[Histofun Deluxe] 🇰🇭 สมเด็จฮุนเซนขึ้นสู่อำนาจได้อย่างไร? เป็นเวลายาวนานกว่า 36 ปีแล้ว ที่สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซนหรือสมเด็จฮุนเซน ได้ครองอำนาจเบ็ดเสร็จในฐานะนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา นับตั้งแต่ที่ดำรงตำแหน่งเป็นน

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

11 เม.ย. 2021 เวลา 11:47 • ประวัติศาสตร์

🇰🇭 สมเด็จฮุนเซนขึ้นสู่อำนาจได้อย่างไร?

เป็นเวลายาวนานกว่า 36 ปีแล้ว ที่สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซนหรือสมเด็จฮุนเซน ได้ครองอำนาจเบ็ดเสร็จในฐานะนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา นับตั้งแต่ที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 1985

ซึ่งสมเด็จฮุนเซนก็ได้กลายเป็นผู้นำประเทศที่ครองอำนาจยาวนานมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ รวมไปถึงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก

ชาวกัมพูชาที่สนับสนุนสมเด็จฮุนเซนมีมุมมองว่า สมเด็จฮุนเซนเปรียบเสมือนเป็นวีรบุรุษของชาติ เพราะเขามีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูและสร้างประเทศขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากตกอยู่ภายใต้ยุคสมัยอันโหดร้ายของเขมรแดง

ฮุนเซนในช่วงวัยหนุ่ม (ซ้าย) กับฮุนเซนในปัจจุบัน (ขวา)

ที่สำคัญสมเด็จฮุนเซนคือผู้ที่รักชาติ และจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพรักของชาวกัมพูชา

แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง ชาวกัมพูชาที่ต่อต้านสมเด็จฮุนเซนก็มีมุมมองว่า สมเด็จฮุนเซนคือผู้นำที่เป็นเผด็จการและบ้าอำนาจ

สมเด็จฮุนเซนแสวงหาทุกวิถีทางทั้งในทางกฎหมายรวมไปถึงวิธีการที่สกปรก เพื่อใช้ในการกำจัดศัตรูทางการเมืองของเขา และทำให้ตนเองครองอำนาจยาวนานให้ได้มากที่สุด

สำหรับในบทความนี้ แอดมินจะขอพาทุก ๆ คน ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของการขึ้นสู่อำนาจของสมเด็จฮุนเซน ชายผู้มีอิทธิพลมากที่สุดของกัมพูชา

ฮุนเซนเกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 1952 ที่จังหวัดกำปงจาม ในช่วงวัยเด็กฮุนเซนได้รับการศึกษาจากพระภิกษุในกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา

เมื่อถึงช่วงวัยหนุ่ม ฮุนเซนก็ได้ไปเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งกัมพูชาหรือเขมรแดง ซึ่งในช่วงนี้เองที่เขาได้ประสบอุบัติเหตุจากปืน จนทำให้ตาข้างซ้ายของเขาบอด

ฮุนเซนในช่วงวัยหนุ่ม ขณะเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งกัมพูชา (เขมรแดง)

เมื่อเขมรแดงครองอำนาจในกัมพูชาในช่วงปี 1975 จนถึง 1979 ด้วยความโหดร้ายของพลพตและเขมรแดงที่ได้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวกัมพูชา จนทำให้มีคนล้มตายกว่า 2 ล้านคน ฮุนเซนและเพื่อนของเขาอย่างเฮงสัมริน ก็ได้ตัดสินใจแยกตัวจากเขมรแดง และหันไปเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งเวียดนาม เพื่อล้มล้างอำนาจของเขมรแดง

เมื่อกองทัพเวียดนามสามารถล้มล้างอำนาจของเขมรแดงในปี 1979 ฮุนเซนและเฮงสัมรินก็ได้รับการสนับสนุนจากเวียดนาม ในการจัดตั้งรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาเพื่อปกครองประเทศ โดยเฮงสัมรินได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี ในขณะที่ฮุนเซนก็ได้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

จนกระทั่งในเดือนมกราคม 1985 ฮุนเซนก็ได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของประธานาธิบดีเฮงสัมริน ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการขึ้นสู่อำนาจของฮุนเซน

ฮุนเซนในช่วงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรก

ฮุนเซนดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีจนถึงปี 1993 เขาก็ได้แพ้เลือกตั้งทั่วไปในปีนั้น แต่ปรากฏว่าฮุนเซนกลับไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และไปเจรจาจนทำให้เขากลายเป็นนายกรัฐมนตรีร่วมกับสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์

ส่งผลให้ในช่วงเวลานั้น กัมพูชามีนายกรัฐมนตรีทีเดียวถึงสองคนซึ่งก็คือ สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ตัวแทนจากพรรคฟุนซินเปก (ซึ่งชนะการเลือกตั้ง) และฮุนเซน ตัวแทนจากพรรคประชาชนกัมพูชาหรือ CPP (ที่แพ้เลือกตั้ง แต่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วย)

* ในปีเดียวกัน ฮุนเซนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชจากพระบาทสมเด็จพระนโรดมสีหนุ พระมหากษัตริย์ของกัมพูชาในขณะนั้นอีกด้วย

แต่ท้ายที่สุดในปี 1997 สมเด็จฮุนเซนก็ได้ก่อการรัฐประหารและล้มล้างอำนาจของสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ส่งผลให้สมเด็จฮุนเซนกลายเป็นนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียวของกัมพูชานับแต่นั้นมา

ในปี 2003 พรรค CPP ของสมเด็จฮุนเซนได้ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในปีนั้น แต่ปรากฏว่าที่นั่งในสภามีไม่ถึง 2 ใน 3 ของที่นั่งทั้งหมด ทำไมสมเด็จฮุนเซนไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

แต่ในอีกหนึ่งปีต่อมา สมเด็จฮุนเซนก็ไปเจรจากับพรรคฟุนซินเปก จนทำให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยหนึ่งอีกครั้ง

ความเปลี่ยนแปลงสำคัญเกิดขึ้นในการเลือกตั้งปี 2013 เมื่อพรรค CPP ของสมเด็จฮุนเซนสูญเสียที่นั่งในสภาให้กับพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคกู้ชาติกัมพูชาหรือพรรค CNRP ของสม รังสี

สม รังสี ผู้นำพรรค CNRP คู่ปรับทางการเมืองสำคัญของสมเด็จฮุนเซน

พรรค CNRP ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากชาวกัมพูชาที่ต่อต้านการปกครองของสมเด็จฮุนเซน พวกเขามองว่าสมเด็จฮุนเซนผูกขาดอำนาจและกำลังเป็นเผด็จการปกครองกัมพูชา ดังนั้น สม รังสี และพรรค CNRP จึงเป็นความหวังของพวกเขาในการหลุดพ้นยุคสมัยของสมเด็จฮุนเซน

ความนิยมของพรรค CNRP เปรียบเสมือนเป็นการท้าทายอำนาจของสมเด็จฮุนเซนและพรรค CPP

กลุ่มผู้สนับสนุนพรรค CNRP

ในปี 2016 คณะกรรมการเลือกตั้งของกัมพูชาได้ติดสิทธิ์ทางการเมืองของ สม รังสี และสั่งยุบพรรค CNRP รวมไปถึงพรรคการเมืองฝ่ายค้านทั้งหมดในกัมพูชา

สม รังสี ถูกตั้งข้อหาเป็นกบฏและบ่อนทำลายประเทศชาติเขาถูกพิพากษาจำคุก แต่ สม รังสี ก็สามารถหลบหนีและลี้ภัยทางการเมืองออกนอกประเทศได้

การกวาดล้างศัตรูทางการเมืองในครั้งนี้ ได้ทำให้พรรค CPP ของสมเด็จฮุนเซนกลายเป็นพรรคการเมืองที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จในกัมพูชา

ในการเลือกตั้งปี 2017 พรรค CPP ก็ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย (ลงสมัครเพียงแค่พรรคเดียว) และกุมอำนาจในสภาของกัมพูชาแต่เพียงผู้เดียวจนถึงตอนนี้

เป็นเวลาเกือบ 4 ทศวรรษ ที่สมเด็จฮุนเซ็นกลายเป็นผู้ที่มีอิทธิพลสูงที่สุดในกัมพูชา หลายสื่อมองว่าอิทธิพลของสมเด็จฮุนเซนอาจจะอยู่เหนือกว่าพระบาทสมเด็จพระนโรดมสีหมุนี พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันของกัมพูชาเสียอีก

ในปี 2018 สมเด็จฮุนเซนได้เคยประกาศกร้าวว่า เขาจะไม่ยอมลงจากอำนาจ และจะเป็นนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาจนถึง 10 ปีข้างหน้า

และทั้งหมดนี่ก็คือเรื่องราวของสมเด็จฮุนเซน ชายผู้เปรียบเสมือนเป็น "กษัตริย์ตัวจริง" ของกัมพูชา

*** Reference

- https://www.theguardian.com/world/2018/jun/28/cambodian-pm-hun-sen-fully-fledged-military-dictator-says-report

- https://www.bbc.com/news/world-asia-23257699

- https://www.bangkokpost.com/opinion/opinion/1793859/hun-sen-learns-how-to-fake-democracy

- https://en.m.wikipedia.org/wiki/Hun_Sen

#HistofunDeluxe

โฆษณา

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน