ชัดเจนแล้ว !! ไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษที่ก่อโรคในคลัสเตอร์สถานบันเทิงทองหล่อ มาจากกัมพูชา
แหล่งข่าวจากศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ได้แจ้งผลการถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสที่พบจากผู้ติดเชื้อสถานบันเทิงทองหล่อโดยใช้ส่วนของหนาม ที่เรียกว่าเอสโปรตีน(S-Protein)
พบความเหมือนกัน 100% กับไวรัสที่ระบาดอยู่ในกัมพูชา
จึงสามารถสรุปได้ว่า ไวรัสที่พบในผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์สถานบันเทิงทองหล่อครั้งนี้ เป็นไวรัสชนิดเดียวกับที่กำลังระบาดอยู่ในประเทศกัมพูชา
โดยที่ไวรัสก่อโรคโควิด เป็นสารพันธุกรรมเดี่ยว จึงมีการกลายพันธุ์เล็กๆน้อยๆอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นแม้เป็นไวรัสสายพันธุ์อังกฤษ เมื่อเข้ามาสู่ประเทศใดประเทศหนึ่งเช่น ประเทศไทย เมื่อเวลาผ่านไป ก็จะตรวจพบไม่ได้เหมือนกัน 100% กับไวรัสต้นกำเนิด อาจจะเหมือนกันตั้งแต่ 95 ไปจนถึง 99% เมื่ออยู่ไประยะหนึ่งแล้ว
เพียงแต่ช่วงแรกที่เข้ามาวันที่เข้ามาจะเหมือนกัน 100%
ขณะนี้การตรวจในส่วนหนาม ระหว่างไวรัสที่พบในสถานบันเทิงทองหล่อกับไวรัสที่ระบาดอยู่ในกัมพูชาขณะนี้ เหมือนกัน 100% จึงสรุปได้ดังกล่าว
ไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งมีจุดเด่นคือสามารถเพิ่มจำนวนหรือแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว้างขวางขึ้นร้อยละ 70
จึงทำให้สถานการณ์ของประเทศที่มีไวรัสสายพันธุ์อังกฤษเป็นสายพันธุ์เด่นจะควบคุมการแพร่ระบาดได้ยาก เช่น หลายประเทศในยุโรป ซึ่งมีผู้ติดเชื้อนับ ล้านคน และเสียชีวิตนับ แสนคน
เมื่อมาดูที่ประเทศกัมพูชา พบว่าเริ่มมีการระบาดที่ชัดเจน ในช่วงหกสัปดาห์ที่ผ่านมา
จนล่าสุด กัมพูชาซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากร 16.89 ล้านคน น้อยกว่าประเทศไทยหลายเท่า แต่ได้พบการติดเชื้อวันเดียวถึง 576 คนในขณะที่ของไทยพบการติดเชื้อ 559 คน
ขณะนี้ กัมพูชามีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับที่ 173 รวม
ทั้งสิ้น 3604 คน เสียชีวิต 24 คน
กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1596 คน
โดยอัตราการติดเชื้อ 213 คนต่อประชากรล้านคน
มีการทดสอบไปแล้ว 7.4 แสนราย
คิดเป็น 44,000 รายต่อประชากรล้านคน
เมื่อเทียบกับประเทศไทย
ขณะนี้ไทยมีการติดเชื้อแล้ว 30,869 คน
เสียชีวิต 96 คน
โดยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 2645 คน
มีอัตราการติดเชื้อที่ 441 รายต่อล้านคน
ทำการทดสอบไปแล้ว 8.12 ล้านราย
คิดเป็น 110,006 การทดสอบต่อประชากรล้านคน
สถานการณ์ของประเทศไทยที่เกิดจากการติดสายพันธุ์อังกฤษขณะนี้ จึงถือว่ายังดีกว่าของกัมพูชามาก เพราะกัมพูชาเพิ่งระบาดเมื่อหกสัปดาห์ที่ผ่านมา และประชากรก็น้อยกว่าเรา แต่ติดเชื้อในอัตราต่อวันมากกว่าไทยไปแล้ว
จึงวิเคราะห์ได้ว่า กัมพูชาน่าจะมีการระบาดในอัตราเพิ่มใหม่ต่อวันสูงต่อเนื่องกันไป และผู้ติดเชื้อสะสมน่าจะเกิน 10,000 คนในเร็วๆนี้
และในอีกไม่กี่เดือน กัมพูชาก็อาจจะมีการติดเชื้อแซงหน้าประเทศไทยได้ เช่นเดียวกับประเทศ
เมียนมาร์ ซึ่งติดเชื้อภายหลังประเทศไทยและแซงหน้าไปแล้ว
แต่ประเทศไทยเรา ก็ไม่ควรประมาท แม้ระบบสาธารณสุขของเราจะดีกว่าประเทศเพื่อนบ้านก็ตาม
เพราะที่ผ่านมา เรารับมือได้ดี ทั้งความร่วมมือของภาครัฐและภาคประชาชน ที่ควบคุมการระบาดไว้ได้นั้น
แต่เป็นความสามารถในการรับมือกับการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดิม
ขณะนี้ ไวรัสที่ระบาดเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่คือ สายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดรุนแรงกว่าเดิมถึง 70%
นั่นหมายความว่าทั้งภาครัฐและภาคประชาชน จะต้องใช้ความพยายามในการร่วมมือกันมากกว่าเดิม 70%
จึงจะสามารถคุมสถานการณ์ไว้ได้
ถ้าเราประมาท และเชื่อว่าเราจะดูแลและมีวินัยอยู่ในระดับเดิม ที่เคยรับมือได้ผลดีกับไวรัสสายพันธุ์เดิม ก็เพียงพอแล้ว
จะทำให้เราพลาดได้ เพราะไวรัสครั้งนี้มีลักษณะเด่นคือ ในผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ มีจำนวนปริมาณเชื้อไวรัสในจมูกและลำคอ สูงกว่าสายพันธุ์เดิมมาก
จึงทำให้สามารถติดเชื้อได้ง่ายและรวดเร็วกว่าเดิม
ในเทศกาลสงกรานต์นี้ จะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่น่าเป็นห่วงยิ่ง
เพราะการระบาดเกิดขึ้นได้ง่าย ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว
ผู้เขียนเองได้ทำการยกเลิกการไปหัดเรียนเรือใบในเทศกาลสงกรานต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้จะเป็นกิจกรรมกลางแจ้ง ที่พบกับผู้คนน้อยแล้วก็ตาม
และก็ตัดสินใจที่จะยังไม่ไปรดน้ำดำหัวขอพรจากญาติผู้ใหญ่ในปีนี้ คงจะใช้วิธีโทรศัพท์ไปขอพรแทน
นอกจากจะเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อตนเองและครอบครัวแล้ว ยังถือว่าเป็นความรับผิดชอบต่อประเทศชาติส่วนรวมด้วย
เพื่อที่จะทำให้เทศกาลสงกรานต์ ไม่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดที่จะรุนแรงในอีก 4-8 สัปดาห์ข้างหน้าครับ
Reference
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ
- 292
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
