26 มี.ค. 2021 เวลา 11:38 • การศึกษา
สังคมไร้เงินสด (cashless society) กำลังมา
หลายคนคงคิด ลุงจอนมัวแต่สอนเรื่องอะไรก็ไม่รู้ น่าเบื่อ ไม่มีประโยชน์ ไร้สาระ
แต่การที่ลุงจอนยอมเสียเวลาเกริ่นเรื่องอดีตก็เพราะต้องการปูพื้นฐานความเข้าใจ
ถึงสิ่งที่กำลังดำเนินไปและกำลังจะดำเนินไปในอนาคต
ทั้งนี้ เพราะเรากำลังเข้าสู่การเปลี่ยนยุคอีกครั้งหนึ่ง เหมือนที่เคยมีการเปลี่ยนมาแล้วในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ และครั้งนี้เรากำลังเปลี่ยนจากเงินเหรียญ เงินธนบัตร ไปสู่สังคมไร้เงินสด ไปสู่เงินดิจิตอลที่จับต้องไม่ได้ เป็นเพียงตัวเลขที่เรามองเห็นผ่านคอมพิวเตอร์หรือในโทรศัพท์
ขั้นตอนกำลังดำเนินไปแบบที่อาจไม่รู้ตัว เช่น ในปี 2016 สหภาพยุโรปได้ยกเลิกการพิมพ์ธนบัตรขนาด 500 ยูโร ให้เหตุผลว่า ป้องกันการฟอกเงิน ในปีเดียวกันอินเดียประกาศยกเลิกธนบัตรขนาด 500 และ 1000 รูปี (ขนาดใหญ่ที่สุดที่ใช้หมุนเวียน) โดยให้ประชาชนนำธนบัตรไปแลกเปลี่ยนเป็นธนบัตรที่ออกใหม่แทน
การเปลี่ยนเป็นสังคมไร้เงินสด มีข้อดีหลายประการได้แก่
1. เนื่องจากการทำธนบัตรปลอมทำได้ง่ายขึ้น เหมือนมากขึ้น และต้นทุนต่ำลง ทำให้ธนบัตรที่ออกใหม่ต้องมีระบบป้องกันการปลอมปนมากขึ้น ต้นทุนการพิมพ์สูงขึ้น การเป็นสังคมไร้เงินสดไม่ต้องพิมพ์เงิน ไม่มีค่าใช้จ่ายตรงนี้
2. ต้นทุนการขนส่ง เก็บรักษาธนบัตร ลองนึกถึงรถขนเงินคันใหญ่ๆ หนักๆ ขนเงินมาเติม ATM ธนาคารต้องทำห้องนิรภัยขนาดใหญ่เพื่อเก็บเงิน สิ่งเหล่านี้แทบไม่จำเป็นเลยเมื่อเราเข้าสู่ยุคสังคมไร้เงินสดเต็มตัว (cashless society)
3. อัตราก่ออาชญากรรมจะลดลง เพราะประชาชนทั่วไปจะไม่พกเงินสด ทำให้ไม่มีแรงจูงใจในการก่ออาชญากรรม
4. ลดอาชญากรรมผิดกฏหมาย เช่นการเล่นพนันออนไลน์ การซื้อยาเสพติด ฯลฯ เพราะเมื่อเราเข้าสู่สังคมไร้เงินสดเต็มตัว ทุกธุรกรรมทางการเงินจะถูกบันทึก และสืบคนเส้นทางทางการเงินได้ ดังนั้นเส้นทางธุรกรรมทางการเงินที่ถูกกฏหมายก็จะถูกปิดกัน หรือติดตามจับกุมได้ง่าย และใช่แล้วครับเราต้องเสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น
5. ไม่ต้องกังวลเรื่องแลกเงิน เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ หรือชำระค่าสินค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ ทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องยุ่งยากเสียเวลา
การทำธุรกรรมบนมือถือของไทย
อ่านแล้วเคลิ้ม เหมือนจะมีแต่ข้อดี แต่จริงๆ แล้ว การเปลี่ยนไปเป็นสังคมก็มีข้อเสียหลายประการได้แก่
1. การที่ธุรกรรมการเงินทั้งหมดถูกบันทึก นั่นหมายความว่าคุณ ได้สูญเสียความเป็นส่วนตัว ไปเรียบร้อยแล้ว คุณใช้เงินซื้อยาเสพติด บริการทางเพศ จับจ่ายในสิ่งที่น่าอาย สิ่งเหล่านี้จะถูกบันทึก และอาจถูกใช้ติดตามให้เสียภาษี ตรวจสอบธุรกรรมฟอกเงิน หรือ ที่เลวร้ายน้อยที่สุดก็เช่นถูกขายข้อมูลให้กับร้านค้าออนไลน์เพื่อเสนอขายสินค้า บริการ ให้กับคุณ
2. ความเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมออนไลน์ เช่นถูกแฮคบัญชี ถูกฟิชชิ่ง บัญชีของคุณถูกเข้าถึงโดยบุคคลอืนโดยผิดกฏหมาย และมักเป็นความเสียหายที่มีมูลค่ามากกว่าการจี้ปล้นตามท้องถนนแบบเดิม
3. ช่องว่างระหว่างชนชั้นกว้างมากยิ่งขึ้น อาจมีคนกลุ่มใหญ่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง หากไม่พร้อมใช้เทคโนโลยีใหม่
4. บางคนที่เสพติดการจับจ่ายใช้สอย มักพบว่าหักห้ามใจไม่ซื้อสิ้นค้าได้ยากขึ้น
5. ในอนาคตระบบจ่าย/รับเงินออนไลน์ อาจมีการคิดค่าใช้จ่าย ไม่ฟรีแบบปัจจุบัน
โฆษณา