1 เม.ย. 2021 เวลา 16:38 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Godzilla VS Kong (2021): นี่คือสิ่งที่หลายคนบอกว่า 10/10 จริงดิ???
คือเราเห็นรีวิวหลายเจ้ามาก หรือใครหลายคนมากที่บอกว่ามัน 10/10 บ้าง มันมันส์มากบ้าง หรือว่าสุดจัดอะไรทำนองนั้นตลอดก่อนดูเลย ซึ่งแน่นอนว่าเราก็ต้อง คาดหวังเอาไว้สูงมาก แต่พอเราได้ดูเท่านั้นแหละ นี่คือสิ่งที่เรารู้สึกระหว่างนั่งดู
Godzilla VS Kong (2021)
“องค์ 1 ของเรื่องคือหายนะ!!!”
นี่คือสิ่งที่เรากล้าพูดได้เลยว่า มันเป็นอย่างงั้นจริง ๆ แม้ว่าจะแก้จุดอ่อนจาก Monsterverse ภาคที่แล้ว ๆ มา ด้วยการเล่าให้กระชับมากยิ่งขึ้น แต่คือมันจับแก่น จับสาระอะไรไม่ได้เลย การเล่าเรื่องพาร์ทคน คือน่าเบื่อมาก (บอกก่อนว่าองค์ 1 คือมันแทบไม่มีฉากแอ๊คชั่นนะ) ซึ่งเอาจริง ๆ พอเราดูจบแล้ว เรากลับมาบ้าน เพื่อจะนั่งเขียนรีวิวชิ้นนี้ โดยอยากจะวิจารณ์องค์ 1 ว่ามันเป็นยังไง แต่พอถึงบ้านเท่านั้น เราจำอะไรไม่ได้เลย เกี่ยวกับเรื่องราวช่วงต้นด้วยซ้ำ แบบพยายามนึกแล้วนึกอีก ก็แบบว่าเหมือนมันจะไม่มีอะไรเลย... และที่ยืนยันได้คือ เพื่อนเราที่ไปดูด้วยกัน 2 คนนั่งหลับตั้งแต่ต้นเรื่อง และก็มีคนข้างหน้า ที่เหลือบไปเห็นว่าเหมือนเขาก็จะสัปหงกเหมือนกัน
แต่จริง ๆ รีวิวส่วนใหญ่ ก็จะบอกว่า เอ้ย หนังแบบนี้ มันไม่ต้องสนเนื้อเรื่อง เอาแค่แอ๊คชั่นเดือด ๆ มันส์ ๆ ก็พอ แบบจัดหนักจัดเต็มทีเด็ดมีมาให้เห็นแน่ ซึ่งโอเค เมื่อได้ดูไปเรื่อย ๆ เออ มันมันส์จริง ไม่ปฎิเสธเลย คือฉากแอ๊คชั่นมันมันส์มาก ในทุกฉากที่มีการปะทะกัน คือจากที่สังเกตหนังแอ๊คชั่นหลาย ๆ เรื่องจากค่าย Warner Bros. มักจะใช้สูตรนี้ คือใส่แอ๊คชั่นแค่ 2-3 ฉากใหญ่ แต่จัดหนักยิงยาวไปเลย ซึ่งนี่ก็ดูเหมือนจะใช้สูตรนั้น และมันจัดหนักจัดเต็มจริง ซัดกันเหมือนดูมวยคู่หยุดโลก เหมือนที่หลาย ๆ คนบอก... แต่แม้มันจะมันส์แบบจัดหนักจัดเต็ม แต่เราก็รู้สึกมีปัญหากับมันอยู่ดี
หนึ่งในฉากแอ๊คชั่นแค่ 2-3 ฉากใหญ่
“แอ๊คชั่น มันส์ สะใจ เดือดจริง แต่มันไม่มีอะไรน่าจดจำสักอย่าง” นี่คือปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นกับเรา คือเรารู้สึกว่ามันไม่มีการวางจังหวะ หรือการสร้าง Moment ที่ต้องร้องว้าว หรือตะลึงกับความ Bad Ass อะไรเลย ซึ่งสำหรับเรา คุณสมบัติของหนังแอ๊คชั่นมันส์ ๆ จะขาดอะไรแบบนี้ไปไม่ได้เด็ดขาด... แต่เรื่องนี้สำหรับเรามันขาดไป มันไม่มีโมเมนต์อะไรที่แบบ น่าจดจำเลย
จริงอยู่ที่ในหนังยังมีทีเด็ดอะไรอีกเพียบ เหมือนที่ถูกโฆษณาเอาไว้ และไม่ได้ถูกใส่มาในตัวอย่างของหนัง โดยเฉพาะในช่วงท้ายเรื่อง แต่มันไม่ได้ให้ความรู้สึกว้าว หรือว่าอะไรเลย สิ่งเดียวที่เราว่าน่าจดจำ มันมีแค่ฉากขวานของ Kong รับ Atomic Breath ที่ก็มีอยู่ใน Trailer เท่านั้น (และอีกฉากที่พูดไม่ได้ เดี๋ยวสปอย แต่มันก็ไม่ได้ว้าวแบบที่คิดอีกเหมือนกัน) มันเลยทำให้พอเครดิตขึ้น แล้วเดินออกจากโรงหนังไปเข้าห้องน้ำ พอออกมาก็แทบจะแบบลืม ๆ ฉากแอ๊คชั่นสุดมันส์ทุกอย่างไปหมดแล้ว (แต่ถ้าให้ดูเอามันส์อีกรอบ ก็ยอมดูนะ จริง ๆ คือเราจำความรู้สึกความมันส์ได้ แต่นึกฉากอะไรมาพูดไม่ออกเลย)
หนึ่งในฉากที่น่าจดจำสำหรับเรา
“จุดอ่อนเดิมถูกแก้ปิดแผลไว้ แต่กลายเป็นแผลใหม่ให้กับจุดอ่อนเดิมนั่นแหละ” ซึ่งก็ไม่ใช่อะไร ก็คือ “พาร์ทมนุษย์” เช่นเคย เหมือนที่บอกไปข้างต้น... จากที่อืดอาดยืดยาด เล่าเนือย ๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจ แผลเหล่านั้นมันถูกกลบไปได้อยู่ แต่มันดันสร้างเป็นความน่ารำคาญในพาร์ทมมนุษย์ขึ้นมาแทน ซึ่งโอเค เราไม่มีปัญหากับพาร์ทของพวกคนทีมนักสำรวจเลย แต่เราโคตรมีปัญหากับพาร์ทของ ไอนักพอตแคสต์ กับแมดิสัน รัสเซลล์เลย (สะกดชื่อถูกไหมไม่รู้555555) เรารู้สึกว่ามันสร้างความน่ารำคาญทุกครั้งที่ตัดฉากมาที่พวกตัวละครเหล่านี้ ซึ่งมันน่ารำคาญจนเกือบทำเรา Turn Off กับหนังไปเลย
และจากการวิเคราะห์ในใจเราเอง ก็รู้สึกว่ามันคงเป็นเพราะ โทนเนื้อเรื่อง และโทนของหนังที่ปูมา มันไปคนละ Mood คนละทางกับ Character ตัวละครของทั้ง 3 คนในพาร์ทนนั้นอย่างชัดเจน และการพยายามจัดยัด Key Elements สำคัญบางอย่างลงไปในทีมพวกนี้ ว่าจะต้องมีส่วนสำคัญบางอย่างตอนท้าย ที่ดูแบบว่าจับยัดมากเกินไป (และดูโคตรไร้สาระเลยตอนที่แบบ 3 คนนั้นสามารถบรรลุ Key Tasks หรือ Key Elements ที่ถูกยัดมา) ซึ่งนั่นแหละ น่าจะเป็นจุดที่ทำให้เราโคตรจะรำคาญพาร์ทมมนุษย์ 3 คนนี้เลย และก็รู้สึกว่า จริง ๆ ถ้าตัดพวกนี้ออกไปเลย ก็น่าจะเล่าเรื่องได้ต่อเนื่องอยู่ (แต่หนังก็จะโคตรสั้นเลย จากเดิมที่สั้นอยู่แล้ว)
หนึ่งในพาร์ทที่น่ารำคาญที่สุดของหนัง
โดยรวมสำหรับเรา ถ้าให้สรุปคร่าว ๆ เราคงบอกว่าเราน่าจะเป็นส่วนน้อยที่รู้สึกผิดหวัง และมีความเห็นไม่ตรงกับคะแนนรีวิวในอินเทอร์เน็ตเลย แต่แน่นอนว่า ถ้าให้ยกจุดเด่นที่เขาอยากจะขาย ซึ่งก็คือฉากการประทะกันของ 2 ไททัน พร้อมแอ๊คชั่นที่ดุเดือด เราก็ขอยอมรับว่า มันทำได้จริง และทำได้ดีสมคำโฆษณา... เพียงแค่สำหรับเรา เราพร้อมที่จะลืมมันในทันทีที่ดูจบ ซึ่งเราเชื่อว่า หลายคน หรือแฟนเดนตายจริง ๆ ก็อาจจะมีอะไรให้จดจำมากกว่าก็ได้
ปล 1 . หากใครอ่านมาแล้วจะถามเราว่า อ่าวแล้วเมิงจำอะไรได้มากที่สุด บอกตรง ๆ สิ่งที่จำได้เป๊ะ ๆ แม่น ๆ ไฮป์ ๆ เลยตอนดูในโรงจริง ๆ ของเราคือ Trailer Mortal Kombat ฉาก ที่ Scorpion ลาก Subzero มาแล้วประโยค Classic อย่าง “Get Over Here” นี่แหละ โคตรของโคตรน่าจดจำ และร้องเหยดตอนดูเลย 55555555
.
ปล 2 . ถ้าให้เรียงลำดับหนัง Monsterverse ที่ชอบที่สุดสำหรับเรา อาจจะต่างจากคนอื่นหน่อย แต่เรียงง่ายสุดเลย เพราะเรียงตามไทม์ไลน์ที่หนังฉายเลยครับ 555555 Godzilla (2014) > Kong Skull Island (2017) > Godzilla: King of Monsters (2019) > Godzilla VS Kong (2021)
#imsarnreview
บทความรีวิวจะถูกปล่อยบน Facebook ส่วนตัวก่อนที่จะถูกปล่อยต่อผ่านทาง Blockdit นะครับผม
โฆษณา