Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วันนี้สรุปมา
•
ติดตาม
7 เม.ย. 2021 เวลา 18:53 • ธุรกิจ
สรุปจาก "เพราะบอร์ดคือสติ" ตอนที่2: ตั้งคำถามที่ "ใช่" ตั้งยังไง?
**สรุปนี้อาจจะมีเนื้อหาบางส่วนที่ขาดหายไปในช่วงแรก เนื่องจากทางผมได้เข้าไปเริ่มฟังตอนช่วงประมาณ 21:35 แต่คิดว่าเป็นห้องที่มีเนื้อหาที่ดีมาก จึงขออนุญาตนำสรุปมาแชร์ส่งต่อ ท่านใดที่ได้ฟังในช่วงแรก สามารถช่วยแชร์เนื้อหาเสริมเพิ่มเติมไว้ในคอมเม้นได้นะครับ 😁
1. คำถามมีสองแบบ
[Roundfinger]
*1. แบบที่เปิดโลกออกไปข้างนอก
*2. คำถามที่ค้นหาเข้าไปในตัวเอง
2. คำถามเปลี่ยนหมวก
[Roundfinger]
- วิธีการตั้งคำถามแบบ creative เอาหัวเด็ก/ คนอายุ 60/ คนชอบความเร็ว มาสวมหมวกดูแล้วจะเป็นยังไง ทำให้ได้มุมมองใหม่และแตกต่าง
- สามารถนำไปปรับใช้ในองค์กร ลองเปลี่ยนหัวตัวเองไปอยู่แผนกอื่น ทำให้ความสัมพันธ์ในการทำงานดีขึ้น การใช้แต่หัวตัวเองจะทำให้เกิดการขัดแย้งกันเพราะเราจะคิดมุ่งแต่เป้าหมายของแผนกเรา
3. คำถามมีหลายฟังก์ชั่น
[Ken]
- คำถามเปรียบเสมือนเครื่องมือ ค้อน, ขวาน, จอบ, เสียม
- ค้อนใช้ทุบ แต่ใช้พรวนดินไม่ได้ ต้องเข้าใจเครื่องมือ เวลาไหนควรใช้คำถามแบบไหน ตอนไหนควรถามแบบกระชาก ถามแบบเบาๆ ถามแบบฉีก
- ในการสัมภาษณ์ จะมีคำถามแบบชกเขาจังๆ หรือคำถามแบบเปิดการ์ดของเราเพื่อให้เขาชกมา แล้วเราจะได้หลบเพื่อฮุคเขากลับ
- บางครั้งคำถามปลายปิดที่คนส่วนใหญ่บอกว่าไม่ดี ก็สามารถดีได้สำหรับบางช่วง
- ทฤษฎีพื้นฐาน 5W1H (What? Who? Where? When? Why? How?) วิธีการได้มาซึ่งคำตอบมีหลายวิธีซึ่งไม่เหมือนกัน
- Why ถามบ่อยๆ ก็ปวดหัว แต่ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องถาม
1
- มี Why แล้วควรต้องมี How ด้วย
- การคิดนอกกรอบแบบ What If? เช่น ถ้า Elon Musk มานั่งเป็นบอร์ดบริหาร แล้วเขาจะทำยังไง ถ้าถามคำถามนี้ซ้ำๆ ไปอีกสามเดือน อาจจะทำให้เราไม่ไปไหน
- คำถามแบบเอเลี่ยน ถามแบบเหมือนคนมาจากนอกโลก มีประโยชน์ในการสร้าง creativity ใหม่ๆ ทำให้เราหลุดออกจากตัวเอง แต่อาจจะไม่เหมาะกับบทบาทอื่นๆ
- คนถามต้องเข้าใจฟังก์ชั่นของคำถามสูง ต้องเข้าใจเครื่องมือ
4. การถามแบบไหนขึ้นอยู่กับจังหวะและเวลา
[Kaisri]
- เป็นเรื่องที่น่าคิด ด้วยเวลาที่มีจำกัด เราจะถาม What If น้อย ขึ้นอยู่กับจังหวะ เวลาของบริษัทว่าต้องการไหม
- What If ที่มีมากๆ แล้วมันไม่มีจุดจบ บางครั้งอาจจะต้องจัดเวลาว่า ตอนไหนที่ควรเป็น What If
5. การตั้งคำถามเพื่อเช็คสมมุติฐาน
[Kaisri]
- ไม่ต้องคิดว่าเราถูกหรือไม่ ถามไปเลย คิดดังๆ การที่เราพูดออกไปอาจจะผิด แต่ก็ช่วยตั้งคำถามดึงคนอื่น
- สมมุติฐานของเราคือแบบนี้ใช่หรือไม่? สมมุติถ้าใช่ เราจะเดินไปทางนี้
- เป็นสิ่งที่ต้องการหรือไม่? ทุกคนก็จะได้หยุดมาคิด บางครั้ง คนเราอาจจะชอบเริ่มตั้งมาจากข้อสงสัยว่าสมมุติฐานไม่ตรงกัน ต้องมีการกระตุกกันนิดหน่อย
- ถ้าทุกคนในห้อง respect ซึ่งกันและกัน จะไม่มีใครรู้สึกแย่
6. ถามคำถามจนลืมเป้าหมาย
[Kaisri]
- บางครั้งเราถาม why จนลืม objective สุดท้าย
- ถาม how เน้นความถูกต้อง ความเหมาะสม จนลืมเป้าหมาย
- สมมุติเราได้ how ที่ตรงกัน มีความเหมาะสมแล้ว ลองคิดต่อว่าถ้าเราทำ how แบบนี้ คำตอบที่เราได้คืออะไร และเป็นคำตอบที่เราจะไปด้วยกันใช่หรือไหม ให้ทุกคนกลับมาอยู่ที่เป้าหมายเดียวกัน
7. การให้ได้มาซึ่งคำถามและคำตอบที่ดี
[Roundfinger]
*1. มีเป้าหมายที่ตรงกัน
- ทุกคนตระหนักว่าเราจะไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ยอมรับการตั้งคำถามแหลมคมได้ ทำให้คำถามดีๆ ออกมาได้
- แต่ถ้ามีความระแวงกัน ว่าถ้าถามไปจะมีคนเกลียด หรือทำให้ไอเดียเขาล่ม คำถามดีๆ จะถูกกลืนลงไปในคอเยอะมาก
- ถ้าเข้าใจตรงกัน คิดว่าคำถามดีๆ จะออกมามากมาย
*2. การสร้างบรรยากาศ
- มีผลในการที่คนๆ นั้นได้คำตอบที่ดี และได้ถามคำถามที่ดี
ex1. ผมเคยถูกสัมภาษณ์โดยแม็กกาซีนเล่มหนึ่งโดยที่บอกว่าจะเป็นการสัมภาษณ์เรื่องวงการบันเทิงไทย แต่สุดท้ายคุยกันสองชั่วโมงครึ่ง เป็นการเมืองหมดเลย พอจบสัมภาษณ์ ผมไม่รู้ตัวเลยว่าถูกสัมภาษณ์อยู่ ทำให้ตอบคำถามได้เป็นธรรมชาติมาก
ex2. รายการ ป๋าเต็ดทอล์ก ที่มีคำถามที่เข้มข้นและคำตอบที่ลึกซึ้ง แต่ละเทปมีการคุยกันถึง 4 ชั่วโมง (ส่วนใหญ่เทปที่ออกอากาศจะความยาวประมาณ 1 ชม. บวกลบนิดหน่อย) เวลาสัมภาษณ์จะไม่ให้รู้ว่ากล้องเริ่มถ่ายแล้ว ถ่ายยาวไม่ต้องมีการตัด ตลอด 3-4 ชม. ไม่มีการรบกวน บรรยากาศแบบนี้ทำให้เกิดบทสนทนาที่ดีได้
- สมมุติถ้าเป็นเรื่องของบอร์ดบริหาร ถ้าสร้างบรรยากาศในห้องไม่ได้ อาจจะต้องสร้างนอกห้องก่อน แล้วอาจจะช่วยทำให้เกิดบรรยากาศที่ดีขึ้นได้ในห้องประชุม
8. วิธีการฝึกการตั้งคำถามที่ดี
[Ken]
==================
*1. Learn from the master
==================
- ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเป็นสื่อ เริ่มเข้าใจการตั้งคำถาม สังเกตว่าคนที่เป็นที่ยอมรับในวงการเขาเก่งอะไร พบว่าแก่นข้อเดียวกันคือ เขาตั้งคำถามที่ดี
- ดูคนที่เก่ง ดูเทคนิค วิธีการที่เขาเลี้ยงคำถามเพื่อไปหาคำตอบ เปรียบเสมือนการเลี้ยงลูกฟุตบอลก่อนที่จะยิงประตู
- ถ้าเป็นคนทำงาน ก็อาจจะสังเกตจากผู้บริหารเก่งๆ คำถามเขาจะคมมาก ถามแค่ไม่กี่คำถาม แต่ทำให้คนทั้งโต๊ะต้องช่วยกันหาคำตอบ
- สังเกตว่าเขามีการต้ังคำถามยังไง ล่าสุดดู Oprah Winfrey เขาเป็นคนที่มีคาริสม่าสูง อย่างคุณสรยุทธ คุณสัญญา พี่เอ๋ แต่ละคนก็จะมีบุคลิกไม่เหมือนกัน
==================
*2. Practice
==================
- ฝึกการตั้งคำถามกับตัวเอง ปรับจูนเข็มทิศตลอดเวลา
- ตั้งคำถามกับการทำงานของเรา เพื่อนของเรา
- ผมเป็นคนที่ คนชอบบอกว่าคุยสนุก แต่จริงๆ ผมคุยแค่ 10% เอง แต่จะเป็นโยนคำถามที่ดีออกไป ให้เขาได้พูด
==================
*3. Just do it & review
==================
- ตอนลงสนามจริง บางครั้งสิ่งที่เกิดอาจจะไม่ได้เป็นไปตามสิ่งที่เราคาดหวัง
- ผมเคยโดนคนสัมภาษณ์ต่อว่า เคยถามแล้วไม่ได้คำตอบที่มีสาระ เคยถามแล้วทำให้น้องในทีมรู้สึกไม่ดี เราต้องกลับมาทบทวน กลับมาถอดบทเรียน
9. จะเป็นผู้ถามที่ถามสนุกต้อง
[Roundfinger]
==================
*1. มีความรู้
==================
**1.1 มีความรู้ลึก
- เรามักจะสนุกและชอบคุยกับคนที่มีความรู้ ผู้ถามต้องมีความรู้พื้นฐานในเรื่องที่ถาม หรือบางทีอาจจะรู้มากกว่า เราตอบแล้วเกร็งแต่สนุก ต้องศึกษาหาความรู้ประมาณนึง
**1.2 มีความรู้กว้าง
- มีความรู้เชื่อมโยงไปศาสตร์ต่างๆ สัมภาษณ์นักวิทยาศาสตร์ แต่สามารถเชื่อมไปสังคม ศิลปะ มีเหลี่ยมที่น่าสนใจกว่าด้านใดด้านหนึ่ง
- มีความรู้ทั้งแคบและกว้าง เพราะมนุษย์ชอบคุยกับคนที่รู้ว่าเราถามอะไรอยู่ รู้ว่าเราตอบอะไร
==================
*2 มีความไม่รู้
==================
- ต่อให้คุณรู้อะไรมากมาย แต่ต้องถามด้วยบุคลิกและทัศนคติเหมือนเป็นคนไม่รู้ ถ้าถามด้วยความเป็นคนรู้ เราจะมีคำตอบในใจ พอเขาตอบไม่ตรงคำตอบของเรา เราจะพยายามบีบให้เขาตอบ เหมือนคำตอบที่เราคิดไว้ในใจ แบบนี้จะน่าเบื่อ คนถามที่พยายามจะบอกว่าตัวเองมีความรู้
10. คำคมเกี่ยวกับคำถาม
[Ken]
==================
*1. คำถามที่ดีมันสำคัญกว่าคำตอบที่ดี
==================
- เป็นสิ่งที่ผมเชื่อและใช้อยู่ทุกวัน ชีวิตผมใช้คำถามเป็นตัวไกด์ จะมีคำถามเป็นเข็มทิศเสมอ
- บางครั้งเราไม่จำเป็นต้องมุ่งรีบไปสู่คำตอบ เวลาคิดอะไรไม่ออก ให้เขียนคำถาม มันจะช่วยเฟรมว่าเราคิดอะไร หรือใช้ criteria อะไรในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ
==================
*2. ชีวิตที่ไม่มีคำถามเป็นชีวิตที่ไร้คุณค่า
==================
- การมีคำถามเป็นกึ่งฟังก์ชั่นของการขี้สงสัย หรือคนรุ่นใหม่ใช้คำว่า "ขบถ"
- คนที่ทำตามโจทย์ตลอดชีวิต ตามสังคม ไม่ได้ผิดอะไร แต่โลกต้องการคนตั้งคำถามใหม่ๆ
- ถ้าไม่มีคนตั้งคำถาม เราจะไม่มีรถไฟฟ้า ไม่มีคอมพิวเตอร์ที่เร็วกว่าเดิม ไม่มีโทรศัพท์ที่ไม่มีปุ่ม ไม่มีคนคิดจะไปดาวอังคาร ไม่มีสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เกิดจากคนหรือกลุ่มคนมีคำถามที่นำไปสู่บางสิ่งบางอย่าง
- มันดูง่ายๆ แต่อยากให้ทุกคนมีคำถามกับตัวเอง กับชีวิตตัวเองอยู่เสมอ ทำให้เราไม่ใช่แค่หุ่นยนต์ตัวนึง ดำเนินไปตามสิ่งที่สังคมบอกว่าดีงาม เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มตั้งคำถาม จะทำให้คุณได้เป็นมนุษย์จริงๆ
11. การตั้งใจฟัง
[Kaisri]
- หลายคนเป็นผู้มีความรู้มาก ตั้งคำถามเก่ง ตั้งคำถามได้ แต่เราต้องตั้งใจฟังด้วย ไม่ใช่ถามอย่างเดียว
Date: 7 APR 2021 (21:00-22:20)
Moderator:
@kulvech Kulvech Janvatanavit (Thai Institute of Directors (IOD))
@kaypensri Pensri Suteerasarn (สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย -TLCA)
Speaker:
@kasri Kaisri Nuengsigkapian
@roundfinger Sarawut Hengsawad (Roundfinger)
@kennakarin Nakarin Wanakijpaibul (THE STANDARD, The Secret Sauce)
#Clubhouse #ClubhouseTH #ClubhouseThailand #เพราะบอร์ดคือสติ #EP2 #ตั้งคำถามที่ใช่ #howtoquestion #todayinotetotext #todayinoteto #วันนี้สรุปมา
3 บันทึก
7
4
3
7
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย