27 มี.ค. 2021 เวลา 08:11 • ประวัติศาสตร์
ประวัติของคลองสุเอซ
ภาพการเปิดคลองสุเอซในปี 1869
พอดีได้ทราบข่าวเกี่ยวกับการที่มีเรือลำหนึ่งในคลองสุเอซ (Suez Canal) ปิดกั้นเส้นทางน้ำ ซึ่งคาดว่าคงจะใช้ระยะเวลาราวๆ สองสัปดาห์ในการคลายปัญหาลงได้ “The Ever Given” ซึ่งเป็นเรือคอนเทนเนอร์ที่มีความยาวเกือบเท่าตึกเอ็มไพร์สเตท (Empire State) เกยตื้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคมหลังจากถูกลมและพายุทรายที่ทำให้ทัศนวิสัยแย่และการนำทางที่ไม่ดีหน่วยงานคลองสุเอซ (SCA) กล่าวในแถลงการณ์ ในขณะเดียวกันมีเรืออย่างน้อย 160 ลำที่บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงและสินค้าที่สำคัญกำลังรอผ่านทางน้ำที่ถูกปิดกั้นตามรายงานของ SCA – ข้อมูลจากสำนักข่าว CNN
ภาพเรือที่กำลังเกยตื้นในคลองสุเอซ (ภาพจากสำนักข่าว CNN)
ซึ่งเมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้ทางผู้เขียนเองเลยพยายามเรียบเรียงและรวบรวมประวัติเกี่ยวกับคลองสุเอซว่ามันมีความสำคัญต่อโลกมากขนาดไหน จากที่เราทราบกันดีการค้าทั่วโลกได้รับผลกระทบหลังจากเรือคอนเทนเนอร์ซึ่งกล่าวไว้ด้านบนแล้วติดอยู่ในคลองสุเอซซึ่งเป็นทางน้ำยาว 193 กิโลเมตรและคลองนี้เองก็ดันเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมต่อยุโรปและเอเชีย คลองสุเอซซึ่งตั้งอยู่ในประเทศอียิปต์สร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ. 1859 (พ.ศ. 2402) ถึงปี 1869 (พ.ศ. 2412) ซึ่งเชื่อมระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean sea) และทะเลแดงหรืออ่าวอาหรับ (Arabian Gulf) ในฐานะที่เป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติก (Atlantic ocean) และดินแดนรอบมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific ocean) เป็นหนึ่งในเส้นทางน้ำที่พลุกพล่านที่สุดในโลกโดยไม่ต้องใช้เส้นทางเดินเรือรอบแหลมกู๊ดโฮปในแอฟริกาและตัดระยะทางได้ถึง 7,000 กม.(คือลดเวลาจากประมาณ 24 วัน เป็นเวลาเพียงไม่ถึงวัน)
แต่คลองนี้มีอะไรบ้างนอกจากการเดินเรือที่ราบรื่นในช่วง 150 ปีหรือมากกว่านั้นนับตั้งแต่การสร้างขึ้นอย่างเป็นทางการ ในความเป็นจริงปัญหาทางการเมืองการเงินและทางเทคนิคส่งผลให้คลองปิดห้าครั้งโดยปิดครั้งสุดท้ายนานแปดปีก่อนที่จะเปิดให้เดินเรืออีกครั้งในเดือนมิถุนายนปีค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) ในช่วงที่อียิปต์มีปัญหากับอิสราเอล
ในปี 1799 (พ.ศ. 2342) มีความพยายามของนโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoleon Bonaparte,ซึ่งในตอนนั้นยังไม่ได้เป็นจักรพรรดิ ต่อมานโปเลียนได้สถาปนาพระองค์เองเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิฝรั่งเศส ปรากฏในพระนามจักรพรรดินโปเลียนหรือนโปเลียนที่ 1 ) ในการสร้างคลอง แต่ก็ได้สิ้นสุดลงเนื่องจากความไม่แม่นยำในการวัด ในช่วงกลางศตวรรษที่ 1900 เเฟร์ดีน็องต์ เดอ เลสเซพส์ (Ferdinand de Lesseps) นักการทูตและวิศวกรชาวฝรั่งเศสได้โน้มน้าวให้อุปราช (เข้าใจว่าคงจะคล้ายๆ กับข้าหลวงต่างพระองค์ของพระมหากษัตริย์ ไม่ได้เป็นอุปราชในสถานะที่เป็นมกุฎราชกุมารจริงๆ) แห่งอียิปต์ซึ่งในตอนนั้นอียิปต์ยังเป็นประเทศราชของจักรวรรดิออตโตมันหรือตุรกี [คือเอาจริงๆ รู้สึกว่าช่วงหลังๆ จะเป็นเพียงเมืองขึ้นในนามมากกว่า และเป็นเขตปกครองร่วมระหว่างอังกฤษกับตุรกีหรือออตโตมัน ในปี 1881 (พ.ศ. 2424) ในอียิปต์เกิดความวุ่นวายขึ้นทางอังกฤษเลยยกทัพไปยึดอียิปต์เลย ในปี 1882 (พ.ศ. 2425) โดยได้รับการสนับสนุนจากฝรั่งเศสให้อังกฤษยึดอียิปต์ด้วย ประมาณว่าพออังกฤษยึดอียิปต์ได้แล้วฝรั่งเศสกับอังกฤษจะแบ่งผลประโยชน์ร่วมกันประมาณนี้แต่เจ้าของจริงคืออังกฤษ] ซึ่งอุปราชของจักรวรรดิออตโตมันหรือตุรกี (Ottoman Empire) ชื่อเซด พาชา (Said Pasha) สนับสนุนการก่อสร้างคลอง
พระรูปจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 (Emperor Napoleon I)
ในปี 1858 (พ.ศ. 2401) บริษัท Universal Suez Ship Canal ได้รับมอบหมายให้สร้างและดำเนินการคลองเป็นเวลา 99 ปีหลังจากนั้นจะมอบสิทธิ์ให้กับรัฐบาลอียิปต์ แม้จะเผชิญปัญหาหลายประการตั้งแต่ปัญหาทางการเงินและความพยายามของอังกฤษและเติร์ก (จักรวรรดิออตโตมันหรือตุรกี) ในการหยุดการก่อสร้าง แต่คลองก็เปิดให้เดินเรือระหว่างประเทศในปี 1869 (พ.ศ. 2412) ซึ่งเอาจริงๆ ทางสหราชอาณาจักรหรือจักรวรรดิบริทิช (British Empire) ในยุคนั้นกำลังแข่งล่าอาณานิคมกับจักรวรรดิฝรั่งเศส (Empire of France) ของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 (Emperor Napoleon III) จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิฝรั่งเศส ซึ่งพระองค์เป็นผู้สนับสนุนโครงการนี้อย่างมาก และทางอังกฤษเองนั้นถึงแม้จะไม่มีปัญหากันระหว่างอยู่ต่อหน้ากับฝรั่งเศส แต่ทั้งสองนั้นแข่งอิทธิพลกันพอสมควร เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว อียิปต์นั้นเป็นประเทศราชของจักรวรรดิออตโตมันและอังกฤษมีอิทธิพล ทั้งสองมีผลประโยชน์ในดินแดนแถบนี้ค่อนข้างมาก สังเกตได้จากในช่วงสงครามนโปเลียนทางจักรวรรดิบริทิชกลัวมากว่าฝรั่งเศสจะมีอำนาจในดินแดนแถบนี้มากเกินไปจนทางอังกฤษเองนั้นต้องทะเลาะกับนโปเลียนที่ 1 เลยทีเดียว ส่วนทางตุรกีเองนั้นก็ไม่อยากเสียอิทธิพลในอียิปต์ซึ่งเป็นดินแดนของตนเช่นกัน อังกฤษกับตุรกีเลยพยายามขัดขวางโครงการนี้ แต่ท้ายที่สุดโครงการนี้ก็สำเร็จไปได้ด้วยดี มีการใช้ทรัพยากรอย่างมหาศาล คนขุดหลายแสนคน มีการใช้เครื่องจักรด้วย เป็นต้น
ทางอังกฤษนั้นค่อนข้างจะอิจฉาฝรั่งเศส เลยพยายามซื้อหุ้นในบริษัทคลองสุเอซและได้ถือหุ้นได้ประมาณ 44% ของหุ้นที่มีอยู่ ซึ่งตามที่ได้เล่ามาจากด้านบนในที่สุดอียิปต์ก็ตกเป็นของอังกฤษและผลประโยชน์ส่วนใหญ่ก็ตกเป็นของอังกฤษ
2
ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 (World War I) ทางจักวรรดิบริทิชนั้นเป็นศัตรูกับจักรวรรดิออตโตมันในสงครามโกลครั้งที่ 1 ด้วยความที่ในความเป็นจริงนั้นออตโตมันปกครองอียิปต์เพียงในนามอยู่แล้ว เมื่อออตโตมันอยู่คนละฝั่งกับอังกฤษ อังกฤษเลยประกาศปกครองอียิปต์แต่เพียงผู้เดียวในปี 1914 (พ.ศ. 2457 หรือในช่วงรัชกาลที่ ๖) และปิดคลองสุเอซด้วยไม่ให้รัฐต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรของจักรวรรดิเยอรมัน รวมทั้งจักรวรรดิออสเตรียและราชอาณาจักรฮังการี กับจักรวรรดิออตโตมันผ่าน
ในปี 1919 (พ.ศ. 2462) เกิดการปฏิวัติอียิปต์ (Egyptian Revolution of 1919) ซึ่งทำให้ทางจักรวรรดิบริทิชหรือสหราชอาณาจักร ต้องประกาศเอกราชให้กับอียิปต์เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1922 (พ.ศ. 2465) แต่ถึงแม้จะได้เอกราชทางรัฐบาลอังกฤษเสนอว่าอียิปต์จะเป็นรัฐอธิปไตยที่เป็นอิสระจากจักรวรรดิโดยสมบูรณ์ แต่ด้วยรัฐบาลอังกฤษที่ยังมีผลประโยชน์เดิมในอียิปต์มากมายรวมทั้งคลองสุเอซเอง ทางรัฐบาลอังกฤษก็ยังไม่อยากทิ้งผลประโยชน์ ซึ่งอังกฤษยังปกป้องผลประโยชน์ในอียิปต์อยู่ เช่น ความมั่นคงของจักรวรรดิบริทิชในอียิปต์ ปกป้องอียิปต์จากการรุกรานจากต่างชาติ และปกป้องผลประโยชน์ต่างชาติในอียิปต์และซูดาน
ในปี 1956 (พ.ศ. 2499) ประธานาธิบดีอียิปต์ญะมาล อับดุนนาศิร ฮุซัยน์ (Gamal Abdel Nasser Hussein) ได้ยึดเขื่อนนี้มาเป็นของตนเองสิ่งนี้นำไปสู่วิกฤตคลองสุเอซ (Suez Crisis) โดยอังกฤษฝรั่งเศสและอิสราเอล เพราะทางอังกฤษและฝรั่งเศสนั้นมีผลประโยชน์ในคลองนี้ค่อนข้างมาก ส่วนอิสราเอลนั้นไม่ถูกกับประเทศอียิปต์อยู่แล้วเพราะกลัวว่าถ้าคลองสุเอซนั้นเป็นของอียิปต์อาจมีความเป็นไปได้ที่อียิปต์จะไม่ให้อิสราเอลผ่าน พันธมิตรทั้งสามเลยโจมตีอียิปต์ อียิปต์ใช้กลวิธีอย่างหนึ่งในการขัดขวางสามพันธมิตรโดยการคว่ำเรือไปประมาณ 40 ลำ ทำให้การจราจรทางน้ำเป็นอัมพาตเลยทีเดียว ทำให้เกือบทุกประเทศที่มีผลประโยชน์ในคลองสุเอซนั้นเดือดร้อนและเสียผลประโยชน์ เมื่อทั่วโลกเสียผลประโยชน์ไปมากกว่าที่อังกฤษ ฝรั่งเศสและอิสราเอลทำ ทำให้นานาชาติต้องส่งสหประชาชาติหรือ UN เข้ามา ความขัดแย้งสิ้นสุดลงในปี 1957 (พ.ศ. 2500) หลังจากที่องค์การสหประชาชาติเข้ามามีส่วนร่วมและตามมาด้วยตัวอย่างแรกของกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติที่ถูกส่งไปที่ใดก็ได้ในโลก ซึ่งตัวหลักของสหประชาติตัวหลักๆ หลายๆ คนคงจะทราบดีว่าคือสหรัฐอเมริกา คือต้องเข้าใจว่าในช่วงนั้นเกิดสงครามเย็นขึ้น (Cold War) ทางอเมริกากลัวว่าถ้าทะเลาะกันเองโดยที่ทางอเมริกาหนุนอังกฤษ ฝรั่งเศสและอิสราเอล ก็กลัวว่าสหภาพโซเวียตจะมาช่วยอียิปต์อาจจะทำให้ปัญหาบานปลายได้เช่นกัน ทางสหประชาชาติเลยยุติเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ขายหน้ามากสำหรับอังกฤษ ฝรั่งเศสและอิสราเอล ส่วนอียิปต์นั้นเป็นผู้ที่คว่ำเรือทำให้เกิดปัญหายุ่งยากมากมายและไม่ได้รอดมาสวยๆ ทางรัฐบาลอียิปต์ต้องชดใช้ค่าเสียหายไป 81.22 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
ประธานาธิบดีอียิปต์ผู้นี้ได้ยึดเขื่อนมาเป็นของตนทำให้เกิดสงครามใหญ่ขึ้น
จนกระทั่งสิบปีต่อมาคือในปี 1967 (พ.ศ. 2511) เมื่ออิสราเอลเป็นศัตรูกับกลุ่มประเทศอาหรับ อียิปต์จึงได้ประกาศเป็นศัตรูกับอิสราเอลด้วย ซึ่งทางอิสราเอลได้นำทัพมาบุกอียิปต์แต่อียิปต์ใช้วิธีเดิมคือคว่ำเรือในคลอง เรียกได้ว่าเกิดความวุ่นวายมากเลยทีเดียวและต้องใช้เวลากว่า 8 ปีในการสะสางปัญหาทั้งหมด จนถึงในยุคปัจจุบันคลองสุเอซก็ยังมีความสำคัญต่อโลกใบนี้อยู่และเมื่อมีเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ในคลองนี้ก็จะเป็นข่าวใหญ่ในระดับโลกทันที
รายการอ้างอิงและแหล่งข้อมูลอื่น
Explained: Suez Canal’s bumpy history and impact on global trade - https://indianexpress.com/article/explained/suez-canal-egypt-history-trade-7246998/
Dislodging the huge ship blocking the Suez Canal could take 'days to weeks,' as the traffic jam builds - https://edition.cnn.com/2021/03/25/middleeast/suez-canal-ship-blockage-intl-hnk/index.html
ปล. การเรียง Timeline อาจจะไม่เรียงกันตามลำดับ
โฆษณา