7 เม.ย. 2021 เวลา 18:36 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ความหลังครั้งวันวานในวันเด็ก
หวนกลับมาอีกครั้ง ให้เราได้หายคิดถึง
นี่คือความรู้สึกแรกหลังจากการเห็นภาพโฆษณาของหนังของหุ่นยนต์แมวนี้ วันรุ่นตอนปลายอย่างเรา ๆ วัยใกล้ ๆ 30 หรือ 30 นิด ๆ คงมีความทรงจำร่วมไม่มากก็น้อยไปกับการ์ตูนเรื่องนี้
(ไม่มีสปอย)
stand by me 2 คือการรวมมังงะตอนน่ารัก ๆ ในความทรงจำเข้ามารวมกันเป็นหนังการ์ตูนเรื่องยาวที่สุดแสนจะประทับใจ ทั้งตอนคุณย่า ตอนเกิด หรือแม้แต่การลุ้นว่าโนบิตะจะได้แต่งงานกับสาวสวยอย่างชิสึกะหรือไม่ ล้วนเป็นการพาพวกเราไปสู่การเอาใจช่วยตัวละครที่ลุ้นกันมาตลอด 20 ปีที่รู้จักการ์ตูนเรื่องนี้มา
เรื่องราวย้อนไปย้อนมาใน 2 ช่วง ทั้งในตอนโนบิตะตอนเด็ก และโนบิตะตอนโตที่กำลังจะแต่งจากกับชิสึกะ แต่กลับหนีงานแต่งด้วยเหตุผลความจำเป็นอย่าง ทำเอาเราลุ้นไปกับเพื่อนคนนี้ด้วยว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร
ตลอดระยะเวลาของหนัง เราจะเห็นความรักของโนบิตะที่มีให้คนคนขอบข้างเสมอ แม้ตัวเองจะถูกว่าว่าไม่เอาไหนเอาเสียเลย และแน่นอนที่สุดความรักที่รักคนสาวคนนึ่ง ที่มีให้แต่ใจและใจล้วน ๆ เราจะได้เห็นพลังของใครหนึ่งคนที่มีให้กับใครสักคน ที่เต็มอิ่มเสียเหลือเกิน
นอกจากนี้ หนังเล่นเรื่องความยากละบากในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งถือเป็นแกนเรื่องสำคัญของหนังเรื่องนี้ การเติบโตขึ้นจนถึงขั้นต้องลงหลักปักฐานสร้างครอบครัว สร้างความทุกข์ความกังวลไว้ไหมน้อยเมื่อคิดพิจารณานึกถึงความคาดหวังจากคนรอบข้าง ซึ่งแตกต่างไปมากกับความทุกข์วัยเด็ก ที่อย่างมากก็สอบได้ 0 คะแนน แล้วโดนแม่ด่า
มาถึงตรงนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเราได้ร่วมลุ้นไปกับเพื่อนของเราให้ประสบความสำเร็จในความรัก ความรักที่กล้าจะเผชิญต่อโลกภายนอกอันเลวร้าย มันล้วนสะท้อนถึงวัยเริ่มต้นทำงานอย่างเราได้เป็นอย่างดี ความยากลำบากในการเผชิญต่อสภาพแวดล้อมอันแสนกดดัน จนชวนนึกให้เรากลัวที่จะทำในสิ่งที่เป็นความฝันมาตลอดชีวิต
ความอบอุ่นใจที่เกิดขึ้นจากหนัง ชวนให้เราหวนหาความสุขวันเด็ก ความสุขเล็ก ๆ น้อยจากเพื่อน จากคนรอบข้าง ที่เราอาจจะไม่ทันไดหยุดคิดในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วอย่างในปัจจุบันนี้
ภาพการย้อนกลับมาอดีตของโนบิตะตอนโต ที่กลับมานั่งหวนคิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ ในวัยเด็กล้วนลึกซึ้งและละเอียดอ่อนตามแบบฉบับหนังญี่ปุ่น
และแน่นอน สุทรพจน์ตอนท้ายเรื่องของโนบิตะ สร้างความประทับใจได้อย่างดี ขมวดปมและจบเรื่องราวได้อย่างงดงาม อีกทั้งการทำตามสัญญาด้วยใจอันมั่นคงของนายโนบิคนนี้ กลับสร้างรอยยิ้มให้เราได้ไม่ยาก
สำหรับใครทีกลัวจะร้องไห้เหมือนหมาแบบ stand by me ภาคแรก มันอาจจะไม่ถึงขั้นนั้น เพราะรอบนี้ไม่มีการขยี้ปม ถึงความเศร้าก็อธิบายความเศร้าให้จบครบ และตัดตอนไป เลยได้ร้องไห้เป็นพิธีแบบที่ไม่ต้องอายคนข้าง ๆ เหมือนที่ผมเป็นในภาคแรก
แต่ stand by me ภาค 2 นี้มันฟีลกู๊ดเสียเหลือเกิน เอาเป็นว่า ดูจบก็ได้เอามือทาบอกหลับฝันดีไปกับความรักที่เพื่อนของเราคนนึ่งมอบให้สิ่งแวดล้อมรอบข้างเค้าได้อย่างสุขใจ
สุดท้าย #แค่อยากจะเล่าให้คุณฟัง
ก็ชวนคุณมามีความสุขในการหวนหาวันเด็กด้วยกันกับหนังเรื่องนี้ครับ
โฆษณา