1 เม.ย. 2021 เวลา 10:41 • นิยาย เรื่องสั้น
จาก นิท ถึง โควิด-19
**เรื่องนี้ไม่มีเจตนาพาดพิง สร้างความขัดแย้ง หรือกล่าวถึงบุคคล หรือกลุ่มคนกลุ่มใด เป็นแค่เรื่องสั้น อ่านอย่างมีสติ ใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยจ้า
"แล้วนิทานเรื่องนี้ก็จบลง"
เสียงหญิงสาวกล่าวกับลูกสาวตัวน้อยอย่างอ่อนโยน
"อ้าว!"
หนูน้อยนามว่า นิทรา ลืมตาขึ้นทันที ทั้งๆก่อนหน้ายังทำท่าจะหลับไปแล้ว เด็กหญิงอุทานอย่างแปลกใจ
นิทานเรื่องที่แม่ของเธอเล่าจบแบบแปลกๆ จบแบบที่เธอไม่เคยเห็นนิทานเรื่องไหนจบมาก่อน
ณ ดินแดนแสนสงบสุข ถูกโรคประหลาดคุกคาม โรคนี้จะทำให้คนที่ติดเชื้อหายไปจากดินแดนนี้ หายไปอย่างไร้ร่องรอย พวกเขาไม่ได้ตาย แต่จู่ๆก็หายไปเลย
ในตอนจบ แม้แต่ พระราชา ก็หายไป และเมื่อมาถึงในตอนที่เจ้าหญิง และเจ้าชายสองพี่น้องได้พบผู้ที่บอกว่าจะมาจัดการกับโรคร้ายนี้ได้ แม่ของเธอกลับบอกว่า จบ
"นิท จำไว้นะลูก ทุกๆจุดจบ คือจุดเริ่มต้น ไม่มีสิ่งใดจบอย่างสวยงามและสมบูรณ์แบบ การจบของการพบเจอผู้ปราบปรามโรคร้ายนี้ได้ คือจุดเริ่มต้นของพวกเขาที่จะช่วยกันปราบปรามโรคร้ายนี้"
หนูน้อยเหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่เด็กหญิงไว 6 ขวบ ก็พยักหน้า แล้วกล่าวต่อว่า
ดินแดนนั้น คงจะเจอกับโรคร้ายเหมือนกับพวกเราตอนนี้สินะ ผู้คนเดือดร้อน หิว แล้วก็ ตาย เพราะ บางคนก็ไม่มีเงิน เหมือนเรา แม่บอกว่าเราไม่ค่อยมีเงิน ถ้าเราจะเขียนจดหมายถึง ดาวอธิษฐาน ให้ช่วยหาทางออกของโรคนี้ เหมือนที่สองพี่น้องในดินแดนนั้นทำล่ะจะได้มั้ย"
หญิงผู้เป็นแม่ มองลูกสาวอย่างสงสารจับใจ บ้านเธออยู่หางไกลยิ่งนัก เงินทองก็หายาก ยิ่งมามีโรคระบาดเช่นนี้ นิทรา เป็นเด็กตัวน้อยๆคนหนึ่ง ที่หิวก็บอกหิว อยากได้ก็คืออยากได้ ไวของเด็กหญิง เป็นไวที่ต้องการการเติมเต็มเป็นที่สุด แต่เธอจะทำอย่างไรได้ล่ะ โลกใบนี้ มันไม่ได้สวยงามและสมบูรณ์แบบเหมือนโลกในนิทานนี่นา
หญิงสาวไม่ตอบ เพียงก้มลงไปจรดริมฝีปากกับแก้มนุ่มนิ่ม แล้วกล่าวเสียงอ่อนโยน
"ดึกแล้ว นอนเถอะ นิทราดีนะ"
นิทรา รู้ดีว่า ประโยคนี้ คือ แม่ต้องการให้เธอเข้านอน เด็กหญิงพยักหน้าอย่างว่าง่าย
เด็กน้อยนอนพลิกไปมาบนฟูกแข็งๆเก่าๆบนพื้นปูเสื่อ ท้องน้อยๆส่งเสียงร้องโครกคราก ในที่สุด เด็กหญิงก็ลุกขึ้น แล้วตรงมานั่งที่มุมสำหรับวาดเขียนของเธอ
หยิบกระดาษเขียนจดหมายมาโบกไปมาตรงหน้าอย่างครุ่นคิด เลือกหยิบดินสอสี และจรดปลายดินสอที่กระดาษอย่างระมัดระวัง ตวัดเขียนอย่างช้าๆ
เขียน อ่าน แก้ นานนับชั่วโมง จนเด็กน้อยพอใจ เธอก็ลงมือพับกระดาษเป็นรูปเครื่องบิน เปิดหน้าต่างไม้บานเก่าคร่ำคร่า จนเกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าด ประกบมือน้อยทั้งสองที่มีเครื่องบินกระดาษไว้ระดับอก หลับตา แล้วโยนมันออกนอกหน้าต่างที่มีดวงดาวดารดาษทั่วผืนกำมะหยี่สีดำ แม้มันจะไม่ได้บินไปสูงนัก แต่เด็กน้อยก็ตัดใจ ปิดหน้าต่าง แล้วกลับไปล้มตัวลงนอนดังเดิม
ยามเช้าที่แสงแดดแผดจ้าเริ่มขึ้น มารดาของหนูน้อย นิทรา ตื่นมารดน้ำต้นไม้ และ สวนผักสวนครัวของเธอ เมื่อเดินไปใกล้ถึงแปลงผักที่ห่างจากหน้าต่างห้องของลูกน้อยประมาณ 1 เมตร เธอก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นเครื่องบินกระดาษของหนูน้อย เธอรู้ทันทีว่า หนูน้อยต้องเขียนอะไรไว้แน่ๆ เด็กหญิง นิทรา มักจะเขียนสิ่งที่เธอต้องการ และ สิ่งที่อยู่ในใจถึง ดวงดาว อธิษฐาน และหากสิ่งใดที่เธอหาได้ เธอก็จะพยายามเก็บเงิน และหามาให้หนูน้อย
หญิงสาวก้มเก็บ คลี่อ่านอย่างระมัดระวัง สายตาไล่ตามตัวอักษรที่เขียนด้วยลายมือสวยงาม พร้อมความรู้สึกที่จุก ตื้อไปทั้งใจ
"สวัสดี ครั้งนี้ ฉันไม่รู้ว่า ดาวอธิษฐาน หรือใครจะมาเจอ แต่ฉันแค่จะบอกว่า ฉันหิว ฉันต้องการอาหาร มีครั้งหนึ่ง มีคนมาแจกอาหาร แต่ก็นั่นแหละ บ้านเราอยู่ท้ายหมู่บ้าน เลยได้รับอาหารช้า และ เหลือแค่กล่องเดียวฉันต้องแบ่งกินกับแม่ และ แม่ยังบอกอีกว่า อาหารที่มีเนื้อ และ อร่อยแบบนี้ ลูกคงชอบ เราเก็บไว้กินนานๆดีกว่า แม่ยกให้ แม่จะกินผัก และ ข้าวกับพริกเกลือเหมือนเดิม ฉันรู้ ว่าแม่หิวเหมือนกัน แต่แม่เป็นห่วงฉัน และ ถ้าหากเชื้อโรคร้ายรับรู้ได้ แค่อยากบอกว่า เลิกสร้างความเดือดร้อนสักที แต่ฉันคิดว่า ข้อดีของมันก็มีอยู่นะ มันทำให้คนทุกคนแสดงน้ำใจของตัวเองออกมา สามัคคีกัน แต่ อย่าอยู่นานเลย เพราะ ข้อเสีย และ ความเดือดร้อนมีมากกว่า"
แม่ของเด็กหญิงถอนใจยาว แม้จะทุกทรมาน แต่ลูกสาวของเธอยังมองโลกในแง่ดีเสมอ บางที ถ้าหนูน้อยโตขึ้น เธอคงจะมองโลกในแง่ดีน้อยลง และ ยอมรับกับโลกที่โหดร้ายใบนี้
หลายวันต่อมา มีกลุ่มคนมาแจกอาหาร น้ำ ขนม และ เครื่องอุปโภคบริโภค หนูน้อย นึกถึงจดหมายของตนเองได้ จึงกล่าวกับแม่ ที่จูงมือเธอไปรับอาหาร
"บางที คำอธิษฐานอาจได้ผลก็ได้นะแม่"
แล้วหนูน้อยก็เล่าเรื่องที่ตัวเองมาเขียนจดหมายกลางดึกให้ผู้เป็นแม่ฟัง
สองหนุ่มสาวเดินตรงมายังทั้งคู่ แล้วยื่นกล่องอาหาร 3 - 4 กล่องให้ พร้อมกับหญิงสาวพูดว่า
"คุณแม่ รับนี่ไปกินกับน้องนะ จำได้ ตอนนั้นเอามาแจก อาหารไม่พอ"
เธอคุกเข่าลงตรงหน้าเด็กน้อย ใช้นิ้วเรียวยาวจิ้มแก้มนุ่มนิ่มแล้วพูดต่ออีกว่า
"กินให้อิ่มๆไปเลยเนอะ จะได้ไม่หิว"
โฆษณา