สังขละบุรี เมืองแห่ง 3 วัฒนธรรม
นอกจากสะพานมอญ ที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของสังขละบุรีแล้ว ที่นี้ยังมีโบราณสถานที่จมน้ำ เนื่องจากในปี พ.ศ. 2527 การไฟฟ้าฝ่ายการผลิตแห่งประเทศไทย ได้ก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือเขื่อนวชิราลงกรณ์ เพื่อช่วยในการกักเก็บน้ำ ซึ่งทำให้วัดสำคัญๆถูกจมอยู่ใต้น้ำ เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen ขึ้นมา
วัดทั้ง 3 วัดที่พูดถึงก็คือ
1.วัดวังก์วิเวการาม (เก่า) วัดหลวงพ่ออุตตมะ หรือวัดของชาวมอญ
2.วัดศรีสุวรรณ หรือวัดของชาวกะเหรี่ยง
3.วัดสมเด็จ หรือวัดของชาวไทย
ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน หรือช่วงน้ำแห้ง จะทำให้เรามองเห็นโบสถ์วัดที่ถูกจมอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน ถึงแม้จะถูกจมอยู่ใต้น้ำ แต่ความสวยงามเมื่อน้ำลดลงก็เหนือคำบรรยาย ซากปรักหักพังของวัดโบราณทั้ง 3 วัด มีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของวัดนั้นๆอยู่มาก ทั้ง 3 วัดใช้เวลาในการเดินทางจากท่าเรือใต้สะพานมอญไม่นาน และวัดแต่ละวัดก็อยู่ไม่ห่างกันมาก แนะนำเที่ยวให้มาช่วงที่น้ำลดมากๆนะครับ จะได้เดินเข้าไปชมโบสถ์วัดอย่างใกล้ชิด
วัดวังก์วิเวการาม ริเริ่มก่อสร้างโดยหลวงพ่ออุตตมะ เป็นการร่วมกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2596 ที่บ้านวังกะล่าง ใกล้กับชายแดนพม่า แต่ปัจจุบันเนื่องจากวัดเก่าได้จมน้ำจากการสร้างเขื่อน จึงทำให้หลวงพ่ออุตตมะได้สร้างวัดขึ้นมาใหม่ ภายในเป็นการตกแต่งด้วยศิลปะแบบมอญ มีหุ่นขี้ผึ้งขนาดเท่าคนจริงปั้นเป็นรูปของหลวงพ่ออุตตมะนั่งอยู่บนบัลลังก์หน้าประสาทหลังใหญ่ 9 ยอด และเป็นที่เก็บสังขารของหลวงพ่ออุตตมะ มีพระพุทธรูปหินอ่อน งาช้างแมมมอธ และเจดีย์พุทธคยาจำลอง ซึ่งจำลองแบบจากเจดีย์พุทธคยาประเทศอินเดีย โดยริเริ่มสร้างใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2518 แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2529
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
