6 เม.ย. 2021 เวลา 01:49 • ไลฟ์สไตล์
ทุกคนเคยร้อง Hi
เห็นหลายคนท้อกับชีวิต
เลยอยากเล่าเรื่องยาวๆให้ฟัง
ใครทนอ่านได้ก็ทนนะคะ
วันนี้หลายคนคิดว่าเรามีชีวิตดี๊ดี
ใครๆก็บอกว่าน่าอิจฉา
แต่บางคนมองว่าเราเห็นแก่ตัวนะ ทำไมลาออก
เล่าย้อนหลังไปปีเดียวก็พอเนาะ
วันที่โควิดเริ่มมา
ICN คนเดียวของรพ.ประจำจังหวัด ในจังหวัดที่มี ICN จบ ป.โท คนเดียว (คนอื่นย้ายหมดละ)
เริ่มจากยังไม่มีใครตระหนักถึงโควิด จนถึงวันที่ทุกคนตระหนก และเร่งเร้าให้เราจัดการ
เราเตรียมตัวรับโรคระบาดมานาน และเตรียมตัวหลายอย่างเพื่อลาออกมาดูแลพ่อที่ป่วยหลายโรค โรคที่หนักที่สุดคือเบาหวานและถุงลมโป่งพอง ซึ่งพ่อพร้อมที่จะเขียวทุกเมื่อ เมื่อขาดออกซิเจน
การเตรียมตัวออกจากราชการทำให้ต้องทำอาชีพเสริมเพื่อให้มีรายได้ที่มากกว่าบำนาญ มาประคองให้เราสามารถดูแลพ่อได้อย่างดี ในบ้านของเราเพราะพ่อเข็ดหลาบและกลัวกับโรงบาลเหลือเกิน
ช่วง2สัปดาห์ก่อนครบกำหนดออกราชการ พ่อมีอาการ sepsis รู้ได้ไง ก็เราทำงาน sepsis มาหลายปี เรา ประเมินได้ทันทีในช่วงเช้า แต่การรักษาล่าช้า เพราะหาหมอในระบบปกติไม่ได้ เพราะไม่มีคนไข้ไปด้วย การเป็น ICN ไม่ได้ช่วยอะไร โชคดีที่คุณหมอที่ดูแลพ่ออยู่ยังเปิดคลีนิคในตอนเย็น และทำให้พ่อได้รับการรักษาแบบประคับประคองได้
เรารักษากันอยู่แบบทรงๆทรุดๆ
กลางคืนนอนบ้างไม่นอนบ้าง ทั้งดูพ่อทั้งเร่งส่งของ ออนไลน์ที่ดูว่ากิจการไปได้สวยออเดอร์ถล่มทะลาย
กลางวันทำงาน ในห้องทำงานส่วนตัวที่ร้อนอบอ้าวจนแทบต้องนั่งทำงานในห้องน้ำ ซึ่งเราไม่ได้ขาดแต่แอร์นะ มันขาดไปทุกอย่าง แต่เราต้องพยายามหาทุกอย่างไปให้คนที่ร้องขอ ไม่ขอลงรายละเอียดนะคะ เดี๋ยวจะดราม่า
สภาพร่างกายและจิตใจและภาระงานในช่วงนั้น มันแย่มาก แต่ยังอุ่นใจว่าอีกไม่กี่วันเราจะได้ลาออก
และแล้ววันนั้นก็มาถึง 1เมษายน แตะมือกับน้อง ICN ใหม่ที่จบมาหมาดๆด้วยความห่วงไย 2 เมษายน ออกมาดูแลพ่ออย่างจริงจังเป็นวันแรก วันนี้พ่อเริ่มอาการดีขึ้น พูดพอรู้เรื่องทานอาหารได้ เราซื้อ มันทอดมาให้พ่อกิน จริงๆพ่อชอบกล้วยทอด แต่หมดเหลือแต่มันก็ซื้อมาไว้เผื่อพ่อจะกิน
เรามีงานค้างต้องทำสถิติส่งด่วนๆ ตอนเย็นมีคนมาเปลี่ยนเลยแว๊บออกมาทำงาน
ถึงรพ.ยังไม่ทันเข้าห้องทำงาน น้องโทรมาบอก พ่อสำลักมันทอดและหยุดหายใจ น้องกำลังช่วยอยู่
เราอยู่หน้าห้อง วิทยุและออกรับ EMS ร่วมกับทีม และช่วยพ่อได้ทัน ในวันนั้นพ่อได้นอนรพ.เพราะไม่รู้สึกตัว ปฎิเสธการรักษาไม่ได้
อากาศในวันนั้นร้อนจัดเรากลับบ้านไปเอาแอร์มาเป่าให้พ่อ กลับมาพ่อและเตียงเปียกโชกไปด้วยเหงื่อของพ่อ
เรานอนเฝ้าทั้งคืน พ่อเริ่มส่งเสียงอือออ ตอนเช้ามีลืมตาด้วย
สายนิดๆพี่สาวมาเปลี่ยน เราขอตัวกลับไปอาบน้ำนอนแอร์เพื่อชาร์ตแบตตัวเอง
1 ชม.หลังจากนั้น พี่สาวโทรมาว่าพ่อหยุดหายใจ
เราจัดงานศพพ่อกันในช่วงโควิด คนรู้น้อย คนที่รู้บางคนก็ไม่ได้มาร่วมงาน แต่ก็นะ ดีกว่าบางงานที่มีแต่เจ้าภาพ
เราออกงานในวันที่ 2 พ่อจากไปอย่างจริงจังในวันที่ 3 เราร้องให้เกือบทุกวัน เราไม่ต้องทำงานและไม่ต้องดูแลพ่อ
หลายคนถามว่าทำไมไม่กลับไปทำงาน
ออกมาวันเดียวเอง
วันนี้ไม่ร้องแล้ว แต่การพยายามเล่าทำให้ต้องแกะสะเก็ดแผล
ชีวิตไม่ใช่ซีนีม่า ไม่ได้อยากดราม่า แค่อยากเล่าให้คนท้อใจได้อ่าน
เชื่อเถอะว่าชีวิตตอนที่เรารู้สึกว่ามั่นแย่
มันยังดีกว่าใครอีกหลายคน
เรามีครอบครัวที่รักเรา
มีสุขภาพดี
มีสุขภาพทางการเงินที่ดี
พอสมควร
บางคนอาจจะแย่กว่าเรา
แต่สุขภาพการเงินไม่เอื้ออำนวย
มีภาระที่ยังวางไม่ได้
แน่นอนว่า แม้ในช่วงเวลาที่เรารู้สึกว่ามันแย่ที่สุดก็ยังมีคนที่ แย่กว่าเรา
โฆษณา