3 เม.ย. 2021 เวลา 00:53 • นิยาย เรื่องสั้น
ก่อนตะวันรอน : ตอนที่ 2 (กอ) หน่อไม้ของฉัน
(ภาพจาก www.canva.com)
ความเดิมตอนที่แล้ว :
นางเอ็ดซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของแม่เดอลา ได้นัดกับเดอลาหลานสาวว่าจะไปหาหน่อไม้ด้วยกันที่ห้วยแดงในช่วงสาย เมื่อถึงเวลานัด นางจึงถือเสียมและตระกร้าคู่ใจเดินออกจากบ้านมา โดยไม่ลืมที่จะเรียกสาย สาวรุ่นที่อยู่บ้านข้าง ๆ กันไปด้วย เมื่อทั้งสองมาถึงลานหน้าบ้านของเดอลา นางเอ็ดก็ร้องเรียกให้เด็กสาวออกมาสมทบกับพวกนาง
“อีหนู มาเด้อน้าไปแล้วเด้นิ อีนางสายกะมานำ ฟ้าวมาเด้อ” นางเอ็ดร้องตะโกนเรียกเดอลา  พลางเคี้ยวมะขามที่พึ่งปลิดมาจากหน้าบ้านของตน พร้อมทำหน้าบิดเบี้ยว
1
“หน้าคือเป็นจังซั่นเอื้อยเอ็ด” สายถามขำ ๆ หลังจากที่เห็นสีหน้าของเอ็ด  ดูแล้วคงจะไม่ชอบใจกับรสชาติมะขามเท่าไหร่
1
“บักขามหยัง ส้มกะด้อกะเดี้ย ส้มป่านตาสิบอด” ว่าแล้วนางเอ็ดก็โยนมะขามที่เหลือในมือทิ้งอย่างไว
"รู้ว่ามันส้มกะยังกินอยู่เนาเอื้อย กะดาย" สายพูดพลางกลั้นหัวเราะกับท่าทางของนางเอ็ด
"กะบ่คิดว่ามันสิส้มป่านนี้หล่ะ" นางเอ็ดตอบแต่ก็อดขำตัวเองไม่ได้
ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ จู๋ ๆ เดอลาก็โผล่หน้าเข้ามากลางวงสนทนาของทั้งคู่  พร้อมกับก้มหน้าลงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“มาแล้วจ้า  นึกว่าสิบ่ทันแล้ว  ฟ้าวแลนเกือบแมนตกคันได” เดอลารีบบอกกับชาวคณะหาหน่อไม้ด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่ยังหอบแฮ่ก ๆ อยู่
1
“ไป ๆ มันสิสวย” นางเอ็ดบอกชาวคณะให้เริ่มออกเดินทางก่อนที่จะสาย
แล้วทั้งสามก็เริ่มออกเดินเท้ามุ่งหน้าไปยังห้วยแดง
“นอนคิดถึงเขา แต่เราไม่มีโอกาส
จึงหยิบกระดาษมาเขียน แต่เขียนไม่เป็น"
สายร้องเพลงระหว่างออกเดินทางอย่างอารมณ์ดี แต่ยังไม่ทันไรก็โดนเดอลาแซวซะก่อน
“คิดฮอดไผน้อเอื้อยสาย” สาวน้อยเดอลาถามสายอย่างมีเลศนัย
“เอื้อยกะร้องไปจั่งซั่นหล่ะ สิมีไผให้คิดฮอด” สายตอบด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
“แมนบ่น้อ หนูเห็นยุเด้อ ว่าไผไปหาบฟืนซอยเอื้อยมื้อนั้น" เดอลาได้ทีรีบเหย้าสายต่อ
“รู้แล้วกะอย่าปากเด้อหนู เอื้อยเอ็ดสิได้ยินเอื้อยอายเพิ่น" สายทำหน้าตาตื่นรีบกำชับเดอลาให้เก็บเป็นความลับ
“ฮ่า..ฮ่า..ได้เลยจ้า ขอหน่อไม้เป็นค่าปิดปากเด้อ" เดอลาหัวเราะ พลางยื่นข้อเสนอให้สาย
1
“ให้พากันหัวเต๋อหัวเติ่นยุนั่น อย่าสุฟ้าวมา" นางเอ็ดร้องตะโกนเสียงดุ
เดอลากับสายรีบสาวเท้าเพื่อให้ทันเอ็ดที่เดินนำไปล่วง
หน้าก่อนแล้ว
“แมนพากันเฮ็ดหยังยุคือซ้าแท้” นางเอ็ดเอ่ยถามทั้งสองสาว ก่อนที่จะก้าวเท้ายาวเข้าไปนั่งข้าง ๆ กอไผ่เพื่อหาหน่อไม้
“บ่ได้เฮ็ดหยังดอกเอื้อย” สายรีบตอบพร้อมกับจ้องตาเดอลาให้ทำตามสัญญาว่าจะไม่บอกความลับของเธอให้เอ็ดหรือใคร ๆ รู้
“เอ๊า มาฮอดหล่ะกะฟ้าวหาเอา ได้พอแล้วสิได้ฟ้าวเมียเฮียนเมียซาน” นางเอ็ดกำชับ
ป่าไผ่ที่ทั้งสามกำลังตั้งหน้าตั้งตาหาหน่อไม้กันอยู่ตอนนี้ แต่ละกอจะอยู่เรียงรายต่อ ๆ กันไปเป็นเส้นยาว ๆ ตามริมห้วยทัังฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ที่หมู่บ้านนี้มีลำห้วยขนาบข้าง ซึ่งจะอยู่ทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของหมู่บ้าน ห้วยแดงนี้จะอยู่ทางทิศตะวันตก ที่ทั้งสามเลือกมาหา หน่อไม้ที่ห้วยแดง เพราะบ้านของพวกเธอจะตั้ง อยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกเหมือนกับห้วยแดงนั่นเอง
จึ๊ก ! จึ๊ก ! จึ๊ก !
เสียงเดอลาสับหน่อไม้ที่กอไผ่ประจำตัวของเธอ หลังจากที่ใช้เสียมแซะดินรอบ ๆ หน่อไม้ ออกไปเยอะแล้ว พลางยิ้มย่องกับผลงานของตัวเอง ที่หาหน่อไม้ได้หน่อใหญ่เท่าลำแข้งน้าเอ็ดเลย
“น้าเอ็ด ! เอื้อยสาย ! พากันฮอดไสแล้วจ้า ? น้าเอ็ด ! เอื้อยสาย ! ได้ยินหนูบ่ ? เดอลาร้องเรียกชาวคณะ หวังว่าจะอวดหน่อไม้สักหน่อย แต่ก็ไม่มีใครตอบรับ เธอจึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
ไม่นานเดอลาก็เห็นนางเอ็ดและสายนั่งหลบร้อนกันที่ใต้ต้นสำสาใหญ่ที่ติดลำห้วยแดง
“เอิ้นคือบ่ปาก ?” เดอลาถามทำหน้าค้อนใส่ทั้งสอง
“นึกว่าได้ยินอยู่ ตอนเอื้อยเอ็ดบอกว่าสิมาถ้าอยู่ต้นสำสา” สายตอบพลางอดขำหน้าตาเดอลาไม่ได้
“มา ๆ กินน้ำเซาเมื่อยจักบึ๋ดก่อนหนู น้าหย่ำหมากจักคำก่อน” นางเอ็ดบอกหลานสาว ให้นั่งพักก่อนออกเดินทางต่อ
ตุ้ม ! ตุ้ม ! ตุ้ม !....
“น้าเอ็ด เอื้อยสายเมียเถาะหนูหิวข้าว พระเพิ่นตีกลองเพลแล้ว” เดอลาชวนนางเอ็ดและสายกลับบ้านหลังจากที่ได้ยินเสียงกลองเพล
“สิกินข้าวพร้อมพระเลยบ่หล่า” สายแหย่เดอลาเล่น ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน
เดอลายิ้มกว้างแทนคำตอบ
ทั้งสามคอนตระกร้าหน่อไม้เดินกลับบ้านฝ่าแดดยามสายที่กำลังร้อนระอุได้ที่ โชคดีระหว่างทางยัง พอมีต้นดอกจาน ต้นสะเดาและต้นมะขามป้อมอยู่กลางทุ่งนาของพ่อเดอลา ให้ทั้งสามได้เดินเฉียด ไปหลบแดดได้บ้าง ก่อนที่จะถึงทางเข้าหมู่บ้าน
ในระหว่างที่หยุดพักเดอลาก็ขอให้สายร้องเพลงที่สายร้องเมื่อตอนขามาให้ฟังอีก กะว่าจะแซวสายอีกรอบ
“เอื้อยสายร้องเพลงให้หนูฟังแนเอาเพลงที่เอื้อยร้องตอนมาเด้อจ้า” เดอลาทำตากรุ้มกริ่ม
“เอื้อยจำบ่ได้แล้ว เอาเพลงอื่นได้บ่” สายอมยิ้มเพราะรู้ทันเดอลา
“เพลงอื่นกะได้จ้า เอื้อยสายร้องเพลงหยังหนูกะฟังเหมิดนั่นหล่ะ” รีบพูดเอาใจสาย ที่สำคัญนางเอ็ดจะได้ไม่ผิดสังเกตว่าสองสาวมีลับลมคมในอะไรกัน
“เอ้าถ้าอยากฟังกะตั้งใจฟัง (คลิกฟังสายจากลิงก์ด้านล่าง) เด้ออย่าปิดหูก่อนหล่ะ” สายเหย้าเดอลาเล่นก่อนจะร้องเพลงตามที่เดอลาขอ
หลังจากที่ทั้งสามเดินมาจนถึงทางเข้าหมู่บ้าน แต่ละคนก็เริ่มแยกย้ายกัน
“เอื้อยเอ็ดข่อยเมียก่อนเด้อจ้า ขอบคุณหลาย ๆ ที่เอิ้นข่อยไปหาหน่อไม้นำ อิพ่อเพิ่นจ่มอยาก กินแกงหน่อไม้พอดี” สายส่งยิ้มพร้อมบอกขอบคุณนางเอ็ดที่ชวนเธอไปหาหน่อไม้ด้วย
“บ่เป็นหยังดอก ฟ้าวเมียแกงให้เพิ่นกิน แล้วพ้อกันอยู่เฮียนนางต้อยเด้อ” เอ็ดกล่าวพร้อมนัดแนะให้สายไปเจอที่บ้านต้อย ว่าที่เจ้าสาวงานแต่งอีกไม่กี่วันข้างหน้า
หลังจากที่นัดแนะกับสายเสร็จยังไม่ทันที่นางเอ็ด จะเอ่ยปากถามเดอลา ว่าพ่อกับแม่ของเธอจะไปบ้านสาวต้อยคืนนี้เลยไหม หันกลับมาสาวน้อยก็ปีนบันไดขึ้นบ้านไปเสียแล้ว
นางเอ็ดได้แต่ยิ้ม แล้วส่ายหน้าด้วยความเอ็นดู แล้วรีบสาวเท้าไปยังบ้านตัวเองเพื่อทำแกงหน่อไม้ไว้รอดำผัวรัก ที่จะกลับจากหาปลาที่หนองน้ำประจำหมู่บ้าน
เมื่อถึงบ้านเดอลาก็รีบจัดแจงก่อไฟเพื่อต้มหน่อไม้ที่เธอหามาได้ ก่อนที่จะนำไปแกงใส่ผักอีกครั้ง ควันไฟพวยพุ่งออกจากเตาก้อนเส้า ที่นำหินสามก้อนขนาดเท่ากันมาวางเป็นสามเหลี่ยม สำหรับไว้รองกันหม้อไม่ให้เคลื่อนไหวระหว่างหุงหาอาหาร
ส่วนฐานพ่อของเดอลาก็ทำง่าย ๆ เหมือนกับบ้านอื่น ๆ คือนำสังกะสีวางไว้บนพื้นครัวที่ทำจากไม้ หลังจากนั้นพ่อจะนำไม้สี่แผ่นขนาดยาว 1 เมตร กว้างประมาณ 30 เซนติเมตร และหนา 10 เซ็นติเมตร มาประกอบกันเป็นสี่เหลี่ยม แล้ววางลงบนสังกะสีที่ตรียมไว้ หลังจากนั้นก็นำ ดินมาเติม ใส่ให้เต็ม ปิดท้ายด้วยก้อนเส้าสามก้อน (ก้อนหิน) มาวางไว้เพื่อเป็นฐานสำหรับหุงหาอาหาร
หลังจากที่เดอลาก่อไฟเรียบร้อยแล้วเธอก็ยกหม้อน้ำขึ้นตั้งไฟ โดยไม่ลืมที่จะใส่เกลือด้วยเพื่อช่วยลดความขมของหน่อไม้ ก่อนที่เธอจะนำไปแกง ในระหว่างที่รอน้ำเดือด เดอลาก็รีบลงมือนำหน่อไม้มาปอกเปลือกแล้วฝานบาง ๆ พอน้ำเดือดเธอก็ฝานหน่อไม้เสร็จพอดี จากนั้นก็เอาใส่ในหม้อต้ม ให้หน่อไม้สุก ระหว่างที่รอเดอลาก็ลงไปเก็บยอดฟักทอง ใบแมงลักและใบย่านาง เพื่อนำมาแกงหนงหน่อ ตั้งใจทำให้ทันมื้อเที่ยง พ่อกับแม่คงหิวแน่นอน ส่วนน้องชายเดอลามีไข่ไก่อยู่สองฟอง ให้น้องกินต้มไข่นี่แหละสารอาหารดีนักแล
ถึงแม้ว่าเดอลาเป็นเด็กผู้หญิงอายุเพียง 10 ขวบ แต่เธอก็ชำนาญงานบ้านงานเรือนแล้ว
เพราะตลอดเวลาแม่จะมอบหมายงานให้เธอทำ โดยเฉพาะการทำกับข้าว บ่อยครั้งที่พ่อกับแม่ของเธอต้องออกไปทำงานนอกบ้าน กว่าจะกลับเข้ามาก็มืดค่ำแล้ว โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว พ่อกับแม่ต้องออกจากบ้านแต่ไก่โห่
ช่วงแรก ๆ ที่เธอหัดทำกับข้าวรสชาติกินได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ทุกคนก็ต้องยอมกินเพราะทุกครั้งที่ลงมือทำคือสนามจริงไม่ใช่ที่ฝึกหัด
บ่อยครั้งที่เดอลาทำให้ไฟไหมหม้อนึ่งข้าวเหนียว ทั้งบ้านก็ต้องทนกินข้าวเหม็นไหม้ไปจนกว่าข้าวจะหมด นึกถึงตอนนี้ทีไรเธอกอดที่จะขำไม่ได้
1
สำหรับแกงหน่อไม้ของเดอลาในวันนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีเหมือนทุกครั้ง อาจจะด้วยความหิวหรือความอร่อยเพราะได้ปลาร้าสูตรเด็ดของแม่เดอลาก็ไม่รู้ ทำให้รสชาติที่ออกมากลมกล่อม น้ำแกงก็ไม่มีเหลือให้เล็ม
ผู้อ่านหล่ะคะ เคยกินอะไรแล้วรสชาติอร่อยเหาะ กินจนไม่เหลือติดถ้วยจานไหมคะ ถ้าเคยก็อารมณ์เดียวกับสมาชิกที่บ้านเดอลาตอนนี้เลยค่ะ
😁 อร่อยจนไม่เหลือให้เล็ม หรือ อร่อยจนไม่เห็นลายถ้วย ใช้ได้ทั้งสองแบบเลยค่ะ 😁
วันนี้เดอลาคงเหนื่อยหาหน่อไม้แล้ว ไว้เรามาเยี่ยมเธอใหม่นะคะ ขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่มาส่องเดอลาเป็นเพื่อนกันค่ะ
1
ด้วยฮัก
นวนิยายเรื่อง : #ก่อนตะวันรอน
บทประพันธ์โดย : #งามดอกบัว
สำนักพิมพ์ : #อีสานพันทาง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา