9 เม.ย. 2021 เวลา 12:54 • นิยาย เรื่องสั้น
Naked Singularity
คำสาปจากอดีต ความลับของเวลา และความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์
Pilot : บทนำ
"แม่ แม่ มาดูลิเกเร็ว"
เสียงเด็กน้อย ตะโกนเรียกแม่ ที่กำลังเลือกซื้อผักอยู่ในตลาด
หญิงสาวผู้เป็นแม่หันไปตามเสียงเรียก
ก็พบคนกลุ่มเล็ก ที่กำลังล้อมวงดูผู้ชายคนหนึ่ง
กำลังรำดาบอยู่ที่บริเวณทางเข้าตลาด เหมือนกำลังเล่นลิเกอยู่
ต่างเพียงแต่เสื้อผ้าที่ผู้ชายคนนั้นใส่ เป็นชุดปกติ
ไม่ใช่ชุดที่ถูกประดับด้วยเครื่องเพชรมากมายเหมือนอย่างที่คณะลิเกเขาใส่กัน
กลุ่มคนที่กำลังยืนดูอยู่เริ่มพากันออกความคิดเห็น
"ใครมาเล่นลิเกกันตอนนี้"
"คนบ้าหรือเปล่าเธอ"
"รำสวยนะเนี่ย"
"เฮ้ย เฮ้ย ดูดาบนั่น ของจริงหรือเปล่าวะ โคตรสวยเลย"
ดาบที่ชายคนนั้นกำลังถือกวัดแกว่งร่ายรำ ดูสวยแปลกตา
ใหญ่กว่าดาบที่เคยเห็น ด้ามจับเป็นสีทองสวย
เพราะเป็นทองคำเกือบทั้งหมด แต่ก็คงจะเป็นทองเก๊
เหมือนกับที่อยู่บนชุดลิเกนั่นแหละ
ที่แปลกสุดคือตัวดาบที่ควรจะคมกริบ เงางาม
กลับดูเก่าเสียจนสนิมเขรอะ แถมปลายดาบยังมีรอยบิ่น แตก อีกด้วย
เวลาผ่านไปไม่นาน มีตำรวจสองคนเดินผ่านมาพอดี
คงเห็นว่ามีเรื่องผิดปกติเลยตรงเข้ามาดู
สักพักจึงเดินเข้าไปบอกให้ผู้ชายคนนั้นหยุดรำ
เพราะคงเห็นว่ารำมาได้สักพักแล้ว ด้วยอากาศแบบนี้
มายืนรำดาบกลางแจ้งแบบนี้ เดี๋ยวจะเป็นลมไปซะเปล่าเปล่า
"อย่าเข้ามานะ!! "
ผู้ชายคนนั้นหยุดรำ แล้วชี้ดาบมายังตำรวจสองคนที่กำลังเดินเข้าไปหา
"งานเข้าแล้วมั้ยล่ะ กูบอกแล้วว่ามันบ้า" ตำรวจคนนึงหันไปพูดกับเพื่อน
"เออ.. ใจเย็นเย็นก่อนนะ วางดาบลงก่อน แล้วมาคุยกันดีดี"
ตำรวจอีกคนตะโกนบอก ในขณะที่มืออีกข้างค่อยค่อยขยับลงไปจับอาวุธปืน
"ดาบที่ไหน พวกมึงมันไม่รู้อะไร นี่มันไม่ใช่ดาบธรรมดาโว้ย ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า"
"ไปกันใหญ่แล้ว ต้องเล่นกับคนบ้าอีกแล้วกู แล้วมันจะหัวเราะทำไมวะ"
"เออ เออ นั่นละ วางลงก่อน ใจเย็นเย็น ค่อยค่อยคุยกันนะ"
ท่ามกลางไอแดดที่ร้อนระอุของเดือนกันยายน
ที่ตลาดเจ้าพรหม ในตัวเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทุกคนกำลังตกอยู่ในสภาวะตึงเครียด ทุกอย่างนิ่ง และเงียบ
เหมือนกับภาพยนต์ที่ถูกกดปุ่มหยุดเล่นเอาไว้
กลุ่มคนที่พากันดูอยู่เมื่อครู่ก็ลุ้นว่าจะยังไงต่อ
ตำรวจสองคนนั่นยิ่งลุ้นหนัก พวกเขาอาจจะบาดเจ็บ
หรืออาจต้องตัดสินใจวิสามัญ ถ้าหากเหตุการณ์บานปลาย
ในขณะนั้นเอง ที่ผู้ชายคนนั้นพูดอะไรบางอย่างออกมา
เบาจนไม่อาจมีใครได้ยิน หรือจับใจความได้
เหมือนเขากำลังพูดกับตัวเอง เขาหยุดหัวเราะ และเริ่มร้องไห้
ถึงตอนนี้โดยไม่ต้องมีใครบอก
ทุกคนที่นั่นน่าจะคิดเห็นตรงกันว่ามันบ้าแน่แล้ว
เดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวร้องไห้ อารมณ์แปรปรวนไปมาอย่างรวดเร็ว
ไม่มีใครรู้ว่าคนบ้าจะทำอะไรต่อไป
ในโลกของคนบ้าไม่มีกฎ อยู่เหนือการควบคุม คาดเดาไม่ได้
และแน่นอน สิ่งที่มนุษย์อย่างเรากลัวมากที่สุดคือ ความไม่รู้
"พ่อ!! "
เสียงเด็กผู้ชายคนหนึ่งตะโกนดังขึ้นทำลายความเงียบ
ผู้ชายคนนั้นหันไปตามเสียงเรียก ยิ้มให้เด็กชายทั้งน้ำตา
"พ่อ..ไม่..ได้..ตั้ง..ใจ..ให้..เป็น..แบบ..นี้"
หลังจบประโยคนั้น เขายกดาบขึ้นมาเชือดคอตัวเอง
นาย กร จิตต์มั่น ทำการ อัตวินิบาตกรรม เสียชีวิตในทันที
เมื่อวันที่ 10 เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2500
เหตุการณ์นี้ไม่ตกเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์
แต่เรื่องราวหลังจากนี้ต่างหาก..ที่กลายเป็นข่าวใหญ่ ณ ช่วงเวลานั้น
ขอบคุณท่านเจ้าของภาพไว้ ณ ที่นี้
โปรดติดตามตอนต่อไป...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา