5 เทคนิคยื่นภาษีเงินได้บุคคลปี 2563
สรุปความเข้าใจในการจัดการภาษีมาฝากกันครับ
ขอบคุณรูปประกอบจาก NamFinance ครับ
ข้อแรก : รู้จักตัวเอง
สำรวจตัวเองก่อนว่าเป็นแบบไหน?
ระหว่างคนที่ได้คืน หรือ คนที่ต้องจ่าย
จงรีบยื่นภาษี - ถ้ารู้ว่าเราได้สิทธิ์คืนภาษี
เพราะยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี เงินภาษีส่วนที่จ่ายเกินไป
จะได้กลับมาไวที่สุด (เพราะต้องรอตรวจสอบด้วย)
สำหรับคนที่จ่ายภาษี จะยื่นเร็วหรือช้าก็ได้
อยู่ที่การจัดการเงินของตัวเองครับ
เพราะบางคนไม่ชอบค้างคา ก็อาจจะรีบยื่นไว ๆ
แต่ถ้าคนที่จัดการเงินดี อาจจะยื่นช้าหน่อย
ปีนี้ วันสุดท้ายของการยื่นภาษี ต่างกันนะ
กระดาษ - 31 มีนาคม 2564
อินเตอร์เน็ต - 30 มิถุนายน 2564
ถ้ามียอดชำระภาษีตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป
สามารถผ่อนได้ 3 งวดด้วย เผื่อใครอยากบริหารเงินครับ
อ้อ สำหรับคนที่จ่ายผ่านบัตรเครดิต
ถ้าบริหารเงินดี ๆ อาจจะจ่ายช้ากว่านั้นอีก
ลองดูวันที่ตัดยอดบัตรเครดิตดี ๆ ครับ
บัตรไหนตัดช่วงปลายเดือนให้เลือกบัตรนั้น
จะได้ไปจ่ายอีกทีเดือนหน้า มีเวลาอีกสักหน่อย 55
ปัจจุบัน เราสามารถจ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิต
ธนาคาร กรุงเทพ กสิกร ไทยพาณิชย์ ได้ครับ
ข้อสอง : จัดการหลักฐานการยื่นภาษี (รายได้)
เทคนิคนึงที่พรี่หนอมใช้แล้วเวิร์กสำหรับตัวเอง
คือ แยกรายได้ออกมาเป็นประเภทก่อน
ทำตารางสรุปขึ้นมาเลยว่า เรามีรายได้อะไรบ้าง
ถ้าหากใครจดบันทึกรายรับรายจ่าย
แยกตามประเภทเงินได้ทางภาษี ก็ยิ่งดี
เพราะจะทำให้เราเอามาเช็คกับใบหักภาษี ณ ทีจ่ายได้
สำหรับคนที่มีการแยกบัญชีธนาคารไว้รับเงิน (รายได้) จะยิ่งดีมาก เพราะจะทำให้เห็นว่าเงินเข้าทั้งปีเป็นเท่าไร (อันนี้แนะนำสำหรับคนทีทำธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดามากๆ)
สิ่งที่คนมักเข้าใจผิด คือ ไม่เอารายได้ที่ไม่ถูกหักภาษีมายื่น แต่จริงๆ เราต้องยื่นทั้งหมดครับ ไม่ว่าจะถูกหักหรือไม่ถูกหักภาษีก็ตาม ถ้าไม่ใช่รายได้ที่ได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษี ยังไงก็ต้องยื่น
เวลาสรรพากรประเมินรายได้ เขาจะยึดตามหลักฐานที่เรามี ดังนั้นเราควรเตรียมหลักฐานให้พร้อม ยื่นรายได้ให้ตรงกับข้อมูลที่เรามี เผื่อว่าถูกตรวจจะได้ชี้แจงได้ด้วยครับ
ข้อสาม : จัดการหลักฐานการยื่นภาษี
(ค่าใช้จ่าย และ ค่าลดหย่อน)
หลักฐานการลดหย่อนภาษี ผมแนะนำแสกนเก็บให้เรียบร้อยเลย จดยอดไว้ และแสกน ทำให้เป็นนิสัย โดยเฉพาะคนที่ต้องการขอคืนภาษี ให้แนบหลักฐานลดหย่อน และ หลักฐานรายได้ในข้อ 2 ให้กับสรรพากรไปเลยตอนที่ยื่นเสร็จ มันจะมีเมนูให้เราเลือกเพื่ออัพโหลดเอกสาร ให้อัพให้ครบตั้งแต่ตอนนั้น ไม่ต้องรอขอเพิ่มเติมอีกที
ส่วนคนที่จ่ายภาษีเพิ่ม ไม่ต้องอัพโหลดเอกสาร อันนี้เก็บไว้ให้ดี ถ้าเขาขอตรวจสอบ ต้องมีให้เขาตรวจสอบด้วยนะครับ
ข้อสี่ : ยื่นผิดให้ยื่นเพิ่มเติม
ถ้ายื่นภาษีผิดไป ให้ยื่นใหม่ได้เลย เราจะเรียกว่าเป็นการยื่นเพิ่มเติม โดยกรอกข้อมูลทั้งหมดใหม่เหมือนไม่เคยยื่น
เช่น ถ้าเรายื่นรายได้ไว้ 1,000,000 บาท แต่พบว่าเรามีรายได้จริง 1,200,000 บาท แบบนี้จะต้องยื่นแก้ไขเป็น 1,200,000 บาท ไม่ใช่กรอกเพิ่ม 200,000 บาท
ถ้ายื่นครั้งแรกจ่ายภาษีไปแล้ว ให้เอายอดภาษีมาหักตอนที่กรอกยื่นเพิ่มเติม มันจะมีช่องให้กรอกอยู่ แล้วเราจะจ่ายเพิ่มส่วนที่ขาดได้ แต่ในกรณีที่ขอคืนภาษี ไม่ต้องกรอกอะไรเพิ่มเติมครับ
ข้อห้า : ระหว่างรอผลตรวจสอบภาษี
และหากได้รับภาษีคืนไม่ตรงกับที่ขอ
สำหรับ สถานะตรวจสอบการขอคืนภาษี สามารถตรวจได้ที่เวปสรรพากร ลองเข้าไปเช็คดูได้ อาจจะได้คืนช้าหน่อย ขึ้นอยู่กับพื้นที่ ความยากง่าย จำนวนเงินที่ขอคืน ฯลฯ แล้วแต่ปัจจัยต่างๆ แต่ถ้าอ้างตามกฎหมาย กรมสรรพากรจะดำเนินการคืนเงินภาษี ภายใน 3 เดือน กรณีที่ได้เอกสารครบ (ถ้าขอเพิ่มก็จะเริ่มต้นนับใหม่)
ถ้าได้ภาษีคืนพร้อมจดหมายแล้ว ไม่เห็นด้วยกับจำนวนเงินที่ได้รับ สามารถอุทธรณ์ภายใน15 วันนับจากวันที่ได้รับจดหมายแจ้งคืนภาษีครับ
...หวังว่าเทคนิคเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการยื่นภาษีของทุกคนครับ
#TAXBugnoms
- 242
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
