11 เม.ย. 2021 เวลา 11:12 • ไลฟ์สไตล์
ไม่มีใครสนใจเราขนาดนั้นหรอก
เมื่อก่อน หลายครั้งที่ออกบ้านด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง
เพราะทรงผมที่ช่างตัดให้ไม่เหมือนกับในรูปตัวอย่าง
เสื้อผ้าที่ใส่ก็ยับเพราะพิงเบาะเป็นเวลานาน
บางครั้งกังวลแม้กระทั่งความยาวของเล็บที่ลืมตัดเมื่อคืนก่อน
1
สิ่งเหล่านี้มักกวนใจผมอยู่เสมอ
ตลอดการอยู่นอกบ้าน
มีความรู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้เป็นต้นเหตุให้ผมไม่สบายใจ
จนบางครั้งเป็นเหตุให้ไม่ได้ทำธุระอย่างเต็มที่
เพราะมัวกังวลว่า คนที่เห็นจะคิดอย่างไรกับเรา
พอความรู้สึกนี้สะสมเข้าบ่อยๆ
จึงเริ่มลองถามเพื่อนหลายคนว่า วันนี้ลักษณะเราเป็นอย่างไรบ้าง
เพื่อนมักตอบกลับมาว่า "ก็เหมือนๆกับทุกวัน"
ไม่ว่าจะถามเพื่อนร่วมงาน หรือ แม้กระทั่งคนในครอบครัว
ก็มักได้คำตอบว่า ก็เหมือนเดิม
สรุปความคิดที่ว่า ทรงผมเราไม่เนี๊ยบพอ เสื้อผ้าเราไม่เรียบพอ
จนทำให้กังวลว่า คนอื่นจะมองเราแย่ไหม ไม่ดูแลตัวเองไหม
มันเป็นความคิดที่เราคิดขึ้นมาเอง
ไม่มีใครใส่ใจเราขนาดนั้นหรอก
2
อีกกรณีหนึ่งเป็นเรื่องที่ขยับความสำคัญมานิดหน่อย
หลายครั้งที่มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนที่ตัดสินใจเช่าซื้อรถยนต์
หลังจากมีรายได้จากการทำงาน
เมื่อเวลาผ่านไปสถานะการเงินเริ่มขาดสภาพคล่อง
ทำให้เกิดปัญหาหนักใจที่ว่า สภาพการเงินแบบนี้ผ่อนรถไม่ไหวแล้ว
แต่ติดปัญหาหนึ่งซึ่งเขาคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่มากคือ
"ถ้าต้องจำใจขายรถเพราะส่งต่อไม่ไหวแล้ว
คนรอบข้างจะมองอย่างไร"
เขาจะทำอย่างไรถ้าวันหนึ่งที่ต้องรถรถโดยสารไปทำงาน
หรือจากขับรถยนต์ กลับต้องมาขับจักรยานยนต์แทน
เพื่อนๆ และคนรอบข้างจะมองเขาอย่างไร
จะมองว่าเป็นคนล้มเหลวไหม เพื่อนจะล้อไหม
แน่นอนว่า จะต้องมีคนถามถึงเรื่องนี้
แต่เชื่อเถอะว่า เขาจะไม่ใส่ใจมากเท่าที่เราคิด
อย่างมากที่สุดก็รับรู้ว่าคุณเป็นแบบนี้ แล้วก็จะลืมไปในไม่ช้า
เพราะแต่ละคนก็มีเรื่องของตัวเองให้ต้องคิด
ถึงแม้เขาจะเอาเราไปนินทา มันก็แค่นั้นเอง
หรือถ้าทนไม่ได้ก็มีทางเลือกคือ ต้องกัดฟันทนผ่อนต่อไป
จนเบียดเบียนความสุขชีวิตในด้านอื่น
3
สิ่งที่เราคิดว่าคนรอบข้างจะคิดกับเราอย่างไร
หลายครั้งเราขยายให้มันใหญ่เกินความเป็นจริง
แต่ละคนก็มีเรื่องสำคัญของตัวเอง
กลับมาใส่ใจตัวเอง ดูแลตัวเองเท่าที่เราสบายใจ
เริ่มจากการทำเพื่อตัวเอง รักในรูปร่าง ลักษณะของตัวเอง
เพราะ ไม่มีใครใส่ใจเราขนาดนั้นหรอก
2
โฆษณา