5 เม.ย. 2021 เวลา 01:00 • ยานยนต์
จุดเด่นของประเทศญี่ปุ่นอย่างหนึ่งนั่นคือระบบขนส่งมวลชนที่ทั้งสะดวก รวดเร็ว และครอบคลุมทุกสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ โดยเฉพาะขนส่งมวลชนระบบรางหรือรถไฟที่ขึ้นชื่อความตรงต่อเวลาและดีไซน์ที่สวยงาม ซึ่งรถไฟในญี่ปุ่นนั้นก็แบ่งออกเป็นหลายๆประเภทตามลักษณะการใช้งาน วันนี้จะมาอธิบายรถไฟแต่ละแบบกันครับ
2
1. รถไฟความเร็วสูง
หรือที่รู้จักกันในชื่อชินคันเซ็ง เป็นรถไฟที่วิ่งด้วยความเร็วมากกว่า 250 กิโลเมตรขึ้นไป ปัจจุบันมีเส้นทางครอบคลุมทั่วประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เกาะคิวชูจนถึงเกาะฮอกไกโด ที่นั่งมีทั้งมีจองที่นั่งและไม่จองที่นั่ง เหมาะกับผู้ที่ต้องการเที่ยวในหลายๆภูมิภาค สำหรับนักท่องเที่ยวที่ถือ JR pass สามารถขึ้นรถไฟความเร็วสูงได้ฟรี
Nozomi Shinkanzen
2.รถไฟ Limited express
เป็นรถไฟชานเมืองที่วิ่งข้ามจังหวัดเป็นส่วนใหญ่ เช่น รถไฟด่วนเข้าโตเกียวหรือรถไฟด่วนไปคาวางูจิโกะ เป็นต้น เป็นรถไฟที่วิ่งด้วยความเร็วมากกว่ารถไฟทั่วไปแต่ไม่เท่ากับรถไฟความเร็วสูง แต่ก็แลกมากับราคาที่ถูกกว่า ที่นั่งมีทั้งมีจองที่นั่งและไม่จองที่นั่ง จุดเด่นที่สำคัญของรถไฟประเภทนี้คือในบางเส้นทางมีการจำหน่ายอาหารบนขบวนรถไฟ เช่น ขบวน romance car ของสาย Odakyu line
Fuji Excursion
3. รถไฟธรรมดา
เป็นรถไฟที่มีจำนวนมากที่สุดในญี่ปุ่นเพราะใช้วิ่งภายในเมืองนั้นๆเช่น รถไฟใต้ดินหรือรถไฟ JR ของโตเกียว ซึ่งรถไฟธรรมดายังสามารถแบ่งได้อีกตามจำนวนสถานีที่จอด
1) Express - มีจำนวนสถานีที่จอดน้อยที่สุดในบรรดารถไฟธรรมดา ส่วนใหญ่จะผ่านเฉพาะสถานีใหญ่ๆเท่านั้น อาจมีเก็บค่าโดยสารเพิ่มเติมในบางเส้นทาง
2) Rapid - มีจำนวนสถานีที่จอดมากกว่า express และไม่มีการค่าโดยสารเพิ่มเติมจากค่าโดยสารปกติ
3) Local - เป็นรถไฟที่จอดทุกสถานี
วิธีสังเกตคือในบางเส้นทางนั้นจะมีทั้ง Local ,Rapid, หรือ Express ให้เลือกใช้บริการ ซึ่งบางสถานีนั้นจะมีแค่รถไฟ local ผ่านเท่านั้น และถ้าเราเผลอไปนั่ง rapid ก็จะนั่งเลยสถานีที่ต้องการจะลง และการเลือกใช้รถไฟ express นั่นจะช่วยประหยัดเวลาเดินทางได้เพราะมีการแวะจอดที่น้อยกว่าแถมยังมีค่าโดยสารที่เท่ากับรถไฟ Local อีกด้วย
Okakyu line แบบ Local
ขอบคุณข้อมูลดีๆเว็บไซต์

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา