31 มี.ค. 2021 เวลา 13:30 • ครอบครัว & เด็ก
เรื่องกุ้ง กุ้ง​ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ..
บางทีการบอกความจริงในทันทีอาจทำให้เด็ก ๆ หมดสนุกกับการคิดคำตอบด้วยตัวเอง การรู้จักสังเกตความเปลี่ยนแปลง การมองเห็นผลที่ตามมา การเรียนรู้ธรรมชาติ
และสำคัญยิ่งกว่า.. ​ คือหมดสนุกกับการเกาะและผูกเรื่องไปตามจินตนาการและความคิดของตัวเอง
ตู้ปลาที่พ่อเพิ่งซื้อมาวางไว้ในครัว มีสมาชิกในตู้คือ ปลาจิ๋วลายจุด 3 ตัว และกุ้งจิ๋วตัวแดง 2 ตัว
..
วันนี้ช่วงเที่ยงที่พ่อกลับมากินข้าวที่บ้าน แวะเดินชมตู้ปลาตามปกติของคนเห่อของใหม่..
ระหว่างแม่จัดโต๊ะจัดจานพร้อมทาน พ่อเดินมาทำเสียงเบา ๆ ถามว่า "เมื่อเช้าแม่เห็นกุ้งกี่ตัว" แม่งงกับคำถามเล็กน้อย เดินตรงไปตู้ปลา จ้องหากุ้ง แล้วนับ .. ได้ 1 ตัว
แอบคุยกันด้วยเสียงเบากว่าเดิมว่า สงสัยกุ้งจะลาเราไป 1 ตัวแล้ว เพราะที่เห็น จะมีเจ้าจิ๋วสีแดง 1 ตัวส่วนอีกตัว เหมือนจะเหลือแค่ "วิญญาณ" เห็นมีซากกุ้งบางใส ทำตัวนิ่ง ๆ อยู่ที่พื้นหินสีดำ ใกล้กอต้นไม้น้ำ ถ้าไม่สังเกตดี ๆ คงไม่เห็น
พ่อไม่แน่ใจว่ามันลอกคราบหรือว่าตายกันแน่ แต่เท่าที่ลองพยายามหาดู ยังไงก็ไม่เจอเจ้าจิ๋วแดงอีกตัวแน่แล้ว​ .. เราจึงลงความเห็นกันว่ากุ้งคงตาย และซากสีขาวนั่นคือศพของมัน
ปุญเดินวนเวียนหาอะไรเล่นอยู่แถวนั้น เห็นอาการพ่อกับแม่แล้วเริ่มสนใจ คอยถามว่า
" อะไรคะ ๆ ๆ"
พ่อบอกว่าให้ลูกดูที่ตู้ปลาซิ เห็นกุ้งอีกตัวที่นอนขาวอยู่นั้นมั้ย​ ..
ปุญ : กุ้งมันเป็นอะไรคะพ่อ
พ่อ : อืม​ .. พ่อก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ทำไมมันถึงนอนนิ่ง ตัวขาวแบบนั้นก็ไม่รู้
ปุญ : .. (มีคำถามอีกสองสามคำเกี่ยวกับเจ้ากุ้งขาวตัวนั้น)
พ่อกับแม่ : .. (ไม่ได้บอกอะไร พูดเพียงว่า "ไม่รู้ว่าทำไมมันตัวสีขาว นอนนิ่ง ๆ" , "ลูกคอยดูไว้นะ เผื่อเค้าเป็นอะไรจะได้ช่วยทัน)
..
พอพ่อทานข้าวเสร็จ กลับไปทำงานต่อ ปุญก็เฝ้าดูเจ้ากุ้งใสไม่ไปไหนไกลจากตู้ แถมยังคอยรายงานให้แม่ฟังเป็นระยะ ๆ ว่า​ ..
1
ปุญ : มันไม่สบายแน่เลยนะแม่ มันนิ่งมาก ไม่กินอาหารด้วย
แม่ : แล้วเราจะทำไงกันดีละเนี่ย
ปุญ : พาไปหาหมอดีมั้ย​
แม่ : ก็ดีเหมือนกัน แต่หมอที่ไหนล่ะ
ปุญ : หมอที่ธีโอดอร์ไปหาก็ได้ .. (วันก่อนธีโอดอร์เพิ่งไปหาหมอมา ด้วยอาการหัวแตก)
แม่ : เค้ารักษากุ้งได้ด้วยเหรอ
ปุญ : ได้ซี​ .. เค้าเป็นนักวิทยาศาสตร์ จะเก่งมาก ทำได้ทุกอย่าง
แม่ : .. (เริ่มงงกับเหตุ​ผลปุญ แต่ก็ชินซะแล้ว​ เพราะ​ช่วงจินตนาการล้ำ​ ๆ​ มักจะมีอะไรแปลก​ ๆ​ แบบนี้​.. แล้วพูดต่อว่า) .. แต่แม่ว่าเราต้องพาไปหาสัตวแพทย์นะ
ปุญ : (ทำหน้านิ่ง .. และนิ่ง ไม่หลุดคำอะไรออกมา)
แม่ : (พอเดาออก) .. อ๋อออ สัตวแพทย์ก็เป็นหมอ ที่รักษาสัตว์ได้ไง รักษาแมว หมา ปลา นก ไก่ อะไรพวกนี้น่ะ
ปุญ : .. ภาษาเยอรมันเหรอแม่​ ..
2
แม่ : (😆😆😆😆😆) .. ภาษาไทยนี่แหละ สัตวแพทย์ รักษาสัตว์ แพทย์ หรือหมอ รักษาคน
ปุญและแม่ : 😁😁
หรือในอีกชุดของการสนทนาระหว่าเราที่เป็นการแนะนำวิธีจัดการกับมัน เช่น​ ..
ปุญ : ขามันไม่กระดิกเลยนะแม่
แม่ : เหรอ​ ..
ปุญ : เราคงต้องพามันไปหาหมอแล้วนะแม่
แม่ : เหรอ​ .​. แล้วต้องเรียกรถพยาบาลมั้ย (จากกรณีของธีโอดอร์ หัวแตกขนาดต้องเรียกรถพยาบาลมารับที่บ้าน)
1
ปุญ : ไม่ต้องก็ได้ นั่งแท็กซี่ไปก็ได้ (จากกรณีของปุญ​ เป็นไข้นั่งแท็กซี่ไปหาหมอกันเอง)
1
แม่ : แล้วเราจะเอามันไปยังไงดีล่ะ
ปุญ : นั่นซิ​ .. เราไม่มีกรง (จากกรณี คาโร่​ .. แมวของเพื่อนบ้าน เวลาไปหาหมอต้องมีกรงใส่)
1
แม่ : อืม​ จริง .. งั้นลูกลองไปหาดูซิว่ามีอะไรพอจะใส่มันแล้วพาไปหาหมอได้มั้ย
ปุญ : (เดินไปเปิดตู้ หาได้กล่องใส่อาหารขนาดกลาง ๆ มาหนึ่งใบ แล้วว่า ) .. เอาอันนี้ก็ได้
เราจึงตกลงกันว่าเตรียมกล่องไว้ให้พร้อม และรอดูอาการอีกพัก ถ้ายังไม่ดีขึ้นจะพาเจ้ากุ้งใส (หรืออีกนัยคือ วิญญาณกุ้ง) ไปหาหมอ (แต่ยังสรุปไม่ได้ว่าจะพาไปหาหมอสัตว์ หมอคน หรือหมอผีดี)
2
..
ดังนั้นช่วงบ่ายวันนี้ของเราจึงผ่านไปแบบมีประเด็นของเจ้ากุ้งใสเป็นหัวข้อหลักและหัวข้อแทรกระหว่างกิจกรรมอื่น ๆ ตลอดบ่าย
รวมถึงไม่ว่าปุญจะทำอะไร นาน ๆ ช้า ๆ ก็จะวิ่งเข้ามาจ้องเจ้ากุ้งใสตัวที่ว่า และชี้ชวนกึ่งบังคับให้แม่ร่วมสังเกตอาการมันด้วย
..
พอตกเย็นเราออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ..
กลับมาถึง แม่แวะมาดูที่ตู้ก่อนเป็นอันดับแรก อยากรู้ว่า "วิญญาณ" จะกลายร่างเป็นอย่างอื่นอีกเปล่า
สิ่งที่เห็นคือ มันยังคงใสสนิท นอนนิ่งแน่วแน่อยู่ตรงที่เดิม เพียงแต่ ..
แม่ : ปุญ .. มาดูอะไรนี่ซิลูก (น้ำเสียงตื่นเต้นมาก)
ปุญ: (แจ้นมาด้วยความเร็วสูง​ พร้อมหน้าตาตื่นพอ ๆ กับน้ำเสียงแม่ ยื่นหน้าพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องน้ำในตู้ปลา) ..
แม่ : (พูดเสียงเบา ๆ ว่า ) ลูกเห็นอะไรมั้ย ..
ข้าง ๆ ต้นไม้น่ะ
ปุญ: (จ้องนิ่ง ๆ บริเวณที่แม่บอกอยู่หนึ่งอึดใจ.. แล้วทำหน้า กึ่งยิ้มกึ่งดีใจและกึ่งแปลกใจ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงกึ่ง ๆ ในแบบเดียวกันว่า) .. มันออกลูกมานี่หน่าแม่ !!!!!
แม่ : 😣😣 สองวินาที และ 😁😁 ในที่สุด
ปุญ : (ยังมีประโยคแสดงความตื่นเต้นดีใจ รวมถึงแสดงความคิดตามประสบการณ์ และจินตนาการแบบ 3 ขวบออกมาให้แม่ได้ยิ้มอย่างต่อเนื่อง)
คิดว่าคงต้องย้อนไปอธิบายเพิ่มเพื่อความกระจ่างของภาพในความคิดของแม่กับปุญให้ฟัง ดังนี้ ..
..
เมื่อเรากลับบ้าน แม่มองหากุ้งและพบว่า เจ้ากุ้งใสยังนอนนิ่งอยู่ในท่าเดิม แต่พบว่ามีกุ้งจิ๋วสีแดงที่เราตามหาไม่เจอเมื่อเช้ากลับมาอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นแล้ว
ดังนั้นในตู้เราตอนนั้นจึงมีกุ้งจิ๋วแดงนับได้ 2 ตัว ตามปกติ บวกกับเจ้ากุ้งใสนอนนิ่งอีก 1 ซาก (หรือตัว ตามความคิดปุญ)
..
ความคิดผู้ใหญ่ถอดรหัสภาพที่เห็นและให้คำตอบที่ชัดเจนได้ว่า ..
"อ๋อ เจ้ากุ้งใสนั่นไม่ใช่วิญญาณกุ้งอย่างที่เราคิดหรอก มันเป็นคราบของเจ้ากุ้งแดงที่เพิ่งลอกออกมาต่างหาก"
แต่ความคิดเด็ก 3 ขวบอย่างปุญกลับถอดรหัสภาพที่เห็นได้ว่า ..
"ห๋าาาาา .... เจ้ากุ้งใสตัวนี้คือลูกของเจ้ากุ้งแดง ตอนนี้เรามีกุ้งสามตัวแล้ว มันตัวใสเพราะเพิ่งคลอดออกมา ยังเป็นเด็กเล็ก ๆ อยู่ ไม่ใช่กุ้งแดงที่ไม่สบายซะหน่อย เจ้ากุ้งแดงสองตัวนั้นคือพ่อกับแม่ของเจ้ากุ้งใส .. ดีใจจัง ดีใจจัง ดีใจจัง"
2
..
หลังจากนั้นปุญก็มีอาการตื่นเต้นดีใจกับสมาชิกใหม่ของครอบครัวกุ้งครอบครัวนี้เป็นอย่างยิ่ง
จากเมื่อเช้าที่สนใจจ้องตู้ปลา เฝ้าสังเกตอาการป่วยของกุ้งใสด้วยความวิตกนิด ๆ กลายเป็นจ้องมากกว่าเดิม แต่ด้วยอารมณ์เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและเอ็นดูเจ้า(คราบ)กุ้งน้อยตัวนั้นด้วยหัวใจเบิกบานพร้อมต้อนรับสมาชิกใหม่ของตู้ปลาเรา
รวมถึงเฝ้าพิจารณาเจ้ากุ้งพ่อกุ้งแม่ ถึงพฤติกรรมการดูแลเอาใจใส่ลูกน้อยของมันอย่างไม่วางตาและรายงานแม่เป็นระยะ ๆ ที่ถี่พอควร ... ปวดหูมาก
..
ถึงแม้ช่วงค่ำก่อนเข้านอน ปุญจะสังเกตได้ว่า เจ้ากุ้งใสดูจะเป็นเด็กไม่ค่อยแข็งแรง เพราะมันไม่ขยับ ปีนป่ายต้นไม้น้ำหรือหาอาหาร และมันดูจะไม่มีตา ไม่มีขา ครบสมบูรณ์ตามแบบพ่อแม่ของมัน ..
ปุญเข้านอนหลังอาหารเย็นตามเวลาปกติ..
และจบวันหนึ่งของเรากับเรื่องกุ้ง กุ้งไปแบบไม่จำเป็นต้องไขปริศนาใด ๆ ..
ปล่อยให้เวลาและสิ่งรอบตัวสอนเรื่องของความจริงเชิงวิทยาศาตร์เรื่องนี้กับลูกเองเมื่อวัยที่เหมาะสมมาถึง และเมื่อวันที่ลูกต้องการรู้ ..
ซึ่งเป็นความจริงที่ทุกคนรู้ และรู้เหมือน ๆ กัน
..
1
แต่สิ่งที่แม่คิดว่าปุญหรือเด็กทุกคนน่าจะได้รับในวัยช่างฝันนี้คือการต่อภาพที่ยังสร้างไม่เสร็จด้วยตัวเองไปก่อน ..
1
ไม่จำเป็นต้องจริง และเหมือนกัน หรือเหมือนใคร
เพราะเชื่อว่าวัยนี้การได้ฝึกสร้างภาพในหัวด้วยหัวใจรัก และละเอียดอ่อน ย่อมดีกว่าการถูกบอก เล่า สอนภาพความจริง​ บวกความคิดเห็นทั้งด้านบวกและลบ​ จากผู้ใหญ่ที่ถูกสร้างเสร็จมาแล้ว
2
และพร้อมจะตัดสินภาพเหล่านั้นด้วยคำไม่กี่คำว่า ดี-ไม่ดี, ถูก- ผิด, จริง-ไม่จริง..
เพียงอยากถนอมวัยเด็กที่บริสุทธิ์สวยงาม เต็มไปด้วยความสุข ความฝัน และจินตนาการนี้ไว้ให้อยู่กับลูกไปให้นานที่สุด ... จึงไม่บอกความจริงเรื่องกุ้ง กุ้งในวันนี้
รักปุญที่สุดในโลก
แม่
บันทึก​เมื่อมีนาคม 2012 ปุญ 3 ขวบเกือบครึ่ง
โฆษณา