29 มี.ค. 2021 เวลา 10:21 • กีฬา
เจเนอเรชั่นทองของทีมชาติสหรัฐอเมริกา
โดย Ploy Honisz
เชื่อกันว่ากีฬาฟุตบอลหรือที่อเมริกันชนเรียกว่า “ซ็อกเกอร์” เริ่มเป็นที่รู้จักในสหรัฐอเมริกาครั้งแรกในช่วง 1850 ที่นิวออร์ลีนส์ ผ่านทางบรรดาผู้อพยพที่มาจากสกอตแลนด์, ไอร์แลนด์, เยอรมนี และอิตาลี ทีมชาติลุงแซมเคยไปได้ไกลสุดด้วยการจบที่ 3 ในฟุตบอลโลกปี 1930 ที่อุรุกวัย ผู้เล่นระดับโลกมากมายเคยไปค้าแข้งที่อเมริกา ทั้งเปเล่, โยฮัน ครัฟฟ์, จอร์จ เบสต์ และ ฟรานซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ แต่สุดท้ายฟุตบอลก็ไม่เคยได้รับความนิยมเทียบเท่ากับอเมริกันฟุตบอล, บาสเกตบอล และเบสบอล จนกระทั่งการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกในปี 1994 ปลุกกระแสฟุตบอลบนแผ่นดินลุงแซมขึ้นมาอีกครั้ง
ฟุตบอลโลกครั้งที่ 15 ในปี 1994 ซึ่งสหรัฐอเมริกามีโอกาสเป็นเจ้าภาพครั้งแรก แม้ขณะนั้นความนิยมของฟุตบอลในแผ่นดินลุงแซมจะไม่มากมายนัก แต่กลับเป็นฟุตบอลโลกครั้งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ด้วยจำนวนคนชมเกมในสนามกว่า 3,587,538 คน เฉลี่ยแล้ว 68,991 คนต่อเกม มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา แถมทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่นำโดย อเล็กซี ลาลาส ก็ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่พ่ายให้กับบราซิลแบบหวุดหวิด 0-1 ประตู กลายเป็นประกายสำคัญที่ทำให้ฟุตบอลเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นอีกครั้งบนแผ่นดินลุงแซม และทำให้เกิดเมเจอร์ ลีก ซ็อกเกอร์ หรือ MLS ในปี 1996
ปี 2026 สหรัฐอเมริกากำลังจะได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกร่วมกับแคนาดา และเม็กซิโก ถ้าฟุตบอลโลก 1994 ทีมชาติลุงแซมเต็มไปด้วยผู้เล่นที่ทำงานหนักเพื่อทีม เพื่อชดเชยทักษะที่น้อยกว่าทีมอื่นๆ ฟุตบอลโลกที่พวกเขาจะเป็นเจ้าภาพในครั้งที่ 2 ทีมชาติสหรัฐอเมริกาก็เต็มไปด้วยผู้เล่นที่มากพรสวรรค์ และพร้อมแล้วที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงกับชาติอื่นๆ ในยุโรป และอเมริกาใต้
สิ่งที่นักฟุตบอลจากอเมริกาประสบปัญหามาตลอดคือ การพัฒนาศักยภาพของผู้เล่น ในปี 2004 เฟรดดี อาดู ในวัย 14 ปี กลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยสุดที่ได้เซ็นสัญญาเล่นฟุตบอลอาชีพในเมเจอร์ ลีก ซ็อกเกอร์ เป็นสัญญาณว่าฟุตบอลอเมริกากำลังเข้าสู่ยุคใหม่ แต่แล้วเด็กมหัศจรรย์ของวงการฟุตบอลสหรัฐกลับไปได้ไม่ไกลอย่างที่หวัง เขาติดทีมชาติชุดใหญ่แค่ 17 นัด และล่าสุดเล่นอยู่ในลีก 3 ของสวีเดน อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาเดียวกับที่ เฟรดดี อาดู เซ็นสัญญาเล่นฟุตบอลอาชีพเป็นครั้งแรก สมาคมฟุตบอลสหรัฐฯ ก็มองหาหนทางในการพัฒนาศักยภาพผู้เล่นในประเทศ และดำเนินการต่อเนื่องมาเรื่อยๆ แล้วในปีนี้ทุกอย่างก็ดูจะผลิดอกออกผล มีผู้เล่นสัญชาติอเมริกันในสโมสรต่างๆ ได้ลงเล่นในฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมากกว่าทุกๆ ครั้ง
3
ไล่เรียงจาก เซอร์จิโอ เดสต์ และ คอนราด เดอ ลา ฟูเอนเต ของบาร์เซโลนา, เวสตัน แม็คเคนนี ของยูเวนตุส, ไทเลอร์ อดัมส์ จากไลป์ซิก, คริสเตียน พูลิซิช จากเชลซี, จิโอวานนี เรย์นา ของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, คริส ริชาร์ด จากบาเยิร์น มิวนิก, แซค สเตฟเฟน ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อีธาน ฮอร์วาธ จากคลับ บรูจจ์ นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นจากลุงแซมค้าแข้งอยู่มากมายทั่วทั้งทวีปยุโรป และส่วนใหญ่อายุไม่เกิน 25 ปี หลายคนยังไม่อายุ 20 ปีด้วยซ้ำ นักฟุตบอลวัยรุ่นมากพรสวรรค์ หรือพอจะมีศักยภาพมากมายจากสหรัฐอเมริกาเริ่มถูกทีมใหญ่ๆ ในยุโรปดึงตัวไปเล่น หนึ่งในแมวมองบอกสำนักข่าวบีบีซีว่า ผู้เล่นจากทวีปอเมริกาเหนืออยู่ในสายตาของทีมจากยุโรปเสมอ ซึ่งตอนนี้พวกเขาสามารถพัฒนาผู้เล่นที่ทันสมัย สร้างนักกีฬาที่สามารถทนต่อความตึงเครียด และมีแรงขับที่ถูกต้อง พร้อมทั้งมีความมุ่งมั่น
สหรัฐอเมริกาเอาจริงเอาจังเรื่องการพัฒนาศักยภาพของนักฟุตบอล มีการตั้ง US Soccer’s Development Academy ขึ้นในปี 2007 และพวกเขารู้ว่าการพัฒนาผู้เล่นนั้นไม่ได้ทำกันในชั่วข้ามคืน แต่ต้องใช้เวลาและความอดทน มีการส่งผู้ฝึกสอนและนักฟุตบอลไปฝึกที่แคลร์ฟองแต็ง สถาบันฟุตบอลอันดับต้นๆ ของโลกที่ฝรั่งเศส มีการพัฒนาระบบแมวมองให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ และให้ความรู้กับแมวมองในการมองหาผู้เล่นที่มีพรสวรรค์
นอกจากนี้ทีมเมเจอร์ ลีก ซ็อกเกอร์ ก็เจริญเติบโตขึ้น ทีมลงทุนในการดึงผู้เล่นจากชาติอื่นๆ มาเสริมทัพ แม้ว่าจะเป็นช่วงปลายอาชีพค้าแข้ง ทั้ง เดวิด เบ็คแฮม ที่ตอนนี้เป็นเจ้าของทีมอินเตอร์ ไมอามี ใน MLS แล้วเรียบร้อย, ร็อบบี คีน, สตีเวน เจอร์ราด และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นต้น ก็ล้วนแล้วแต่มีส่วนในการพัฒนาศักยภาพของฟุตบอลลีกในสหรัฐอเมริกาให้เติบโตขึ้น
ลีกในยุโรปที่ดูจะดึงผู้เล่นจากอเมริกามาร่วมทีมมากที่สุดน่าจะเป็นบุนเดสลีกา ทั้ง อดัมส์ ริชาร์ด ของเสือใต้, จิโอ เรย์นา ของเสือเหลือง ยังมี จอช ซาร์เจนต์ กองหน้าของแวร์เดอร์ เบรเมน และ แมทธิว ฮอปป์ ของชาลเก้ นอกจากนี้บาเยิร์น มิวนิกยังจับมือเป็นพันธมิตรกับเอฟซี ดัลลัส ทำให้มีการส่งนักฟุตบอลมาซ้อมกับทีมแชมป์ยุโรป หรือสายสัมพันธ์ระหว่างไลป์ซิกกับนิวยอร์ก เรดบูลล์ทำให้มีการส่งผู้เล่นกันไปมา
ไม่เฉพาะในบุนเดสลีกาที่เริ่มเห็นในศักยภาพผู้เล่นจากอเมริกาเหนือ แอตเลติโก มาดริด ไปสร้างทีมแอตเลติโก ออตตาวา ที่แคนาดา ขณะที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับนิวยอร์ก ซิตี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งในเครือของซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป ส่วนกลาสโกว์ เรนเจอร์ส ก็มีสัมพันธ์กับออเรนจ์ เคาน์ตี ทีมในลีกรองของสหรัฐอเมริกา
ตอนที่สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 1994 พวกเขาไม่มีลีกอาชีพที่แข็งแกร่งในประเทศ ไม่มีผู้เล่นที่ไปค้าแข้งในลีกใหญ่ๆ ของยุโรปมากมายนัก แต่ในฟุตบอลโลก 2026 ที่พวกเขาจะเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง ทีมชาติสหรัฐอเมริกาโฉมใหม่กำลังจะทำให้โลกฟุตบอลหันมาจับตา ด้วยนักเตะอายุน้อยมากพรสวรรค์ และมีประสบการณ์มากมายในการเล่นฟุตบอลอาชีพ อย่าแปลกใจถ้าหากทีมชาติยูเอสเอจะไปได้ไกลกว่าเดิม
#USA #USMNT #อเมริกา #MLS #ข่าวบอล #ผลฟุตบอล #ผลบอล #ฟุตบอล #Football #Soccer #PlayNowThailand #KhelNowThailand
โฆษณา