โรงเรียนดีก็อยู่ไกลโรงเรียนใกล้บ้านก็ไม่ดัง
สิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่สมัยนี้ปวดหัวและคิดหนัก คงหนีไม่พ้นเรื่องการเลือกโรงเรียนให้ลูก พ่อแม่มือใหม่หลายคนเพิ่งจะเว้นว่างจากการเปิดตำราหมอเด็ก สารพัดวิธีการเลี้ยงลูก ปรึกษาพ่อแม่ที่มีประสบการณ์เพื่อรับมือกับเจ้าตัวเล็กได้ไม่ทันไร ก็ต้องมาวิ่งหาข้อมูลเรื่องโรงเรียนให้ลูกกันต่อ
.
ด้วยประเภทของโรงเรียนที่มีมากเหลือเกิน โรงเรียนรัฐ เอกชน สองภาษา อินเตอร์ หรือโรงเรียนทางเลือก ที่หลายคนมองว่ามันน่าจะเป็นทางหลักเสียมากกว่า เพราะกระแสของโรงเรียนประเภทหลังนั้นมากเหลือเกิน แม้จะมีจำนวนโรงเรียนมากกว่าเมื่อก่อนมาก แต่โรงเรียนที่พ่อแม่ส่วนใหญ่อยากให้ลูกเข้าเรียน ที่นั่งมีจำกัด เลยทำให้ต้องจองกันข้ามปี โรงเรียนที่ได้รับความสนใจมาก ก็อาจจะเพิ่มเงื่อนไขได้มากหน่อย เช่น มีสัมภาษณ์ทั้งเด็กและผู้ปกครอง ต้องมีการอบรมตามที่โรงเรียนกำหนด
.
ไม่ว่าจะเรียนแบบนั่งโต๊ะมือจับดินสอสี หรือ แบบนั่งเล่นบนกระบะทราย ก็มีราคาที่ต้องจ่าย ...เคยได้ยินพ่อแม่หลายคนบอกว่า การเรียนใกล้ชิดธรรมชาติแบบนี้ ทำไมจ่ายแพงจัง อันนี้ขอไม่ลงรายละเอียดเพราะส่วนตัวเองก็ไม่ได้คุ้นเคยกับโรงเรียนประเภทนี้มากนัก แต่เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีต้นทุน มีค่าใช้จ่าย สุดท้ายแล้วก็ต้องเลือกที่เหมาะสมกับเรา
โรงเรียนดีก็อยู่ไกล โรงเรียนใกล้บ้านก็ไม่ดัง
โรงเรียนที่มีชื่อเสียง มักจะเป็นจุดหมายปลายทางของพ่อแม่ส่วนใหญ่ แม้จะไม่ได้เป็นสิ่งการันตีว่าลูกจะประสบความสำเร็จ แต่ชื่อเสียงที่สั่งสมมายาวนานของโรงเรียนผ่านศิษย์เก่าที่เราได้พบเห็น หรือแม้แต่ตัวพ่อแม่เองที่จบมาจากที่เหล่านี้ เราก็มั่นใจในแบบของเราแหละว่า เรากำลังเลือกสิ่งที่ดีที่สุด
v
v
v
🎈 คุณพ่อคุณแม่หลายบ้าน ยอมที่จะไปต่อคิวแต่เช้าตรู่ (หรือก่อนเช้าเสียอีก) เพื่อซื้อใบสมัคร สรรหาตระเวนพาลูกติว เรียนเสริมพัฒนาการต่างๆ ยินดีทำกิจกรรมร่วมกับทางโรงเรียน ช่วยงานสมาคมผู้ปกครองตามที่ร้องขอ เพื่อให้ได้โควต้าผู้มีอุปการะคุณ แม้จะยังไม่สามารถล็อคที่นั่งให้ลูกได้ก็ตาม หรือแม้แต่ยินดีบริจาค สนับสนุนโรงเรียน ถ้ามันจะเป็นการเพิ่มโอกาสของลูก ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างเต็มเปี่ยม เรื่องระยะทางจึงอาจไม่เป็นอุปสรรคสำหรับบางบ้าน พ่อแม่หลายคนยอมทน ตื่นเช้า ใช้ชีวิตอยู่บนรถ แต่ลูกทนไปกับเราได้หรือเปล่า (...ไม่รู้ )
.
คนรู้จักหลายคน ที่มีโรงเรียนอนุบาลตั้งอยู่หน้าปากซอยบ้าน อยู่ถัดไปสองสามซอย หรือแม้แต่ท้ายหมู่บ้าน แต่รู้สึกว่ามันไม่ได้ ไม่ดี ไม่มีมาตรฐาน(ในสายตาเรา) ขอยอมไปไกลหน่อย เพื่อส่ิงแวดล้อมดีดี สังคมดีดี ไม่รู้เหมือนกันว่า “สังคมที่ดี” ในคำนิยามของพ่อแม่แต่ละคนเป็นยังไง แต่จะบอกว่าไม่คิดถึงเลยก็คงไม่ใช่ เพราะส่วนตัวก็ดูเหมือนกัน ทั้งสภาพแวดล้อม ความปลอดภัย หรือบุคลากรครู ไม่ได้โลกสวยที่จะบอกว่าเรียนที่ไหนก็ได้
.
ตัวอย่างที่ได้พบเจอแล้วรู้สึกถึงความเหลื่อมล้ำในระบบการศึกษาไทยก็คือ มีโรงเรียนดีดีอยู่ใกล้บ้านก็จริง ทั้งดีและดัง แต่ไม่มีตังค์จ่าย เพื่อนอยู่ใกล้โรงเรียนอินเตอร์ที่ตอบโจทย์ครอบครัวว่าไม่อยากให้ลูกเร่งเรียน อยากให้ได้ภาษา ให้มีเวลาทำกิจกรรมหลากหลาย แต่ก็เข้าถึงไม่ได้เพราะไม่สามารถจะเอารายได้ 40%-50% ไปลงกับค่าเรียนของลูกทั้งสองคน ทำให้รู้สึกว่า ทำไม #เรื่องการศึกษา ที่น่าจะเป็นสิทธิพื้นฐานที่เด็กทุกคนเข้าถึงได้ มันดูมีระยะห่างเช่นนี้นะ
.
📌 สิ่งที่เราพ่อแม่ทำได้คือ ไม่ยึดติดกับตัวโรงเรียนมากเกินไป โรงเรียนดังสังคมดีแล้วยังไง การเอาลูกไปฝากไว้ในโรงเรียนมีชื่อ หรือสังคมดีดี แล้วลูกจะดีแน่นอนก็คงไม่ใช่ เด็กเล็กคงไม่รู้จักหรอก ชื่อเสียง คืออะไร แยกแยะประเภทโรงเรียนก็ไม่ได้ รู้แต่ที่นี่สนุก มีที่ให้วิ่งเล่น คุณครูใจดี วันนี้มีความสุข ดังนั้นโรงเรียนที่ดีในสายตาพ่อแม่ ก็ใช่ว่าจะดีแน่ๆสำหรับลูก
.
องค์ประกอบในการเลือกโรงเรียนนอกจากตัวหลักสูตร การเดินทาง ค่าใช้จ่ายต่างๆ ตัวลูกเอง ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญทั้งนั้น ไม่ว่าจะเลือกโรงเรียนด้วยเหตุผลอะไร เชื่อว่าแต่ละครอบครัวคงเลือกที่เหมาะสมกับบริบทและเงื่อนไขของแต่ละบ้านที่สุดแล้ว
#ด้วยรัก ❤️
คุณแม่อุ้ย #KanyaweeR
กัลยวีร์ โรจน์สุขพัฒนา
นักวางแผนการเงิน CFP®
#FinanceForMom
#การเงินฉบับคุณแม่ต้องรู้
#การเลือกโรงเรียน
#วางแผนการศึกษาบุตร
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
