข้อสำคัญเวลาที่ระดมไอเดียกัน อย่าลืมกฎข้อแรกคือ Yes......and ที่จะช่วยสร้าง ความลื่นไหลของการต่อยอดไอเดียได้เป็นอย่างดี
1
3
อาจจะมีบางคนที่รู้สึกสงสัยว่าทำไมเราถึงต้องเอาไอเดีย เยอะขนาดนี้ด้วย ทั้งๆ ที่จริงแล้วไอเดียที่ถูกนำไปใช้จริง อาจจะเป็นแค่เพียง 1-2 ไอเดียซะด้วยซ้ำ
ต้องยอมรับเลยว่าทีแรกผมก็สงสัย แต่มี Quote ที่บอกว่า "ไอเดียที่ดี 1 ไอเดีย นั้นมาจากไอเดียที่มี 1,000 ไอเดีย"
ดังนั้นเราจึงควรเน้นปริมาณที่มากเข้าไว้สำหรับการระดมสมอง หลังจากนั้นค่อยนำไอเดียที่สามารถใช้ได้จริง มาลองประติดประต่อกับไอเดียที่อาจจะไม่มีทางเกิดขึ้นจริง จนกลายไปไอเดียใหม่ได้
อย่างเช่น ถ้า มีคนมองว่า ทำไมแว่นตาถึงทำได้เพียงแค่ใส่ เพื่อความเท่ห์ หรือสำหรับปรับสายตา เท่านั้น
ไอเดียนี้ก็ถูกต่อยอดออกมา จนกลายมาเป็น แว่น google glass หรือ แว่น VR , AR ในปัจจุบัน
การที่มีไอเดียเยอะ บางทีคนที่เก่งอาจจะสามารถ connect the dot จนสามารถเกิดเป็นไอเดียใหม่ ที่ผนวก 3-4 ไอเดียเข้าด้วยกันได้
และเพราะแบบนี้นี่แหละครับ โลกเราจึงมีนวัตกรรม เกิดขึ้นอย่างมากมาย สาเหตุนั่นก็เพราะ เป็นการต่อยอดไอเดีย ที่มีอยู่ แล้วให้ดีกว่าเดิมนั่นแหละ
หากว่าใครกำลังมองหาวิธีที่จะ ระดมสมองหาไอเดียใหม่ ๆ อยู่ ลองนำวิธีที่ผมแนะนำไปใช้ดู ได้นะครับ บางที อาจจะเจอไอเดีย ที่แปลกใหม่ และเปลี่ยนโลกใบนี้ไปเลยก็ได้ ใครจะไปรู้
ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่ทกคนมีอยู่แล้วในตัว เพียงแต่ว่าเราไม่ได้นำมันออกมาใช้ ลองปรับกรอบของชีวิตที่มีอยู่ และปล่อยให้ความคิดสร้างสรรค์ที่หลังอยู่ ได้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งนะครับ
โฆษณา