30 มี.ค. 2021 เวลา 11:45 • นิยาย เรื่องสั้น
ฆ่าตัวประหลาดและโดนคำสาปกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดซะเอง เรื่องเล่า หายนะแห่งซานาร์ธ I The Doom That Came to Sarnath by H.P. lovecraft
ขอต้อนรับเข้าสู่ช่อง หี วิญญาณ ความรักและความผูกพัน และเพื่อเป็นกำลังใจให้ช่อง กด subscribe และแชร์ไปให้เพื่อนๆ ฟังด้วยนะครับ
รวมเรื่องสั้นของ H.P.lovecraft โดย H.P.lovehee
ตีพิมพ์ครั้งแรกใน The Scot ฉบับเดือนมิถุนายน พ.ศ.2463
ภาพประกอบจาก Youtube : Hee
ในแคว้นมนาร์ มีดินแดนกว้างใหญ่ไพศาลอยู่ ณ ดินแดนแห่งนี้นั้น มีทะเลสาบใหญ่ประดุจทะเล เป็นทะเลสาบที่ไม่มีแม่น้ำไหลเข้าหรือไหลออกเลย และที่ริมทะเลสาบแห่งนี้นั้น มีชนเผ่าโบราณรูปร่างอัปลักษณ์อาศัยอยู่ นามว่าชนเผ่าอิบแห่งศิลาเทา เนื่องด้วยชนเผ่านี้อาศัยอยู่ในหินศิลาแกะสลักสีเทา ชนเหล่านี้มีรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ และไม่เหมือนมนุษย์แม้แต่น้อย ผิวสีเขียว ดวงตาโปนโต ริมฝีปากย้อย ใบหูพิกลพิการ ไม่มีภาษาที่ใช้สื่อสาร และไม่ส่งเสียงร้อง ลักษณะคล้ายสัตว์เลื้อยคลาน
ตำนานบันทึกไว้ว่าพวกมันลงมาจากดวงจันทร์มาพร้อมกับหมอกในคืนหนึ่งมาตั้งรกรากที่ริมทะเลสาบกว้างใหญ่แห่งนี้ และสร้างนครอิบศิลาเทา ไม่ว่าอย่างไร ก็ตามสิ่งสำคัญคือพวกมันบูชา รูปปั้นหินสีเขียวครามซึ่งสลักเป็นรูปของ "บอครุก" มหากิ่งก่าวารี ปีศาจในตำนาน รูปร่างเหมือนกิ่งก่าขนาดยักษ์ ซึ่งพวกมันจะเต้นระบํา อันน่าสะพรึงกลัวอยู่เบื้องหน้ารูปปั้นนั้น ในคืนเดือนเพ็ญ พร้อมได้ใช้เปลวไฟในพิธีกรรมของพวกมันอีกด้วย กลายเป็นพิธีลอบกองไฟจากนรกที่น่าสยองขนพอง
ภาพประกอบจากในอินเตอร์เน็ต
หลายยุคสมัยผ่านไปมนุษย์ก็มาสู่แคว้นมนาร์ คนเร่ร่อนเหล่านี้เลี้ยงแกะและได้มาตั้งรกรากอยู่อีกฝั่งของทะเลสาบ พวกเขาได้ค้นพบโลหะมีค่า และเริ่มก่อสร้างเมืองซานาร์ธ พวกเขานั้นมองเห็นชนเผ่าอิบที่น่ารังเกียจดั่งสัตว์เลื้อยคลานเหมือนดั่งเป็นศัตรู ความรังเกียจเริ่มสะสมขึ้นทุกๆวัน จนพวกมนุษย์ชาวซานาร์ธอดทนต่อความรู้สึกรังเกียจจนทนไม่ไหว และเปลี่ยนไปเป็นความเกลียดชัง จนในที่สุดกองทัพของชาวซานาร์ธที่พร้อมไปด้วย ธนู หอก ก้อนหิน บุกไปที่ฝั่งดินแดนอิบ และการสังหารหมู่ ล้างเผ่าพันธุ์ก็เริ่มขึ้น ห่าลูกศรธนู การขว้างปาก้อนหิน และการแทงด้วยหอกทำลายชีวิตในดินแดนอิบจนสิ้น หลังจากนั้นพวกซานาร์ธได้ใช้หอกเขี่ยศพของพวกอิบลงไปทิ้งในทะเลสาบ เพราะรังเกียจแม้แต่จะแตะต้องศพที่น่ารังเกียจสีเขียวของพวกอิบ และช่วยกันทำลายหินแกะสลักของนครอิบ โดยการพลักให้ล้มลงไปในทะเลสาบเช่นกัน เว้นแต่เทวรูปหินสีเขียวครามซึ่งสลักเป็นรูปของ "บอครุก" กิ่งก่าวารี ซึ่งพวกนักรบพากลับไปด้วย เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะเหนือเหล่าเทพโบราณและเผ่าพันธุ์แห่งอิบ และเป็นเครื่องหมายแทนการเป็นผู้นําแห่งมนาร์แต่เพียงผู้เดียว........
ในคืนที่เทวรูปบอครุกถูกตั้งไว้ในวิหารนั้นเอง ก็เกิดเรื่องเลวร้ายน่าสยดสยองขึ้น มีคนหลายคนเห็นดวงแสงประหลาดที่ทะเลสาบ และในตอนเช้าเทวรูปบอครุกหายไป พร้อมกับพบศพหัวหน้านักบวชนอนตายในสภาพเหมือนช็อคตายเพราะเห็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวจนขาดใจตาย หัวหน้านักบวชพยายามเขียวอักขระลวกๆ ที่อ่านไม่ออกไว้ก่อนตาย เหมือนพยายามจะบอกอะไรเป็นคำเตือนไว้.............
ภาพประกอบจากในอินเตอร์เน็ต
แล้วเวลาก็ผ่านไปหลายร้อยปี เมืองซานาร์ธเจริญรุ่งเรืองขึ้น เพราะซานาร์ธเป็นทางผ่านของกองคาราวานจากนครอิลลาเนค มีการค้าขายโลหะมีค่าต่างๆ ผ้าหายาก อัญมณี ตํารา เครื่องมือช่าง และสิ่งหรูหรามากมาย อีกทั้งกองทัพของซานาร์ธก็ได้ส่งกองทัพผู้พิชิต เพื่อสยบนครเพื่อนบ้านใกล้เคียง จนในที่สุดบัลลังก์แห่งซานาร์ธก็ยิ่งใหญ่ และเป็นศูนย์กลางของดินแดนใกล้เคียงอีกจํานวนมาก
 
ความงดงามของซานาร์ธนั้นเป็นทั้งสิ่งมหัศจรรย์ และความภาคภูมิใจของ มวลมนุษย์ กําแพงหินอ่อนอันแวววาวที่ใหญ่ขนาดรถศึก 2 คัน สามารถแล่นสวนกันได้ มีกําแพงหินทะเลสีเขียวไว้กันคลื่นที่จะเกิดขึ้นอย่างน่าประหลาดทุกปีในช่วงเทศกาลครบรอบการทําลายล้างนครอิบ จากทะเลสาบถึงแนวประตูของกองคาราวานมีถนนห้าสิบสาย รูปจําลองของสิงโตและช้างซึ่งสลักจากหินซึ่งงดงาม วังและเหล่าวิหารมากมายรายล้อมอยู่ตรงสวนพฤกษชาติที่เต็มไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้นานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมดังอยู่บนสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน อีกทั้งยังมีโรงมหรสพขนาดมหึมาเพื่อไว้ดูการแสดงต่างๆ เช่นการต่อสู้ การสันทนาการต่างๆ เพื่อหย่อนใจชาวเมือง
ภาพประกอบจากในอินเตอร์เน็ต
ทุกปีนั้นเมืองซานาร์ธจะจัดงานเทศกาลฉลองถึงการทําลายนครอิบ ซึ่งเป็นช่วงเวลาฉลองกันด้วยเหล้าองุ่น เสียงเพลง การเต้นรํา และความสนุกสนานรื่นเริงมากมายทุกรูปแบบ มีการเทิดทูนเกียรติแด่วิญญาณของผู้ที่ทําลายชีวิตโบราณอันพิกลพิการของชนเผ่าอิบ และจะถูกนักเต้นระบํา และนักดนตรี เย้ยหยันโดยสวมมาลัยกุหลาบจากสวนของเมือง แล้วองค์ราชาแห่งซานาร์ธก็จะมองออกไปยังทะเลสาบ และสาปแช่งดวงวิญญาณของชนเผ่าอิบที่สูญพันธุ์...... ในตอนแรกพวกนักบวชก็ไม่ชอบใจเทศกาลนี้ เพราะมีเรื่องเล่ากันมาในหมู่พวกเขา ถึงการที่เทวรูปเขียวครามหายไป และการที่หัวหน้านักบวชตายด้วยความหวาดกลัวและทิ้งคําเตือนบางอย่างไว้ และพวกเขาก็ยังพูดถึงที่บางครั้ง ก็มีคนมองเห็นแสงที่อยู่ใต้ทะเลสาบจากบนหอคอยสูงได้ แต่เมื่อเวลาหลายปีผ่านไปโดยไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ในตอนนี้แม้แต่พวกนักบวชก็ร่วมหัวเราะ สาปแช่ง และสนุกสนานไปกับผู้ร่วมงานในเทศกาลดังกล่าว....................
งานเลี้ยงฉลองครบรอบหนึ่งพันปีแห่งการทําลายนครอิบนั้น ยิ่งใหญ่ตระการตาสวยงามเกินกว่าจะคิดได้ มันถูกพูดถึงกันในดินแดนมนาร์อยู่หลายสิบปี แล้วเมื่อใกล้ถึงเวลาจัดงาน ม้า อูฐ และช้างจากดินแดนทั้งหมดในแคว้นมนาร์ และดินแดนใกล้เคียงก็มาถึงประตูหน้ากําแพงหินอ่อน ในคืนก่อนวันงาน บัดนี้รอบๆกำแพงเมืองซานาร์ธเต็มไปด้วยพลับพลาของเหล่าเจ้าชาย และกระโจมของพวกนักเดินทาง ส่วนในห้องโถงที่ใช้จัดเลี้ยงสำหรับชนชั้นสูงของซานาร์ธนั้น ตัวองค์ราชา นาร์กิส-เฮย์ เอนกายอยู่ด้วยความเมามายเพราะเหล้าองุ่น รายล้อมไปด้วยขุนนางที่กําลังดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน และเหล่าข้าทาสที่รีบเร่งวุ่นวายอยู่กับงานบริการ มีอาหารแปลกๆ มากมายถูกกินไปในงานนี้ นกยูงจากภูเขาอันห่างไกล ตีนอูฐจากทะเลทราย ถั่วและเครื่องเทศจากป่าลึกลับ และไข่มุกที่สวยงามประดับจาน พร้อมด้วยซอสปรุงรสที่มีมากมายจนบอกชนิดแทบไม่ได้ แต่อาหารที่มีค่าสูงสุดนั้นก็คือเหล่าปลายักษ์จากทะเลสาบของมนาร์เอง แต่ละตัวมีขนาดใหญ่โต เสิร์ฟมาในจานทองคําประดับด้วยทับทิมและเพชร ส่วนพวกนักบวชก็ทําเสียงเอิกเกริก อยู่ในหอคอยของมหาวิหารไม่แพ้กับในวัง.....
แต่ในขณะนั้นเอง ที่พลับพลาเปิดประทุนไม่มีผนังกั้น ที่เหล่าองค์ชายจากแดนรอบข้างพักผ่อนอยู่นั้น มีคนเห็นกลุ่มเงาซึ่งพุ่งลงมาจากดวงจันทร์ ลงสู่ทะเลสาบ และเกิดเป็นหมอกสีเขียวน่าเกลียดที่ขึ่นมาจากทะสาบ เชื่อมต่อกับดวงจันทร์ กลายเป็นควันที่พวยพุ่งเข้าปกคลุมเมืองซานาร์ธ และเริ่มปรากฏแสงอันประหลาดจากริมทะเลสาบไปเรื่อยๆ จนเข้ามารอบๆ กำแพงเมือง และสิ่งที่ทุกคนเห็นนั้นคือเสาของเมืองริมทะเลสาบค่อยๆ ทรุดหายลงไปทีละต้น 2 ต้น
และแล้วความหวาดกลัวก็เกิดขึ้นอย่างคลุมเครือแต่รวดเร็ว จนองค์ชายจากเมืองต่างๆ พากันรื้อกระโจมและพลับพลาของตนแล้วจากไป แม้ว่าพวกเขาจะแทบไม่รู้ถึงสาเหตุที่ต้องหนี แต่สัญชาตญาณมันบอกว่านี่คือเหตุร้ายแน่นอน
จากนั้นฝูงชนแห่กันไปเบียดเสียดยัดเยียดกันที่หน้าประตูเมือง เพื่อพยายามแย่งกันหนี และเมื่อประตูเมืองเปิดออกให้ฝูงชนที่ ตื่นตระหนกหลั่งไหลออกไป เหล่าองค์ชาย และนักเดินทางที่มาเยือนเมืองซานาร์ธทั้งหมดก็ได้หนีไปด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวดกลัว ความวิปลาสอันเกิดจากความสยดสยองอันไม่อาจทนทาน และพวกเขาก็กล่าวถ้อยคําอันเลวร้ายเสียจนไม่มีใครที่ได้ยินจะหยุดฟังให้ชัด ผู้คนซึ่งดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ต่างกรีดร้องเสียงดังแหลมต่อสิ่งที่เห็นในห้องโถงจัดเลี้ยงขององค์ราชา และเหล่าบริวาร
ภาพประกอบจากในอินเตอร์เน็ต
ซึ่งบัดนี้องค์ราชา และเหล่าบริวารได้กลายสภาพเป็นสิ่งที่มีรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ และไม่เหมือนมนุษย์แม้แต่น้อย ผิวสีเขียว ดวงตาโปนโต ริมฝีปากย้อย ใบหูพิกลพิการ ไม่มีภาษาที่ใช้สื่อสาร และไม่ส่งเสียงร้อง ลักษณะคล้ายสัตว์เลื้อยคลาน และกำลังเต้นระบําอย่างน่าสยดสยอง เมื่อกำลังเต้นเพื่อบูชาบางสิ่งอยู่ องค์ชาย และเหล่านักเดินทางที่กําลังหนีไปจากซานาร์ธด้วยม้า อูฐ และช้างหันมาดูยัง ทะเลสาบอันเป็นที่มาของหมอกนั้นก็เห็นว่าเมืองค่อยๆ จมลงไปในทะเลสาบ!!!!
ภาพประกอบจากในอินเตอร์เน็ต
เรื่องราวน่าสยดสยองนี้ ได้แพร่กระจายไปทั่วดินแดนมนาร์ และดินแดนใกล้เคียง ไม่มีผู้ใดกล้ากลับไปที่เมืองต้องสาบนั้นอีก...............
 
เวลา ผ่านไปยาวนานมาก จนกระทั่งมีกลุ่มคนหนุ่มผมสีทอง ตาสีฟ้า กลุ่มนึง เดินทางมาที่เมืองต้องสาบตามคำร่ำลือ เพื่อจะได้เห็นนครซานาร์ธ แต่เมื่อมาถึงพวกเขาพบเพียงทะเลสาบกว้างใหญ่อันสงบนิ่ง กับเสาหินสลักซึ่งตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลสาบ พวกเขาก็ไม่เห็นสิ่งใดที่เคยเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และความภาคภูมิใจของมนุษย์ตามตำนานเลย บัดนี้มีเพียงฝั่งหนองนํ้าชื้นแฉะ ที่ซึ่งครั้งหนึ่ง เคยเป็นที่อาศัยของคนห้าสิบล้าน บัดนี้หายนะได้มาเยือนซานาร์ธแล้ว แต่อีกสิ่งที่พวกเขาพบก็คือรูปปั้นสีเขียวที่ถูกฝังไว้ครึ่งหนึ่ง จมอยุ่ในดิน รูปเคารพโบราณที่สลัก เป็นรูปของ "บอครุก" มหากิ้งก่าวารี และพวกเขาจึงได้นำเทวรูปนี้ กลับไปด้วย ไปวางไว้ประดิษฐานในมหาวิหารแห่งเมืองของพวกเขา ซึ่งทั่วทั้งดินแดนมนาร์จะทําการบูชาในยามเดือนเพ็ญต่อไป........................................................
ภาพประกอบจากในอินเตอร์เน็ต
ฟังแบบเสียงได้ที่ YouTube :
ดัดแปลงจาก The Doom That Came to Sarnath ของ H.P.lovecraft เล่าตามภาษาของ H.P.lovehee แทน
รวมเรื่องเล่ากาวๆ และเรื่องสยองขวัญสไตล์เลิฟคราฟ
ติดตามช่องทางอื่นๆ ได้ที่
Youtube : heecraft
FB : HeeHorror
TikTok : heecrafts
โฆษณา