Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าว่าที่สัตวแพทย์ - Vet Stories
•
ติดตาม
10 เม.ย. 2021 เวลา 12:33 • การศึกษา
📣Lab กริ๊ง! การสอบสุดโหดที่สายหมอต้องเจอทุกคน
1
ไม่ว่าจะเป็น✅นิสิตแพทย์ ✅ทันตแพทย์ ✅เภสัช ✅สัตวแพทย์ หรือสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ การสอบ Lab กริ๊งถือว่าเป็นด่านปราบเซียนที่เรียกว่าทั้งยาก และโหดในเวลาเดียวกัน
เรื่องเล่าวันนี้เป็นเพียงความสนุกติดตลกส่วนหนึ่งของชีวิตนิสิตสัตวแพทย์ (ปาดนำ้ตา)
ซึ่งน้องหมอบอกเลยว่า
⭐️ 3 concepts ของการสอบ Lab กริ๊งที่สำคัญและต้องเตรียมพร้อมคำนึงอยู่เสมอเลย นั่นก็คือ
“ จำให้ได้ สติต้องดี และเปลี่ยนโต๊ะให้ไว! “
Q&A: “Lab กริ๊ง” คืออะไร?
🛎 เป็นการสอบ lab หรือภาคปฏิบัติรูปแบบหนึ่ง ซึ่งให้อารมณ์เหมือนการเวียนเข้าฐานกิจกรรมในตอนเด็กๆ เลยค่ะ นึงถึงตอนที่เราใช้เวลาเข้าแต่ละฐานและเวียนเปลี่ยนทุกๆ 30 นาที หรือ 45 นาที เมื่อเราทำกิจกรรมประจำฐานเสร็จ เราจะได้ยินเสียง “สัญญาณเตือน” การเวียนฐานจึงเริ่มขึ้น
เราก็ต้องวิ่งไปอีกฐานเพื่อให้เพื่อนกลุ่มต่อไปที่ยังไม่ได้เข้าได้มาเล่นฐานนี้
เป็นระบบที่เข้าใจง่าย ได้สนุกกันทุกคน
🔥แต่ถ้าย้อนมาตรงนี้ หากพูดถึง Lab กริ๊ง… เตรียมลบภาพความสนุกในวัยเด็กนั้นออกนอกโลกไปเลยค่ะ
2
การสอบสุดโหดไม่ว่าจะเป็นสายหมอ หรือสายวิทย์ก็ไม่ละเว้น!
อธิบายบรรยากาศให้เห็นภาพอย่างง่ายๆ คือ การสอบ lab กริ๊งจะมีโต๊ะมากมายที่เรียงกันเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ บนโต๊ะมี “บางสิ่ง” ที่เป็นโจทย์ข้อสอบ และมี 1-2 ข้อคำถามแปะไว้ ซึ่งแต่ละโต๊ะจะไม่เหมือนกัน
🦴 “บางสิ่ง” ที่ว่าอาจเป็นกระดูก กล้ามเนื้อพร้อมน้องอาจารย์ใหญ่ หรือกล้องจุลทรรศน์ให้ส่องเป็นต้นค่ะ
📝 การสอบจะเริ่มเมื่อ ผู้เข้าสอบยืนประจำตำแหน่งแต่ละโต๊ะ (ฐานแรก) เมื่อเริ่มทำข้อสอบ ต้องรีบสังเกต จับ พลิก คว่ำ คลำหาให้ไว แล้วเขียนลงในกระดาษคำตอบที่อยู่ในมือ โดยมีเสียงกระดิ่งดัง “กริ๊ง” บอกเวลาเปลี่ยนโต๊ะทุกๆ 1 -2 นาที และจะหมุนเวียนสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็จะกลับมาที่โต๊ะแรกของเรา (ฐานแรก) เมื่อส่งกระดาษคำตอบก็เป็นอันจบ
Lab กริ๊ง… ชื่อที่สมบูรณ์แบบ กริ๊งเดียวรู้เรื่อง
🛎 สำหรับสายหมอ สายแพทย์คงรู้จักกันดีในชื่อ “Lab กริ๊ง” แต่ถ้าเปลี่ยนชื่อเป็น “Lab กรี๊ดดด” เพื่อนๆ น้องหมอคงพยักหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะ เวลาที่มีอยู่มันช่างน้อยนิดไม่ทันประมวลผล
จะระลึกชื่อเส้นเอ็นที่พึ่งเริ่มอ่านเมื่อตี 2 ก็ลำบาก
สมาธิต้องดีมากๆ… แต่ได้ยินเสียงกริ๊งทีก็ทำเอาสะดุ้งเลยค่ะ 😅
Q&A: แต่ทุกคนรู้ไหมคะ ว่าเสียงที่มักได้ยินหลังเสียงกริ๊งคืออะไร
🛎Take1: กริ๊งงง! กรี๊ด!!! (พร้อมเพื่อนนิสิตวิ่งออกห้องสอบไป)
- - - นั่นเสียงในหัวค่ะ 555 อยากวิ่งกรี๊ดเสียงสูงออกห้องสอบเหมือนกัน แต่ก็ทำได้แค่จินตนาการแล้วปาดนำ้ตา move on ต่อ
✅ ความเป็นจริงก็คือ
🛎Take2: กริ๊งงง! เอียดดด! ครูดดด! คราดดด!
- - - มันคือ…เสียงชนโต๊ะสแตนเลสค่ะ
… สะโพกน้องหมอบอกมา
🔴 เรื่องเล่าวันนี้เป็นการสอบที่น้องหมอพึ่งตะเกียกตะกายผ่านมาอย่างสดๆ ร้อนๆ เรียกว่าเป็นฝันร้ายในฝันร้ายของนิสิตหลายคน ขนาดน้องหมอตะลุยอ่านยันตี 2 ทุกคืนก็ยังเกือบไม่รอด 🥲
📍Lab Gross I : Gross Anatomy of the Muscular System
หรือ กายวิภาคของกล้ามเนื้อนั่นเอง แถมด้วยเส้นเอ็นและข้อต่อจุกๆ
การสอบครั้งนี้แบ่งการเข้าสอบเป็น 4 รอบ (มีนิสิตสัตวแพทย์ประมาณ 120 คนค่ะ) มี 30 โต๊ะ ข้อสอบ 2 ข้อ/โต๊ะ ให้เวลา 1 นาที/โต๊ะ จุดพัก 3 จุด รวมเวลาชี้แจงก่อนสอบก็ประมาณ 40 นาทีต่อรอบค่ะ
1
นั่นหมายความว่า น้องหมอมีเวลาทำ 1 ข้อตกอยู่ที่ประมาณ 30 วินาทีเท่านั้น! แค่มองแล้วตอบบางครั้งก็เป็นเรื่องยากค่ะ เพราะกายวิภาคของอาจารย์ใหญ่แต่ละตัว (สุนัข) ไม่เหมือนกัน ยิ่งน้องตัวเล็กลายกล้ามเนื้อมักไม่ชัดเจน ทำให้จำแนกกล้ามเนื้อแต่ละชิ้นลำบากพอสมควรค่ะ
แผนผังห้องเชือดก็จะประมาณนี้ค่ะ
หนักกว่านั้นคือชื่อค่ะ ยาวเหลือเกินแถมบางชิ้นต้องเขียนจำแนกเป็นส่วน ให้ถูกต้อง เช่น Accessory head of triceps brachii muscle ⭐️ (มันคือกล้ามเนื้อต้นขาหน้าที่พบได้ในสุนัขค่ะ) ✅ ต้องเป็นภาษาอังกฤษ และสะกดให้ถูกทุกคำ ไม่งั้นเดี๋ยวโดนหักคะแนนไม่เหลือ
📍สถานที่สอบแน่นอนว่าต้องเป็นห้อง Gross ที่มีน้องอาจารย์ใหญ่วางเรียงราย แต่หลายคนชอบเรียก “ห้องเชือดดด”
ก็ไม่แปลกหรอกค่ะ… ชึก! เชือดชีวิตน้อยๆ ของน้องหมอนี่แหละ
▫️ การสอบกล้ามเนื้อจะใช้เชือกมัดกล้ามเนื้อไว้พร้อมเลขข้อค่ะ บางครั้งก็ให้เราสาวเชือกไปดูปมที่ผูก ทายใจอาจารย์เล่นๆ ว่าจะให้เราตอบชื่อกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นกันแน่ (พอดีว่ามีความใกล้กันสูงมาก)
ป้ายเลขแบบนี้ + มีเชือกเส้นเล็กผูกอยู่ อีกฝั่งมัดรอบกล้ามเนื้อ
▫️ใน 1 โต๊ะมีเชือกอยู่ 2 เส้นนำไปสู่คำตอบ 2 ข้อ แต่… บางคนสาวไปสาวมาอาจวางยาเพื่อนโดนไม่รู้ตัว เป็นต้นว่ากระชากแรงเกินไปจนปมหลุด (ตื่นเต้นกันเราเข้าใจได้) ไม่ก็เชือกพันกันมั่วเสียเวลาแงะไปพักใหญ่
🥺 ผลที่ได้ก็คือ ตอบผิดกันทั้งแถว ยาพิษหรือโรคระบาด… ดังนั้นจับทีก็ต้องระมัดระวังกันหน่อย
▫️โต๊ะพักที่มีอยู่นอกจากเป็นตัวช่วยซื้อเวลาให้เราย้อนกลับไปเช็คคำตอบที่ผ่านๆ อาจารย์มักใช้โต๊ะพักในการเพิ่มจำนวนนิสิตผู้เข้าสอบในแต่ละรอบอีกด้วย เป็นต้นว่ามีนิสิตอยู่ 33 คน แต่มีโต๊ะข้อสอบอยู่แค่ 30 โต๊ะ อาจารย์ไม่ต้องเปิดรอบใหม่ให้เสียเวลา เพียงแค่ใส่โต๊ะพักไป 3 โต๊ะก็จบแล้ว! จำนวนรอบก็จะมีน้อยลงนั่นเอง
👇🏻นี่เป็นกล้ามเนื้อเพียงส่วนหนึ่งที่น้องหมอวาดจาก guide book เป็นงานส่งอาจารย์ค่ะ มีอีกเยอะที่ต้องจำ (ส่วนหัว, ขาหน้า, ช่องท้อง, ขาหลัง) ตอนทำสรุปนับได้คร่าวๆ 100 ชื่อ+ เอ็นและข้อต่อ 40 กว่าชื่อ
ในส่วนของภาคทฤษฎีที่สอบตอนเช้าต้องจำชนิดของกล้ามเนื้อจากบริเวณที่เกาะยึด จุดยึดเกาะเริ่มต้น-สิ้นสุดที่ไหนและหน้าที่ของแต่ละกล้ามเนื้อด้วยค่ะ
🖌สัตวแพทย์เป็นได้ทุกอย่าง: ศิลปะกายวิภาคกล้ามเนื้อ💪🏻
นอนตี 2 ทุกวันน้องหมอไม่ได้พูดเล่นนะคะ 🥲 สายหมอเรียนหนักจริงๆ ค่ะ สัตวแพทย์จำเป็นต้องเรียนพื้นฐานโครงสร้างของร่างกายทั้งหมดเหมือนแพทย์เลยค่ะ ต่างแค่เราศึกษาผ่านน้องอาจารย์ใหญ่ (สุนัข) เท่านั้น และอาจแถมด้วยน้องหมู ม้าและโคอีก “นิดหน่อย”
หนึ่งในข้อสอบที่น้องหมอเจอก็คือ เส้นเอ็นของม้าและวัวค่ะ ทฤษฎีต้องเรียนคู่กับปฏิบัติ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นขากับสะโพกของม้าที่จับต้องได้จริงบนโต๊ะ
ยาวได้ครึ่งตัวของน้องหมอเลยนะนั่น ว้าว…
💡 IDEA: สัตวแพทย์ไม่ได้เรียนแค่น้องหมาน้องแมวนะคะ 😁
ไม่รักจริงไม่ชอบจริง …เรียนไม่ได้
ไม่มุ่งมันไม่พยายาม …เรียนไม่จบ
ไม่เข้าเรียนไม่ตั้งใจ …ก็กิน F สิค่ะ 555
🌱ฝากติดตามเรื่องเล่าว่าที่สัตว์แพทย์-Vet Stories ด้วยนะคะ
📌 เตรียมรับความรู้และประสบการณ์ที่น่าสนใจได้เลยค่ะ
❤️ ขอบคุณที่ตั้งใจอ่านบทความกันนะคะ
3 บันทึก
31
52
5
3
31
52
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย