25 มี.ค. 2021 เวลา 03:01 • กีฬา
" ยาร์นี่ กับ 4 วันในโคเวนทรี "
กอร์ดอน สตรัคคั่น ถือเป็นหนึ่งในตำนานวงการฟุตบอลสก็อตแลนด์อีกหนึ่งราย
เขาเป็นมิดฟิลด์จอมขยัน ทุ่มเท ใจสู้ เล่นเกมรับดี เล่นเกมรุกก็ได้ เป็นกองกลางบ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ ตามแบบฉบับมิดฟิลด์เกาะบริเตน
สร้างชื่อกับอเบอร์ดีน เป็นขุนพลข้างกายของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เลย และได้มาร่วมงานกันอีกครั้งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้สุดท้ายจะขัดแย้งจนย้ายทีมออกไป แต่ สตรัคคั่น ยังเป็นที่รักของแฟนผีจำนวนไม่น้อย
นอกเหนือจากการเป็นนักเตะแล้ว สตรัคคั่น ยังผันตัวมาคุมทีมและทำผลงานได้ดีทีเดียว ได้โอกาสคุมทีมชาติสก็อตแลนด์อยู่หลายปี แต่ งานแรกของเขาคือการคุม โคเวนทรี สโมสรสุดท้ายในการค้าแข้ง
ช่วงยุคกลางจนถึงปลาย 90s เป็นช่วงที่ทีมช้างกระทืบโรง ทำผลงานได้ดี มีนักเตะฝีเท้าดีร่วมทีมหลายราย เมื่อเล่นในบ้านไฮฟิลด์ โร้ด ของพวกเขา ทีมใหญ่ๆ ก็เอาชื่อมาทิ้งนักต่อนัก
เมื่อปีสองปีที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ประจำเมืองโคเวนทรี ได้โอกาสสัมภาษณ์ สตรัคคั่น โดยให้เขาเลือกนักเตะโคเวนทรีที่เขาเคยร่วมงาน 11 คนพ่วงตัวสำรอง 7 ตัว
ลองดูรายชื่อผู้เล่นของทีมช้างกระทืบโรงยุคนั้นถือว่าไม่ธรรมดาเช่น สตีฟ อ็อกกริโซวิช, โรลันด์ นิลส์สัน, ดาร์เรน ฮัคเคอร์บี้, จอร์จ บัสเต็ง , แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์, มุสตาฟา ฮัดจิ, ดิออน ดับลิน, ร็อบบี้ คีน, โนเอล วีแลน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สตรัคคั่น แอบเย้านักข่าวว่า "ผมขอเลือก โรเบิร์ต ยาร์นี่ ด้วยได้ไหมเนี่ย? จะใส่ชื่อเขาไว้เป็นสำรอง"
โรเบิร์ต ยาร์นี่ ชื่อนี้แฟนเกมวินนิ่ง อีเลฟเว่น ต้องรู้จักดี เพราะเป็นกองหลังสปีด 9 แห่งทีมชาติโครเอเชีย
เขาเป็นวิงแบ็กซ้ายที่ฝีเท้าจัด หลังจากสร้างชื่อกับ ไฮจ์ดุ๊ค สปลิต สโมสรดังในบ้านเกิดก็ย้ายมาอิตาลี อยู่กับ บารี่, โตริโน่ และ ยูเวนตุส ก่อนจะโยกมาหากินในสเปน กับ เรอัล เบติส ในปี 1995
เบติส ตอนนั้นถือว่าเป็นทีมมีความทะเยอทะยานสุดยอด พวกเขาต้องการขึ้นมาท้าทายความสำเร็จกับพวกสองยักษ์ใหญ่แห่งมาดริด กับ บาร์เซโลน่า
ในฟุตบอลโลก ฟร้องซ์ 98 เป็นเวทีที่ทีมชาติโครเอเชียได้สร้างชื่อ
โครเอเชีย ได้รับเอกราช แยกประเทศออกมาในปี 1992 และเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ใหญ่เป็นครั้งแรกใน ยูโร 96 ต่อด้วย ฟร้องซ์ 98
แม้จะเป็นประเทศใหม่ แต่นักเตะไม่ใหม่เลย พวกแข้งโครแอต คือยอดนักเตะยุคทองแห่งยุโรปตะวันออกยุคนั้น ที่หลายคนก็รับใช้ทีมชาติยูโกสลาเวีย มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น สลาเวน บิลิช, อิกอร์ สติมัช, อัลยอซ่า อาซาโนวิช, มาริโอ สตานิช, ดาวอร์ ซูเคอร์, โรเบิร์ต โปรซิเนซกี้, ซโวนิเมียร์ โบบัน และ โรเบิร์ต ยาร์นี่ ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ฟร้องซ์ 98 มาถึง โครเอเชีย ทำผลงานได้อย่างที่ทุกคนคาดการณ์ พวกเขาคือหนึ่งในม้ามืดผู้แข็งแกร่ง จบด้วยอันดับ 3 ในท้ายที่สุด อดเข้าชิงเพียงเพราะประตูโกลเด้น โกล ของ ลิลิย็อง ตูราม ผู้ไม่เคยทำประตูให้ทีมชาติฝรั่งเศสได้เลย ยกเว้นเกมนี้ที่ทำคนเดียว 2 ประตู
1
ทีมตราหมากรุก เล่นในระบบ 3-5-2 โดยวิงแบ็กซ้าย ผู้ทำผลงานโดดเด่นก็คือ โรเบิร์ต ยาร์นี่
ทันทีที่ ฟร้องซ์ 98 จบลง ยาร์นี่ ก็เป็นหนึ่งในนักเตะที่ตลาดต้องการ เรอัล มาดริด นั้นอยากได้เขาไปร่วมทีมแต่ เรอัล เบติส ปฏิเสธ ไม่ต้องการขายให้คู่แข่งร่วมลีก
สุดท้าย กลายเป็น โคเวนทรี ของ กอร์ดอน สตรัคคั่น ที่ติดต่อเข้าไป
จาก เบติส ที่กำลังทุ่มเงินเป็นสถิติโลกคว้า เดนิลสัน ปีกจอมสับทีมชาติบราซิลมาร่วมทีม เพื่อลุ้นแชมป์ ลา ลีกา แต่ ยาร์นี่ กำลังจะย้ายไปเล่นให้ทีมอันดับ 11 แห่งพรีเมียร์ ลีก ในมิดแลนด์ส ประเทศอังกฤษ
เบติส ยอมรับข้อเสนอ 2.6 ล้านปอนด์จาก โคเวนทรี ปล่อย ยาร์นี่ ย้ายออกไปได้
มันก็คงเป็นเรื่องธรรมดาหากว่า ยาร์นี่ จะย้ายมาเล่นให้โคเวนทรี ตามปกติ แต่มันไม่ธรรมดา เพราะเมื่อย้ายมาถึง เขาก็เข้าชมเกมอุ่นแข้งของทีมใหม่ 1 นัด และยังไม่ทันได้สวมเสื้อสีฟ้าของทีมช้างกระทืบโรงเลย โรเบิร์ต ยาร์นี่ ก็ย้ายไปเล่นให้ เรอัล มาดริด ภายใน 4 วัน ด้วยค่าตัว 3.5 ล้านปอนด์!
นี่มันเกิดอะไรขึ้น? มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะทฤษฎีสมคบคิดที่ว่า เรอัล มาดริด กับ โคเวนทรี จับมือกันเล่นแท็คติกนี้ เนื่องจาก เบติส ไม่ต้องการขาย ยาร์นี่ ให้ มาดริด เลยต้องใช้ระบบตัวแทนมาคั่นกลาง ซึ่ง โคเวนทรี ก็ยินดีเพราะได้กำไรเกือบ 1 ล้านปอนด์ภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ ซึ่ง 1ล้านปอนด์ ในปลายยุค 90s ถือว่าเยอะพอดู
1
อีกหนึ่งทฤษฎีนึงก็คือการที่ ยาร์นี่ ต้องทำตามภรรยา เพราะทันทีที่ภรรยาของเขาได้มาเห็นเมืองโคเวนทรี หล่อนก็โอดครวญทันที
ซึ่งก็แน่นอนล่ะ โคเวนทรี ไม่ใช่เซบีย่า ที่ตั้งของเบติส ที่อากาศแจ่มใสอบอุ่น เต็มไปด้วยศิลปะแบบมัวร์ และไม่ใช่เมืองหลวงที่เจริญอย่าง มาดริด และในอังกฤษ อย่างน้อยก็น่าจะเป็นลอนดอนมากกว่า
แม้จะไม่ได้ร่วมงานกัน ได้สนทนาพาทีกันแค่ไม่กี่วัน แต่ กอร์ดอน สตรัคคั่น กับ โรเบิร์ต ยาร์นี่ ก็มีความนับถือกันและกัน อย่างที่เห็นอยู่แล้วว่า สตรัคคั่น อยากใส่ชื่อแบ็กรายนี้ไว้ในทีมรวมดาวดังโคเวนทรีของเขา
โรเบิร์ต ยาร์นี่ เองก็เคยให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ตอนนั้นเอาไว้
"กอร์ดอน สตรัคคั่น ต้องการให้ผมเซ็นกับโคเวนทรี เขาชอบการเล่นของผม เขาชอบฟอร์มของผมในสเปน และในทีมชาติ แต่เมื่อได้รับข้อเสนอจาก มาดริด ผมเลยตัดสินใจเซ็นกับพวกเขาแทน"
"ผมไม่ได้จะบอกว่ามันเป็นการตัดสินใจของภรรยาผมหรอกนะ แต่มันเป็นการตัดสินใจของครอบครัว ครอบครัวผมไม่อยากให้ย้ายมาอังกฤษอยู่แล้ว เรามีลูกเล็กๆ ลูกสาวผมเพิ่งเข้าโรงเรียนอนุบาลในสเปน และเราอยากอยู่ที่นั่นมากกว่าย้ายมาอังกฤษ ผมพูดตรงๆ เลย และเมื่อผมอธิบายกับเขา สตรัคคั่น ก็เข้าใจเป็นอย่างดี"
ตอนที่ กอร์ดอน สตรัคคั่น คุมทีมชาติสก็อตแลนด์ ไปเตะฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับโครเอเชีย เมื่อปี 2013 ทั้งสองคนก็ได้นัดเจอกันอีกครั้งในซาเกร็บ
แม้ตลอดช่วงหลายปี ทั้งคู่ไม่ได้เจอและพูดคุยกันเลย แต่ยังให้ความเคารพนับถือกันและกัน โดยมีเพื่อนร่วมกันบางคน ที่พอจะได้อัพเดตข่าวสารกันและกัน
การขาย โรเบิร์ต ยาร์นี่ ได้กำไรก้อนโต ทำให้ โคเวนทรี เซ็น 2 แข้งเข้ามาแทนคือ พอล ฮอลล์ และ มาร์ค เอ็ดเวอร์ธี่
ขณะที่ ยาร์นี่ ย้ายไป เรอัล มาดริด ได้เพียงปีเดียว ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากไม่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงต่อเนื่อง จากนั้นก็ย้ายต่อไปยัง ลาส ปัลมาส ทันที ก่อนจะเลิกเล่นกับ พานาธิไนกอส ในปี 2002 พร้อมๆ กับหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2002 ที่เขาลงเล่นเป็นทัวร์นาเมนต์ทิ้งทวน
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา