Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สำนักจีนเหวินเจี๋ยถาง|文杰堂
•
ติดตาม
20 เม.ย. 2021 เวลา 01:00 • ประวัติศาสตร์
《กู๋อวี่ ใบไม้ผลิร่ำลาไปพร้อมกับสายฝน(谷雨节气)》ตอนที่ 1
ฤดูกาลแห่งกสิกรรม(节气农事)
.
กู๋อวี่(谷雨节气)เป็นอนุฤดูสุดท้ายของฤดูใบไม้ผลิ ในช่วงเวลานี้เหล่าต้นกล้าข้าว(秧苗)จะถูกปลูกลงบนแปลงนาเป็นครั้งแรก รวมถึงมีการปลูกพืชใหม่ๆ ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพืชที่ต้องการปริมาณน้ำมากเพื่อให้ความชุ่มชื้น ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า: “ฝนในช่วงใบไม้ผลิมีราคาแพงพอๆ กับน้ำมัน【春雨贵如油】”
.
กู๋อวี่(谷雨节气)ถ้าแปลตามรูปคำศัพท์จะแปลว่า “ฝนธัญพืช” หมายถึง “ฝนให้กำเนิดเหล่าธัญพืช【雨生百谷】” เมื่อดวงอาทิตย์โคจรมาอยู่ในตำแหน่ง 30 องศา จึงกำหนดให้วันที่ 20 หรือ 21 เมษายนของทุกปีเป็นอนุฤดูกู๋อวี่
.
พื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนใต้ของภูมิภาคตะวันออกของจีนมีปริมาณน้ำฝนในช่วงปลายเดือนเมษายนอยู่ที่ประมาณ 30-50 มม.ซึ่งมีปริมาณมากที่สุดจากทั้ง 24 ฤดูและยังเป็นผลดีต่อการเพาะปลูกเป็นอย่างมาก แต่ปริมาณฝนในพื้นที่ที่เหลือของจีนตอนใต้มีปริมาณน้อยกว่า 30 มม. และจำเป็นต้องมีมาตรการระบบชลประทานเพื่อลดผลกระทบจากภัยแล้ง เขตที่ราบสูงทางตะวันตกเฉียงเหนือยังคงเผชิญหน้ากับฤดูแล้ง โดยทั่วไปมีปริมาณน้ำฝนเพียง 5~20 มม.เท่านั้น ก่อนฝนตกและหลังฝนตกในภาคใต้ของจีนมักจะ “คล้อยลมมายามค่ำ อันชุ่มฉ่ำไร้ซุ่มเสียง【随风潜入夜,润物细无声】” ดั่งปรากฏในบทกวี “รับฝนในวสัตราตรี《春夜喜雨》” ที่ประพันธ์โดยตู้ฝู่(唐•杜甫)สาเหตุที่เขาเขียนแบบนี้ก็เพราะในเดือนเมษายนและพฤษภาคมของเขตภูเขาต้าปา(巴山、大巴山)มีโอกาสมากที่สุดที่จะเกิดปรากฏการณ์ฝนในยามค่ำ ซึ่งเป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของพืชและเหมาะแก่การเก็บเกี่ยวผลผลิตจากพืชเล็กๆ บางชนิด
.
ในช่วงอนุฤดูกู๋อวี่ ระดับอุณหภูมิบนเขาจะสูงและมีฝนตกบ่อยซึ่งอาจจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคและแมลงที่เป็นศัตรูกับข้าวสาลีสามชนิด(三麦病虫—吸浆虫、粘虫、麦蚜)ซึ่งพื้นที่ชนบทที่กว้างๆ จะมีการป้องการและควบคุมปริมาณศัตรูพืชเพื่อป้องกันความเสียหายแก่พืชผลโดยการวิธีการนั้นจะสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
กู๋อวี่สามช่วง(谷雨三候)
.
จีนในยุคโบราณแบ่งกู๋อวี่เป็น 3 ช่วง; ช่วงที่ 1 แหนเริ่มเติบโต, ช่วงที่ 2 นกเขาร้องผลัดขนและช่วงที่ 3 นกกะรางหัวขวานเกาะกิ่งหม่อน โดยแต่ละช่วงมีความหมายแฝงดังนี้;
.
ช่วงที่ 1 แหนเริ่มเติบโต(一候萍始生): หลังเข้าสู่กู๋อวี่ ปริมาณน้ำฝนจะมีมากและแหนจะเติบโตอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน มีนัยยะว่า “คนสู่ใหญ่มักจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เช่นเดียวกับแหนที่เปลี่ยนผิวน้ำให้เป็นสีเขียวขจี”
.
ช่วงที่ 2 นกเขาร้องผลัดขน(二候鸣鸠拂其羽): หลังเข้ากู๋อวี่ 5 วัน นกเขาจะผลัดขน สาเหตุที่เรียกนกกาเหว่า(布谷鸟)ว่า “ปู้กู่(布谷)” ก็เพราะเสียงร้องของมันคล้ายๆ กับคำว่า “ปัวกู่(播谷)” แปลว่า: หว่านธัญพืช ซึ่งมีนัยยะว่า “อย่าชะลอการหว่านเมล็ดเพราะจะทำให้ผลผลิตล่าช้า”
.
ช่วงที่ 3 นกกะรางหัวขวานเกาะกิ่งหม่อน(三候戴胜降于桑): นกกะรางหัวขวานเกาะบนกิ่งหม่อนแล้วร้องเพลง แม้ว่าชื่อของมันไม่น่าฟัง แต่ขนที่สวยงามกลับทำให้มันมีเสน่ห์ ซึ่งมีนัยยะว่า “คนเราอาจจะมีจุดด่างพร้อยบ้าง แต่ต้องมีหนึ่งสิ่งที่คนอื่นไม่มีเหมือนตนเอง”
อ้างอิงข้อมูลจาก:
宋英杰.节选自《二十四节气志》—谷雨节气[M].[2021-04-08].
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย