1 เม.ย. 2021 เวลา 01:08 • ประวัติศาสตร์
"ไม่อยากให้คนเป็นทาส คนก็ยังอยากจะเป็นทาสอยู่"
พระราชดำรัสรัชกาลที่ 5 เหตุใดจึงกล่าวเช่นนั้น
และทำไมจึงมีคำกล่าวว่า "เกิดปีมะโรง เลิกทาส"
2
ทาสนั้นมีมานานแล้ว ที่ไทยเรามีทาส 7 ประเภท
1.ทาสสินไถ่ คือ เด็ก ๆ หรือลูกเมียผู้เล่นพนันแล้วไม่มีเงินใช้ (ข้อนี้มีจำนวนมากที่สุด และเป็นที่เศร้าสลดแก่ร.5มาก)
2.ทาสในเรือนเบี้ย คือลูกของทาสก็ต้องเป็นทาสด้วย
(เรารู้จักกันดีจากละคร)
3.ทาสได้รับมาจากมรดก เมื่อนายทาสตาย ทาสก็เป็นมรดกแก่นายทาสใหม่
4.ทาสท่านให้ ทาสที่เจ้าของได้รับมาเป็นของขวัญ
5.ทาสทัณฑ์โทษ คือผู้ที่ถูกปรับแล้วไม่มีเงินค่าปรับก็ต้องยอมเป็นทาส
6.ทาสผู้ได้รับอุปการะให้พ้นจากความอดอยาก
7.ทาสเชลย ได้รับมาจากศึกสงคราม
1
รัชกาลที่ 5 ทรงประกาศในพิธีบรมราชาภิเษกว่า
ต่อไปภายหน้า คนที่เกิดในรัชกาลของพระองค์จะเป็นไท คือเกิดปีมะโรง พ.ศ.2411 มักพูดกันติดปากว่า "เกิดปีมะโรง เลิกทาส"
2
เหตุที่เป็นปีมะโรง เพราะรัชกาลที่ 5 ท่านครองราชย์ เมื่อ 1 ต.ค. 2411 (ปีมะโรง)
3
การเลิกทาสนั้นเป็นเรื่องยาก
และยิ่งยากขึ้นอีกเมื่อจะทำอย่างไม่ให้เกิดเหตุร้าย
8
เมื่อท่านแจ้งแก่ขุนนางทั้งหลาย ส่วนมากไม่เห็นด้วย ที่แปลกคือเมื่อข่าวนี้แพร่ไปถึงพวกทาส
พวกทาสเองก็ไม่พอใจ อยากจะเป็นทาสอยู่ต่อไป
3
ทั้งนี้เพราะฐานะของทาสไม่ร้ายกาจเท่าผู้ไม่เป็นทาส
ทาสอาจคิดว่าการเป็นทาสอยู่ทำให้มีอาหารกิน
มีที่นอน ไม่ต้องเสียภาษี ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
งานก็ทำแค่ตอนนายเรียก ไม่เรียกก็ว่าง หากไม่พอใจ ทาสสามารถอ้อนวอนให้ผู้ใจดีซื้อไปเป็นทาสได้
5
พระประสงค์ในการเลิกทาสของร.5 จึงขัดต่อทุกฝ่าย
แต่การดำเนินการให้มีการเลิกทาสจะหยุดไม่ได้
2
เบื้องต้นทรงตรวจกฎหมายว่าด้วยทาสเวลานั้นอย่างละเอียด ทรงพบข้อสำคัญว่าราคาของทาสนั้นสูงต่ำตามอายุ
1
เด็กชายอายุ 1-3เดือนราคา 6 บาท
เด็กหญิง 4 บาท อายุมากขึ้นราคาก็สูงขึ้น
จนถึงระดับสูงสุดคือ ชายอายุ 26-40 ปี หญิง 21-30ปี
จากนั้นราคาของทาสจะเริ่มตกลง จนทาสชายอายุ 71 ปี ราคาเหลือเพียง 4 บาท ทาสหญิงเหลือ 3 บาท
3
เพื่อให้ทาสซื้อความเป็นไท หรือให้ผู้อื่นช่วยซื้อให้ในราคาถูก แผนการของรัชกาลที่ 5 คือ
2
เปลี่ยนให้ราคาทาสสูงสุดเมื่ออายุ 7-8 ขวบ จากนั้นให้ราคาตกลงอย่างรวดเร็ว จนเมื่อทาสอายุ 18-21 ปี
กฎหมายให้ทาสมีราคา 3 บาทเท่านั้น
1
ส่วนลูกของทาสคือทาสในเรือนเบี้ย โปรดให้พ้นการเป็นทาสโดยไม่ต้องมีการขายหรือไถ่เมื่ออายุ 21
และเมื่อพ้นอายุ 21ไปแล้ว ห้ามซื้อขายอีก
รัชกาลที่ 5โปรดตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อร่างกฎหมายเลิกทาส โดยไม่ให้มีเจ้านายในราชวงศ์เข้าร่วมด้วย กรรมการทุกคนเป็นขุนนางชั้นพระยา
3
รัชกาลที่ 5 ซึ่งตอนนั้นอายุยังไม่ถึง 21 เป็นประธานในการประชุม มีพระราชดำรัสว่า
"ไม่อยากให้คนเป็นทาส คนก็ยังอยากจะเป็นทาสอยู่
เพราะเหตุที่เป็นทาส ไม่ต้องเสียค่าราชการมากนัก แล้วไม่ต้องทำมาหากินสิ่งไร อาศัยกินข้าวของนายไปมื้อ ๆ หนึ่ง เมื่อมีการมาก็ทำ ก็เมื่อไม่มีการก็นอนอยู่เปล่า ๆ "
3
ท่านได้อธิบายไว้ว่า การเลิกทาสจะทำให้สำเร็จด้วยดีไม่ได้ ถ้าเมื่อทาสเป็นไทแล้วไม่ได้ประโยชน์จากการเป็นไท และเสรีภาพจะมีได้เมื่อมีงานให้ทุกคนทำ
1
ท่านทราบดีว่าการเลิกทาสจะทำด้วยตัวท่านเองไปตลอดรอดฝั่งไม่ได้ หากมีผู้ใดคิดเห็นว่ามีสิ่งใดยังขัดข้องไม่ว่าจะตอนนี้หรือภายภาคหน้า ขอให้บอกมา จะได้ปรึกษาแก้ไขต่อไป เมื่อทุกคนเห็นพ้องต้องกัน เป็นอันตกลงร่างกฎหมายซึ่งออกประกาศวันที่ 18 ตุลาคมพ.ศ.2417
จากคำที่ว่า "เกิดปีมะโรง เลิกทาส"
ในปี 2432 ลูกทาสที่เกิดในปี 2411 มีอายุครบ 21 ปี
ถือเป็นลูกทาสกลุ่มแรกที่ได้เป็นไท
2
...
เพื่อให้ทาสที่เป็นไทหางานทำได้ ท่านได้ดัดแปลงโรงทานบางแห่งให้เป็นโรงเรียน สำหรับทาสหนุ่มและเด็ก ให้เข้าได้ด้วยใจสมัคร แต่ทาสนั้นเกียจคร้านจึงไม่เข้าโรงเรียน จนเมื่อทาสสัญญาจะเข้าโรงเรียน
ร.5 จึงใช้เงินส่วนตัวซื้อทาสแล้วปล่อย
3
นับแต่กฎหมายฉบับนั้นประกาศออกมา และมีประกาศเพิ่มอีก จำนวนทาสค่อย ๆ ลดลงตามลำดับ
จนหมดสิ้นใน พ.ศ.2448 เป็นอันสำเร็จการเลิกทาสอย่างสมบูรณ์
1
เมื่อทาสหมดสิ้นแล้ว รัชกาลที่ 5 ท่านได้ออกพระราชบัญญัติเลิกทาสที่แท้จริงขึ้น เรียกว่า พระราชบัญญัติทาส ร.ศ.124 (พ.ศ. 2448)
การเลิกทาส เป็นการกระทำของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ชาวต่างประเทศให้ความสนใจอย่างยิ่ง นักเขียนอังกฤษ ฮอลล์แถลงว่า
"ไม่ร้ายแรงดุดันเท่าทาสผิวดำในอเมริกา"
1
1 เมษายน วันเลิกทาส
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณค่ะ
3
อ้างอิงจากหนังสือเจ้าชีวิต
เขียนโดยพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์
บทความนี้ใช้ภาษาเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย ไม่มีเจตนาลบหลู่ และหากมีข้อผิดพลาดประการใด กรุณาชี้แจงอย่างสุภาพค่ะ
เป้ย 1 Apr 21
โฆษณา