28 มี.ค. 2021 เวลา 00:10 • ท่องเที่ยว
Japan 2020, Osaka - Shirakawa-go road trip before Covid-19 EP 5 Good bye Takayama see you next time.
เช้าวันที่สองใน Takayama คือวันที่เราต้องเดินทางกลับเข้า Osaka วันนี้คงเป็นอีกวันที่ต้องขับรถทั้งวัน เป้าหมายของเราคือแวะหาเพื่อนที่ Nagoya ด้วยความคิดถึงและเพื่อนฝากหิ้วขนมไทยมาด้วย หลังจากนั้นจะแวะ Kyoto เพื่อเที่ยวอะไรสักอย่างให้คุ้มค่า ก่อนเข้า Osaka ในช่วงค่ำ ต้องคืนรถก่อน 20:00
Fushimi Inari Shrine
แผนการเดินทางในวันนี้
เราเดินไปทานอาหารเช้าที่เดิม แต่ไม่ได้เดินเล่นในตลาด เพราะอยากรีบออกแต่เช้า ต้องแวะ Nagoya หาเพื่อน และอยากแวะเที่ยว Kyoto ก่อน ทานข้าวเช้าเสร็จเราจึงเดินกลับมาร้านข้าวปั้น มีเข้าปั้น เข้ากล่องเหมาะสำหรับไว้เดินทางหลากหลายให่เลือก ราคาก็ไม่แพง เพื่อทานในรถเป็นการประหยัดเวลาในการเดินทาง ไม่นานเรากลับมาขนของขึ้นรถออกเดินทาง ลาพี่เจ้าของบ้าน แล้วมุ่งหน้าออกจาก Takayama กลับขึ้นเขาตามเส้นทางเดิมที่มา
จะกลับแล้ว
ตามเส้นทางขามาเราเคยแวะจุดพักกลางทางบนเขา ซึ่งมีป้ายเขียนบอกระดับความสูง น่าจะสูงสุดในบริเวณนี้ละมั้ง เพราะมีหิมะตามพื้นให้เห็น เลยตั้งใจว่าจะจอดแล้วปล่อยเด็กลงไปย่ำหิมะ คงดีกว่ากองหิมะใน Takayama แน่ น่าจะได้รูปสวยๆ
โชคดีเป็นของเราเพราะเมื่อคืนน่าจะมีหิมะลงมาเพิ่ม ค่อนข้างหนาเต็มพื้นไปหมด ได้เวลาเริงร่าแล้วเด็กน้อย
เพลินอยู่ตรงนี้นานเหมือนกัน
หลังจากเพลินอยู่นาน เราก็ออกเดินทางต่อทานข้าวที่เตรียมมากันบนรถเพื่อประหยัดเวลา ระหว่างทางก่อนเข้า Nagoya เห็นลานสกีบนเขามาแต่ไกลๆ ไม่แน่ใจว่าชื่ออะไร ต่อมความอยากหิมะมันสั่น แต่ก็ต้องทำใจไปต่อ ถึง Nogoya แวะหาเพื่อนเพื่อส่งขนมหวานไทย ถ่ายรูปทานข้าวด้วยกันในห้างเล็กๆ มีร้านดองกี้ด้วย เพื่อนเลยแนะนำให้ไปซื้อหน้ากากกักตุน เพราะเกรงว่าเข้า Osaka แล้วจะสู้รบแย่งชิงกับแม่จีนไม่ไหว หรืออาจจะขาดตลาดแล้ว ก็ไปจัดหน้ากากกันพอควร ที่ต้องซื้อเลยคือหน้ากากไซต์เด็กเพราะเมืองไทยน่าจะหายาก หายคิดถึงกันแล้วเราก็ออกเดินทางต่อ เป้าหมายหน้า Kyoto
ศาลเจ้าพ่อหมาจิ้งจอก
เราตกลงกันว่าจะไปศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) เพราะผมเคยมาแล้วชอบ แต่ตอนนั้นมาคนเดียว ส่วนวัดน้ำใส คิโยมิสุเดระ (Kiyomizudera Temple) กับ ปราสาททอง ที่วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji) ทุกคนเคยไปกันมาแล้วเมื่อครั้งมากับทัวร์ หลังจากสำรวจผ่านกูเกิ้ลก็เห็นว่าที่จอดรถอยู่ติดกับศาลเจ้าเลย ตั้งเข็ม GPS ของรถแล้วก็รีบดิงไปเลย
อากาศดีบรรยากาศครึกครื้น
เรามาถึงเวลาประมาณ 17:00 กำลังดีเลย ทัวร์ไม่ค่อยมีแล้วกำลังกลับ รถส่วนตัวก็มีทยอยออก ที่จอดรถจึงว่างไม่ต้องเสียเวลาหา เดินเข้าไปนิดเดียวก็ถึงประตูทนงขึ้น ผู้คนครึกครื้น ก่อนขึ้นถ่ายรูปหน้าประตูแล้วชี้ให้สมาชิกดูว่าขากลับเดี๋ยวเราเดินออกไปอีกทางนะ เพราะตรงนี้จะมีของกินของที่ระลึกเยอะมาก เพลินมาก
สวยตรงนี้แหละ เสาๆๆ
เวลาเดินขึ้นทุกคนจะทิ้งระยะห่างกัน ไม่ใช่เพราะกลัวโควิด แต่เพราะเว้นระยะเบลอหน่อย จะได้ถ่ายรูปสวย ไม่ติดคนอื่นมาแบบชัดเจนให้รำคาญใจ ก็ได้รูปเป็นที่ระลึกอย่างหนำใจ
เดินขึ้นไปถึงจุดเลี้ยวกลับ ก็ย้อนกลับลงมาอีกทางเพื่อเลี่ยงผู้คนที่สวนขึ้นไป เพื่อลงเดินเล่นหาอะไรทานเล่นแถวหน้าประตูตามที่วางแผนไว้
เพลินจริงๆ อยู่ที่นี่เกือบชั่วโมงกว่า
แยกไปทางขวานั่น ของกินเพียบ ของที่ระลึกตลอดทาง เมื่อครั้งมาโยรถบัสต้องจอดข้างล่างแล้วเดินขึ้นมาทางนั้น
หลังจากเพลิดเพลินจนท้องฟ้าเริ่มหรี่แสง ก็ถึงเวลาต้องเดินทางต่อ Osaka คือเป้าหมายสุดท้าย ที่เราจะอยู่ที่นั่นจนวันกลับ เราถึงจุดคืนรถก่อนเวลาเพื่อแวะเดิมน้ำมันก่อนคืน ศึกษาวิธีเติมน้ำมันมาเยอะ สุดท้ายทำงงๆ เข้าใว้เดี๋ยวพนักงานเข้ามาช่วยเอง คงกลัวเราทำปั้มระเบิด การบริการของคนที่นี่น่ารักดี
ช่วงวิกฤติละ หาจุดคืนรถไม่เจอเพราะมันอยู่ชั้นใต้ดินในอาคาร วนอยู่ 1 รอบ โดน GPS ให้ขึ้นทางด่วนอีก แต่แค่วนกลับมาถนนฝั่งตรงข้าม แต่สุดท้ายก็หากันจนเจอ เกือบไป คืนรถเสร็จก็เดินลากกระเป๋าผ่านทางเดินใต้ดินไปสักพัก ก็ขึ้นมาเดินเลียบฟุตบาธไปไม่นานก็ถึงที่พัก
ผมเลือกที่พักแบบอาพาร์ทเม้น มีครัวทำอาหารทานเองได้ นอนด้วยกันพ่อแม่ลูกลูกเป็นตึก 5 ชั้นมีชั้นละ 2 ห้อง ทำเลดี เดินไปเที่ยว Donbontori ได้สบาย ขากลับลากกระเป๋าไปขึ้น Nankai กลับสนามบิน Kansai ได้สบายๆ
สรุปการเดินทางด้วยรถของเรา โดนค่าน้ำมันแค่สามพันกว่าบาท แต่ค่าทางด่วน 5 พันกว่าบาทจ้า ฮ่า แค่คิดแล้วก็คุ้มกว่านั่งรถไฟไปแล้วไปเช่ารถที่ Takayama แถมเราได้แวะหาเพื่อน แวะเที่ยว เพื่อนว่าแพ
เพราะเราขึ้นลงหลายรอบจะยิ่งแพง ก็น่าจะจริง
ประสบการณ์สนุกๆ กับการขับรถเที่ยวของทริปนี้ก็จบลง ต่อไปนี้คือการตลุย Osaka ล้วนๆ รอ EP 6 จ้า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา