23 มี.ค. 2021 เวลา 11:31 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
chaos walking จิตปฏิวัติโลก คะแนน 6.5/10
chaos walking จิตปฏิวัติโลก คะแนน 6.5/10
เรื่องย่อ : เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกอนาคตที่ผู้หญิงถูกคร่าชีวิตจนหมด ส่วนผู้ชายทุกคนที่เหลืออยู่จะเกิดอาการผิดปกติ ทุกความคิดในหัวมันจะถูกถ่ายถอดออกมาเป็นเสียงหรือภาพ พวกเขาเรียกมันว่า "เสียงคิด" (Noise) กระทั่งวันหนึ่งขณะที่พระเอก "ทอดด์ ฮิววิตต์" (ทอม ฮอลแลนด์) ออกเดินทางพร้อมกับสุนัขตัวโปรด ได้บังเอิญพบกับ "วิโอล่า" (เดซี่ ริดลีย์) ผู้หญิงคนแรกในชีวิต ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัย เพื่อหาคำตอบของความจริงที่เกิดขึ้นในโลกแห่งนี้
รีวิว : ด้านการนำเสนอถือว่าแปลกใหม่ และน่าสนใจมาก ที่มนุษย์ทุกคนได้ยินความคิดของกันและกัน บางคนสามารถใช้มันได้อย่างชำนาญจนสามารถประยุกต์ใช้กับการต่อสู้ได้ แต่บางคน "เสียงคิด" (Noise) ก็เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต เราจะสนุกกับการได้เห็นคนนำ "เสียงคิด" (Noise) มาใช้ เช่น การเค้นความจริง การสร้างภาพเพื่อหลอกล่อศัตรู ทำให้หนังที่เนื้อหาไม่ได้แปลกใหม่อะไร มีความน่าสนใจมากขึ้น
อีกหนึ่งข้อดีของหนังคือการแสดงของพระเอกและนางเอก ทอม ฮอลแลนด์และ เดซี่ ริดลีย์ มีเคมีที่เข้ากันได้ดี ทอม ฮอลแลนด์ถ่ายทอดความเป็นหนุ่มน้อยที่มีรักแรกพบ แต่เขาไม่สามารถเก็บความรู้สึกของตัวเองได้เลยเพราะ "เสียงคิด" (Noise) จนเกิดสิ่งที่เรียกว่าอาการเลิ่กลั่ก ทำให้มีโมเม้นท์น่ารักหลายครั้ง ส่วนเดซี ริดลีย์ โชว์เสน่ห์ทำให้คาแรกเตอร์ของเธอมีความโดดเด่น แม้บางครั้งจะติดภาพจำของ เรย์ใน STAR WAR มาบ้างก็เถอะ
แต่ข้อเสียของหนังเรื่องนี้ก็มีหลายจุดให้พูดถึง ทั้งด้านเนื้อเรื่องที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย เดินทางเป็นเส้นตรง และเฉลยปมที่เดาง่ายมากกกกกกกกก การเดินทางที่ฉากดูจำเจจนน่าเบื่อ หนังดำเนินเนื้อเรื่องช้าเกินไป (นี่ขนาดไม่ต้องพูดกันนะ อ่านใจได้เลย) ช้าแอคชั่นที่สั้นและไม่น่าตื่นเต้นสักนิด
เตือน!! ย่อหน้านี่มีเนื้อหา สปอย!!
แต่จุดที่ให้อภัยไม่ได้เลยคือ การเล่นอะไร ทิ้งๆ ขว้างๆ หนังให้เวลากับกิมมิคของ "เสียงคิด" (Noise) มากเกินไป จนหลายๆ อย่างในหนังไม่มีการพูดถึง หรือเคลียประเด็นให้ชัดเจน ทั้งสกิลปามีดของพระเอกที่ดูเทพมากกก แต่ก็ไม่เคยออกมาใช้สู้จริงๆ จังๆ เลย (จะโชว์ทำไม) บทลูกชายของนายกตัวร้ายของเรื่องที่เหมือนจะเป็นคู่ปรับพระเอก แต่ตอนท้ายหายไปเลย (หรือจะเอาไว้ต่อภาคสองเหรอ จะมีมั้ย!?) มนุษย์ต่างดาวเจ้าถิ่น ที่ดูเหมือนจะมีอะไร (แต่ก็ไม่มีอะไรเลย) และมีอีกหลายอย่างถูกทิ้งดื้อๆ ทำให้เราออกมาจากโรงและยังรู้สึกค้างคา
ด้วยการดำเนินเนื้อเรื่องที่ช้า บวกกับหลายๆ ประเด็นที่ถูกทิ้งไว้ แบบทิ้งกันไปดื้อๆ เลย จึงทำให้หนังขาดความสนุก ไปไม่สุด มีแต่ความน่าสนใจของกิมมิค "เสียงคิด" (Noise) ที่ทำให้เรายังรู้สึกโอเครกับหนังเรื่องนี้
โฆษณา