1 เม.ย. 2021 เวลา 02:46 • สุขภาพ
สวัสดีค่ะทุกคน สวัสดีเดือนเมษายนนะคะ เผลอแป๊บ ๆ เมษายนอีกแล้ว แล้วอีกสักพักก็กลางปี สิ้นปี แล้วก็หมดไปอีกหนึ่งปีแบบยังไม่ทันทำอะไรซักกะอย่าง -- วันนี้อยากจะมาอัพเดตเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดในฟิลิปปินส์สักนิดค่ะ
ภาพจากกูเกิ้ลนะคะ เพิ่งเสิร์ชเมื่อสักครู่นี้ 55555 ค้นหาคำว่า "Covid cases Philippines" ค่ะ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 16 มีนาคมปีที่แล้ว เป็นวันแรกที่ฟิลิปปินส์ล็อคดาวค่ะ เป็นการล็อคดาวที่แบบว่าปิดทุกอย่าง ปิดห้าง ร้านอาหารก็ปิดเกือบหมด โรงพยาบาลปิด (รับแต่เคสฉุกเฉินเท่านั้น และให้หมออยู่ประจำแค่วันละ 1 คน)
พอครบรอบ 1 ปี อยู่ ๆ เคสก็พุ่งขึ้นมาเฉยเลยค่ะ แล้วมันไม่ได้พุ่งแบบธรรมดา มันพุ่งแบบยอดติดเชื้อวันละห้าหกพันคน รัฐบาลเลยตัดสินใจว่าจะล็อคดาวอีกครั้งเพื่อที่จะลดยอดผู้ติดเชื้อในแต่ละวัน พอล็อคดาวน์ปุ๊บ วันแรกประเดิมด้วยยอดผู้ติดเชื้อ 9000+ คนเลยจ้า เริ่ดมากจริงๆ หลังจากนั้นก็ยอดประมาณนี้อยู่ 2-3 วัน จนมีอยู่วันนึงพุ่งขึ้นไปถึง 10000+ คน รัฐบาลเลยมีทีท่าว่าจะยืดการล็อคดาวน์ต่อไปอีก (ปีที่แล้วนางก็ยืดทีละอาทิตย์ สองอาทิตย์ แล้วแต่อารมณ์ของนาง)
ในส่วนของประเทศ ก็ยังปิดอยู่นะคะ สามารถเข้าได้แค่คนฟิลิปปินส์ที่จะกลับบ้าน หรือพวกที่มีวีซ่าพิเศษต่าง ๆ แต่คนต่างชาติ นักท่องเที่ยว หรือแม้แต่ต่างชาติที่มีวีซ่าทำงานในฟิลิปปินส์ก็ยังกลับเข้ามาไม่ได้ค่ะ (ตอนแรกมีช่วงนึงให้กลับได้แล้วนะ แล้วก็ปิดอีกทีเพราะยอดพุ่งนี้แหละ)
เมื่อวานเป็นวันแรกที่ยอดลดลงมาขนาดนี้ (นี่คือลดแล้วจากเก้าพัน) ดีใจกันใหญ่
สำหรับล็อคดาวน์ในครั้งนี้ก็อาจจะไม่ถึงขนาดห้างปิดเหมือนคราวก่อน แต่หลาย ๆ ธุรกิจ (ที่เป็น non-essential ก็ต้องปิดอีกครั้ง) เช่น สปา ร้านตัดผม ฯลฯ แต่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารยังเปิดเหมือนเดิม แต่นั่งกินที่ร้านไม่ได้ ต้องสั่งกลับบ้านอย่างเดียว
คราวนี้เห็นว่าพอรัฐบาลประกาศล็อคดาวน์ ผู้คนก็เริ่ม panic buy กันอีกครั้ง แต่สำหรับเราครั้งนี้คือไม่แพนิคแล้วอ่ะ เฉย ๆ มาก เพราะคราวที่แล้วข้าวของมันก็ไม่ได้ขาดตลาดนะ ถ้าจะขาดก็เพราะพวกแพนิคบายนี่แหละ ครั้งนี้เลยเฉย ๆ ไม่ได้ตุนอะไรเป็นพิเศษ ซื้อแต่ของกินซึ่งปกติจะซื้อไว้สำหรับหนึ่งอาทิตย์เท่านั้น
เรื่องล็อคดาวน์นี่ไม่เท่าไหร่นะ แต่ความน่ารำคาญของการจัดการโควิดในฟิลิปปินส์คือ มันจะออกมาตรการที่ฟังดูบ้ง ๆ ยกตัวอย่างเช่น บังคับให้ทุกคนใส่เฟสชีลด์ตอนออกจากบ้าน คือทุกประเทศทั้งโลกมันไม่มีใครบังคับอ่ะ มีประเทศนี้ประเทศเดียวบังคับให้ใส่ ซึ่งมันหายใจยากมาก และมันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นนึกออกป่ะ แต่มันก็บังคับมาเป็นปีแล้ว
หนักขึ้น พอยอดพุ่งขึ้น แทนที่นางจะคิดได้ว่าเออ การบังคับให้คนใส่เฟสชีลด์มันไม่ได้ช่วยให้ยอดน้อยลงนี่หว่า นางกลับบังคับให้ใส่ตลอดเวลาไปอีก!! คือตอนแรกใ้ห้ใส่ในอาคารสถานที่ ตอนนี้ก็คือให้ใส่เดินถนน หนักกว่านั้น ให้ใส่ขี่จักรยานด้วย!!! คนก็ออกมาโวยวายกัน ว่ารู้มั้ย ว่าการให้คนขี่จักรยานใส่นี่มันเป็นอันตรายมากๆ ทัศนวิสัยก็ไม่ดีอีก จนบางเมืองถึงกับต้องมาออกกฎเอง ว่าเมืองนั้นไม่ต้องใส่เฟสชีลด์ขี่จักรยาน เพราะมันอันตราย!
วัคซีนแพลน
จะบอกว่า ประเทศฟิลิปปินส์เนี่ย เป็นประเทศสุดท้ายใน SEA นะที่วัคซีนมาถึง (ประเทศไทยมาถึงก่อนแป๊บนึง) และวัคซีนที่ได้ก็เหมือนไทยค่ะ คือ Sinovac กับ AZ
ซิโนแวค รัฐบาลจีนนางบริจาคมาให้ ไม่รู้ว่ามีส่วนที่ซื้อมาด้วยหรือเปล่านะ
จริง ๆ ตอนแรกจะมีไฟเซอร์ด้วยนะคะ แต่เพราะอะไรรู้ป่ะ เพราะรมต. ของกระทรวงสาธารณสุขนางที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ไม่ได้ส่งเอกสาร หรือทำเอกสารอะไรสักอย่างให้เรียบร้อย ทำให้ดีลวัคซีนกับไฟเซอร์ไม่สำเร็จ (คนฟิลิปปินส์ด่าหนักมากกกกกก) คือมันเป็นความผิดพลาดที่แบบ อิหยังวะอ่ะ 555555555
ตอนนี้ก็คือเริ่มฉีดให้กับหมอ พยาบาลแล้ว จริง ๆ ตอนแรกคือฉีดให้ทหาร ตำรวจ พวกนี้ก่อนด้วยนะ คนก็ออกมาด่ากันว่าทหารตำรวจมันจะไปมีความสำคัญกว่าแพทย์ พยาบาลในตอนนี้ได้ยังไงวะ (อย่างท่ีรู้กัน คือรัฐบาลดูเตอเต้โอ๋ตำรวจทหารแบบสุดๆ ไว้จะมาเล่าให้ฟังคราวหน้า)
ท่าที่ของคนฟิลิปปินส์ต่อการบริหารและจัดการโรคระบาดภายใต้รัฐบาลดูเตอเต้เป็นอย่างไร?
บอกได้เลยว่า คนฟิลิปปินส์ด่ายับค่าา ยับเหมือนที่บ้านเราด่าประยุทธทุกวันนี้แหละ ดูเตอเต้ก็โดนทุกวัน ทั้งออกมาเรียกร้อง ตั้งแฮชแท็คให้ดูเตอเต้ลาออก เพราะมองจากดาวอังคารก็รู้ว่าฟิลิปปินส์จัดการ pandemic ได้พังมาก เราเป็นประเทศที่ยอดผู้ติดเชื้อเยอะสุดใน SEA เราควรดีใจไหมที่เราเป็นที่หนึ่งในอาเซียน ชนะอินโดนีเซียไปอีกกกกก (เย้ๆๆ)
ในส่วนของเศรฐกิจก็พังแบบวินาศสันตะโร คนตกงานตอนนี้สี่ล้านกว่าคนเลยนะคะ ประเทศฟิลิปปินส์จากที่จนมากอยู่แล้ว คนจนก็ยิ่งเยอะไปอีก น่าสงสารมากจริง ๆ
นอกจากการบริหารงานของดูเตอเต้จะไม่เป็นที่พอใจนักในสายตาคนประชาชนชาวฟิลิปปินส์แล้ว ในเรื่องของ pandemic นี้ยังมีอีกคนที่มีบทบาท ทำหน้าที่แบบเดียวกับอนุทิน คือคนที่ชื่อ Duque ค่ะ นางคนนี้แหละค่ะ (ผู้ชายนะ แต่เรียกนางเพื่ออรรถรส) ที่ไม่ได้ทำเอกสารอะไรกับไฟเซอร์ให้เรียบร้อย ทำให้ดีลไฟเซอร์ตกไป
และคุณ Duque คนนี้อีกเช่นกัน ที่ไม่นานมานี้ตอนฟิลิปปินส์ยอดพุ่งไปหลายพันคนต่อวัน สิ่งที่คุณเค้าทำคือการลงพื้นที่แล้วไปเดินแจกเฟสชีลด์!!! ตูจะบ้าตาย แจกเฟสชีลด์ไป ก็ตะโกนบอกให้คนรักษา social distancing นอกจากนั้นแล้ว นางยังบอกด้วยว่า แนะนำให้ทุกคนใส่มาส์กในบ้าน ถ้าบ้านอยู่กันหลายคน !!! นี่ฟังแล้วแบบ...​โอ้ยตัยแล้ววววว พ่อคุณ
และแน่นอนค่ะ นอกจากชาวฟิลิปปินส์จะเรียกร้องให้ดูเตอเต้ลาออกแล้ว ทุกคนก็เรียกร้องให้ Duque ลาออกเช่นกัน เนื่องจากสอบตกมาก ๆ ในการบริหารจัดการวิกฤตภายใต้ pandemic นี้ -- แต่ก็ยังไม่มีใครออกนะ ยังอยู่ครบทุกคน 5555555
สุดท้ายนี้ อยากจะรีวิวชีวิต จากการที่เราใช้ชีวิตในฟิลิปปินส์มาตลอดตั้งแต่ pandemic เริ่ม จนถึงทุกวันนี้ (ยังกลับบ้านไม่ได้)
เราอยู่บ้านประมาณ 95% ทำงานที่บ้านมาครบ 1 ปีแล้ว ออกจากบ้านแต่เมื่อต้องไปซื้อของกินที่ซุปเปอร์ และพาลูกไปหาหมอเท่านั้น นอกจากนั้น ไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้เจอใครนอกจากคนในบ้าน ไม่มีการแฮงค์เอาท์ ไม่มีปาร์ตี้ มีการกินข้าวนอกบ้านบ้างบางครั้ง (ไปกันแค่สองคน ไม่ได้ไปทั้งครอบครัว)
ลูกชายเรา (ตอนนี้ 11 เดือน) ก็ไม่ได้ออกไปไหน อยู่บ้านตลอดเวลา ออกไปแค่ตอนไปโรงพยาบาล เสร็จแล้วก็รีบตรงกลับบ้าน ดีสุดคือออกไปเดินเล่นในหมู่บ้าน ไปสนามเด็กเล่นบ้าง (แต่ตอนนี้สนามเด็กเล่นปิดอีกแล้ว) นอกนั้นเวลาส่วนใหญ่ก็คืออยู่ในบ้าน มีออกไปรับแดด รับอากาศหน้าบ้านบ้างแค่นั้นเอง
คือเวลาเราดูไอจี เห็นเพื่อนที่ไทยไปเที่ยวผับ ออกนอกบ้าน เจอกัน แฮงค์เอาท์ หรือเพื่อนพาลูกไปเล่นตามที่ต่าง ๆ คืออิจฉาที่ไทยมากเลยนะที่ใช้ชีวิตได้ปกติขนาดนั้น เพราะชีวิตที่นี่มันทำแบบนั้นไม่ได้เลย covid is all around จ้า
คนที่ออฟฟิส (ที่นี่อนุญาตให้พนักงานเข้าทำงานในออฟฟิสของบริษัทแค่ 70% ของพนักงานทั้งหมด) ก็วน ๆ กันติดโควิด ช่วงที่เค้าให้ไปเที่ยวข้ามจังหวัดได้ ก็มีเพื่อนในออฟฟิสไปเที่ยวกัน แล้วก็ติดโควิดกลับมา วน ๆ กันติดไปแบบนั้น คือชีวิตเสี่ยงเหลือเกิน แล้วที่บ้านเราคือมีทั้งคนแก่ ทั้งเด็กเล็ก เราก็ไม่สามารถที่จะไปตะลอนหรือใช้ชีวิตเสี่ยงแบบนั้นได้เลย ก็ต้องอยู่บ้านวนไปค่ะ
และสถานการณ์ก็ไม่ได้ดูมีท่าทีว่าจะดีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ วัคซีนก็น่าจะอีกนานกว่าจะถึงคิวประชาชนทั่ว ๆ ไป แต่ตอนนี้เหมือนมีข่าวว่าดูเตอเต้จะยอมให้เอกชนนำเข้าวัคซีนเองแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี ให้เราจ่ายตังค์ฉีดเองเราก็ยอมนะ 55555555
วันนี้มีอัพเดตแค่นี้ค่ะทุกคน วันหลังจะมาใหม่ มีเรื่องอยากเล่าเยอะมาก เช่น เรื่องบ้งๆ ของรัฐบาลดูเตอเต้ ข่าวตลก ๆ เกี่ยวกับนางอะไรแบบนี้ เจอกันใหม่คราวหน้า ดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ
โฆษณา