Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ดูง่าย ได้แง่
•
ติดตาม
7 เม.ย. 2021 เวลา 09:22 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
สิ่งที่แตกต่างของหนังกับหนังสือจากเรื่อง World war Z อันที่จริงมีหนังและหนังสืออีกหลายเรื่องที่ผมอยากจะเขียนถึงความแตกต่าง ขอเริ่มจากเรื่องนี้ก่อนละกัน อ่านแล้วคุณจะรู้ว่า มนุษย์นี่แหละไวรัส ที่เอาแต่ใช้ทรัพยากรณ์ และขยายเผ่าพันธุ์ไปเรื่อย ๆ
เหมือนที่ Agent smith ใน The matrix. ได้บอกไว้
รูปโดยนักเขียน
ขอเกริ่นนิดนึงก่อน เนื่องจากช่วงนี้ตัวนักเขียนอยู่ในสถานะที่ต้องบอกว่าว่างมาก จึงได้ผุดไอเดียดูหนังเก่าที่เคยดูแล้ว ขึ้นมา แต่ปรากฏว่า ดูไปดูมามันเริ่มเบื่อ เลย เอาวะ เปลี่ยนเป็นอ่าน เวอร์ชั่นนิยายแทนละกัน ปรากฏว่า โอ้โห เคยเห็นแต่เขาพูดว่า หนังสือส่วนมากจะดีกว่าหนัง เจอกับตัวถึงรู้
วันนี้เรื่องแรก (อ่านมาหลายเรื่อง) ที่นักเขียนอยากเล่าจากการอ่าน เวอร์ชั่นนิยาย ก็คือ
World. War. Z. ซึ่งการันตีได้แบบมั่นใจถึงความแตกต่างจาก อัถรส ที่ได้รับ
……………………..
เริ่มจาก หนังสือที่ถูกวางจำหน่ายในปี2006 นั้น ให้มุมมองและความรู้สึกที่กว้างกว่า ครบถ้วนกว่า เห็นถึงรายละเอียดชัดกว่า
โดยให้ผู้อ่านประกอบภาพขึ้นเอง ตามคำบอกเล่าของผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ซอมบี้
ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ในแง่มุมต่าง ๆ จากทุกอาชีพ ขณะที่ภาพยนตร์ world war z นั้นฉายในปี2013 ถึงแม้จะทำออกมาได้สนุกตื่นเต้น แต่ก็ยังขาดความครบเครื่องหากนำมาเทียบกับเวอร์ชั่นนิยาย เนื่องจากเวอร์ชั่นภาพยนตร์ จะถูกถ่ายทอดจากตัวละครพระเอกอย่าง แบรด พิตต์ เพียงคนเดียว
………………………..
ความสนุกของเวอร์ชั่นนิยายสำหรับตัวนักเขียนต้องบอกเลยว่าสุดจริง ตัวอย่างเช่นฉากรบที่ยอนเกอร์ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ ทำให้เห็นถึงความพ่ายแพ้ของฝ่ายมนุษย์ โดยมีสาเหตุมาจากรัฐบาลไม่มีกึ๋นพอจะควบคุมการระบาดของซอมบี้
แนวทางการรบแบบสร้างภาพให้ทหารแบกยุทโธปกรณ์ กว่า 30 กิโล ออกไปรบเพื่อแสดงว่ารัฐบาลเอาอยู่ หรือ ฉาก อิสราเอลที่ในเวอร์ชั่นภาพยนต์ ถูกซอมบี้ตีจนแตก แต่ เวอร์ชั่นนิยาย อิสราเอลนั้นเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศ ที่เหลือรอด ตรงข้ามกับ อเมริกา ที่พยายามปกปิดเรื่องซอมบี้กับประชาชน เพราะกลัวว่าจะกระทบกับฐานเสียง โดยมีสื่อกระแสหลักพากันตบเท้าเอาด้วย การจัดตั้งทีมอัลฟ่าขึ้นมารับมือกับสถาณการณ์ที่สุดท้ายแล้วก็เอาไม่อยู่ ทั้งที่ส่วนหนึ่งของปัญหาก็มาจากรัฐบาลของ อเมริกา
……………………………………….
เวอร์ชั่นนิยายนั้น เล่าเรื่องหลังจากเหตุการณ์จบไปแล้ว โดยเน้นหนักไปทางว่ามนุษย์นั้นใช้ชีวิตอย่างไรในขณะที่เกิดเหตุการณ์ และ หลังจากเกิดเหตุการณ์ หรือระบบเศรษฐกิจก่อนและหลัง เหตุการณ์ซอมบี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่นักเขียนประทับใจเป็นอย่างมาก อาชีพนักธุรกิจ พนักงานออฟฟิต นั้นต่างไม่ใช่อาชีพที่ต้องการอีกต่อไป หากแต่ พวกทำงานคลุกฝุ่นแบบลุย ๆ เท่านั้นอ่านแล้วมันช่างเข้ากับสถาณการณ์ของตัวนักเขียนในตอนนี้เสียจริง
หรืออย่างประเด็นจิกกัดเสียดสีนิด ๆ ซึ่งเล่าได้ถูกใจเสียจริง ๆ อย่างเช่น การแพร่ระบาดของซอมบี้ มาจากการลักลอบเข้าเมืองหรือค้ามนุษย์ และแรงงานผิดกฏหมายเป็นต้น ที่แม้รัฐบาลจะเพิ่มการตรวจเขิงลุกหนักแค่ใหน แต่ก็ไม่สามารถรับมือกับสถาณการณ์เลวร้ายได้ บ้างเพราะเจ้าหน้าที่มีการรับสินบน บ้างก็เพราะคนที่ลักลอบเข้าเมืองมานั้นเป็นพวกเงินถุงเงินถัง หรือแม้แต่ความมักง่ายที่ในเวอร์ชั่นนิยายเขียนไว้ถึงผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองทางทะเล หากตรวจพบว่ามีผู้ติดเชื้อ กัปตันเรือก็ไล่ให้ลงจากเรือ หรือไม่ก็จับโยนทิ้งลงทะเลดื้อ ๆ เลย จนทำให้มีซอมบี้ โผล่ไปตามเกาะต่าง ๆ
ยังไงเสีย ส่วนตัวนักเขียนก็ชอบทั้งสองเวอร์ชั่น แต่ถ้าจะให้เลือกเสพ บอกได้เลยว่าเวอร์ชั่นนิยายนั้น อิ่มกว่า ถึงกว่า จุกกว่า ลองไปหามาอ่านกันดูนะครับ
ภาพจาก google
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย