Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Nachos Talk คุยไปเรื่อยกับนาโชส์ :)
•
ติดตาม
2 เม.ย. 2021 เวลา 10:57 • ไลฟ์สไตล์
Hansei ศิลปะแห่งการสะท้อนตนเอง
ทุกวันนี้ผมคิดว่าหลายๆ คนคงจะรู้อยู่แล้วว่า Self-awareness หรือการตระหนักรู้ในตัวเองเนี่ย มันสำคัญขนาดไหนในการที่จะพัฒนาตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาในเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว หรือแม้แต่งานอดิเรกทั่วไปก็ตามที
ซึ่งการที่เราจะตระหนักรู้ในตัวเองได้นั้น มันต้องผ่านกระบวนการคิดทบทวนตัวเองเป็นอย่างดี
เราจำเป็นที่ต้องเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง เราถึงจะพัฒนาต่อไปได้อย่างยั่งยืนจริงๆ
ด้วยความที่คนเรามีขีดจำกัดหลายอย่าง อีกทั้งทรัพยากรในชีวิตเราก็มีจำกัด ถ้าเราต้องการที่จะพัฒนาตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ เราต้องรู้จักการบริหารจัดการที่ดีครับ
รู้จุดอ่อน จุดแข็งของตัวเอง รู้ว่าเราเป็นคนแบบไหนถนัดอะไร ชอบอะไรไม่ชอบอะไร
1
และจัดสรรเวลา พลังงาน ความรู้ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ไปทุ่มเทให้ถูกทาง
เพื่อที่จะให้เราสามารถพัฒนาตัวเองได้จริง
วันนี้ผมอยากจะพูดถึงหลักคิดๆ หนึ่งของคนญี่ปุ่นครับ มันมีชื่อเรียกว่า “ฮันเซ” (hansei) ซึ่งพอแปลเป็นภาษาอังกฤษก็จะมีความหมายว่า Self-reflection หรือก็คือการสะท้อนตนเองครับ
ฮันเซ นั้นฝังรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่อดีตแล้วครับ
และนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมประเทศญี่ปุ่นถึงเป็นประเทศที่สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาสู่สายตาของชาวโลกได้อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
เป็นที่รู้กันว่าคนญี่ปุ่นนั้นได้รับการเลี้ยงดูสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กๆ ให้มีความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างมาก เราสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนจากวัฒนธรรมหลายๆ อย่างของคนญี่ปุ่นได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการโค้งทักทาย เรื่องของการใช้ภาษากับความอาวุโส หรือการแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจ
ฮันเซ สอนให้คนญี่ปุ่นรู้จักตระหนักรู้อยู่ตลอดเวลาว่าในโลกนี้นั้นไม่มีสิ่งใด หรือใครที่สมบูรณ์แบบ คนเราสามารถพัฒนาต่อไปได้เสมอ
ซึ่งแนวคิดแบบนี้นี่เองที่ทำให้คนญี่ปุ่นพยายามที่จะพัฒนา สร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ จนประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำของโลกได้
การสะท้อนตัวเองในความหมายของฮันเซ ทำให้เราตระหนักรู้ว่าเรานั้นมีข้อบกพร่องมีจุดอ่อนอะไรบ้าง หรืออะไรบ้างที่สามารถพัฒนาให้มันดีขึ้นไปได้อีก
ผมคิดว่าหลายๆ คน รวมถึงตัวผมด้วย เวลาที่ทำงานผิดพลาดหรือล้มเหลว ก็มักจะคิดแต่ว่า “ไม่เป็นไร ครั้งหน้าเอาใหม่” ผมมักจะไม่ได้มาใช้เวลาทบทวน หรือสะท้อนตนเองว่าอะไรบ้างที่เราผิดพลาดไป หรืออะไรที่เราจะแก้ไขให้มันดีขึ้นได้ถ้ามีโอกาสได้ทำอีกในคราวหน้า
2
1
ซึ่งด้วยเหตุนี้แหละ ที่มันทำให้เราพัฒนาตัวเองได้ช้าหรือไม่พัฒนาเลย เป็นสาเหตุที่ทำให้เราผิดพลาดกับเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ ก้าวข้ามผ่านด่านที่ขวางอยู่ไม่ได้สักที
นอกจากนี้ไม่ว่าผลลัพธ์ของงานที่เราทำมันจะออกมาดีแค่ไหน มันก็ยังสามารถทำให้ดีขึ้นได้อีก ฮันเซ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้เรารู้ว่าจะต้องทำอะไรถึงจะพัฒนาต่อไปได้
ลองมองย้อนกลับไปเกือบ 30 ปีก่อน
ตอนที่ Nissan บริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ได้เปิดตัวรถยนต์สปอร์ต Nissan Skyline GT-R R32 ไฟท้ายโดนัท ออกมาเขย่าวงการรถซิ่ง กวาดแชมป์ทั้งในและต่างประเทศ จนถือว่าเป็นรถที่สมบูรณ์แบบสุดๆ ในยุคนั้น
แต่พวกเขาก็ไม่ได้หยุดที่คำว่า “ดีที่สุด” หรือ “สมบูรณ์แบบ” และพัฒนาต่อเนื่อง แก้ไขข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ อัพเกรดสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นอีก
จนทุกวันนี้ก็มาถึงรุ่น R35 แล้ว และก็ไม่มีอะไรแปลกใจที่ GT-R R35 ก็ยังคงโลดแล่นในวงการรถซิ่งได้อย่างโดดเด่น สามารถเอาชนะพวกรถยนต์สปอร์ตที่มีราคาแพงกว่ามากได้อย่างไม่ยากเย็นนัก และได้คำชมมากมายทั่วโลก
ฮันเซ คือการยอมรับข้อบกพร่อง ความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเราเอง และทำให้เรารู้ว่าเราสามารถที่จะพัฒนาต่อไปให้ดีขึ้นได้อีก
ทุกวันนี้โลกเราพัฒนาไปไวมาก เทคโนโลยีก็ก้าวหน้าขึ้นทุกวัน เราไม่อาจคาดเดาได้เลยว่า พวก A.I. พวกหุ่นยนต์ จะเข้ามาทดแทนเราได้ในอนาคตอันใกล้แค่ไหน
เพราะฉะนั้นการพัฒนาตัวเองให้ถูกที่ถูกทางก็เป็นอะไรที่สมควรทำอย่างยิ่ง
การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การเพิ่มทักษะใหม่ๆ การพัฒนาตัวเองจึงกลายเป็นเทรนด์สำหรับคนยุคนี้
ดังนั้นการนำหลักฮันเซของคนญี่ปุ่นมาปรับใช้ ก็เป็นความคิดที่ไม่เลวนะครับสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาตัวเอง
เราอาจจะเริ่มทำง่ายๆ ด้วยการใช้เวลาประมาณ 15 นาทีในแต่ละสัปดาห์ แล้วเตรียมปากกากับกระดาษสำหรับการจดบันทึกเพื่อจัดระเบียบความคิดของเรา แล้วเริ่มถามคำถามง่ายๆ เช่น เราทำอะไรผิดพลาดไปจากแผนบ้างไหม หรือเราทำตามแผนแล้วมันเวิร์คไหม ได้ผลดีแค่ไหน และจะทำให้มันได้ผลดีกว่านี้ได้ยังไง
สมมติว่าเราต้องการจะเพิ่มทักษะด้านภาษา ให้เราลองถามตัวเองว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้ทำตามแผนที่เราตั้งใจไว้ไหม ได้ท่องคำศัพท์ครบตามที่ตั้งใจไว้หรือเปล่า ผิดพลาดอะไรตรงไหนไหม
ถ้าเราท่องครบตามที่ตั้งเป้าไว้ ผลของมันเป็นอย่างไรบ้าง จำได้หมดทุกคำ เข้าใจทุกคำหรือเปล่า แล้วเราจะทำให้จำคำศัพท์เยอะขึ้นกว่านี้ในเวลาเท่าเดิมได้ยังไง
จากนั้นก็ประมวลผลแล้วคิดหาวิธีพัฒนารูปแบบ พัฒนาแผนการเรียนให้มันมีประสิทธิภาพกับตัวเรามากที่สุด
มันไม่มีหลักการเทคนิคอะไรที่จะใช้ได้ผลดีเลิศกับทุกคน เพราะคนเรานั้นแตกต่างกัน เงื่อนไขข้อจำกัดสถานภาพในชีวิตของแต่ละคนก็ต่างกัน
ฮันเซ จึงช่วยสะท้อนตัวเรา ให้เรารู้ว่าเรามีขีดจำกัดอะไรบ้าง เรามีจุดอ่อนจุดแข็งที่ตรงไหน และสร้างแบบแผนพัฒนาสำหรับตัวเราขึ้นมาได้
เป็นแผนการพัฒนาตัวเองที่ออกแบบมาเพื่อเราโดยเฉพาะ
จะว่าไปมันก็คล้ายๆ เล่นเกมเหมือนกันนะ กว่าจะผ่านบอสแต่ละด่านได้ อาจจะต้องตายไปหลายครั้งเลย
แต่ทุกครั้งเราก็เรียนรู้จากข้อผิดพลาด และพัฒนาการเล่นของเรา
จนในที่สุดก็เอาชนะบอสและผ่านไปด่านต่อไปได้สำเร็จ
ลองนำไปปรับใช้ดูกันนะครับ ได้ผลอย่างไรก็มาแชร์กันบ้างนะ
"ฟีดแบค" เป็นอะไรที่สำคัญมากเหมือนกัน
ผมเชื่อว่า “ฮันเซ” จะช่วยให้การพัฒนาตัวเองมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้กว่าเดิมแน่ๆ ครับ
อย่างน้อยมันก็ช่วยให้ผม…เล่นเกม เก่งขึ้นได้ครับ (แหะๆ)
บันทึก
4
2
1
4
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย