12 เม.ย. 2021 เวลา 01:10 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
หลอดแอลอีดี (LED) ทำงานอย่างไร?
(เรียบเรียงโดย พีรทัต ลิ้มพันธ์อุดม)
หลายคนที่อายุเลยสามสิบน่าจะเกิดทันสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า หลอดไส้ (Incandescent Lamp) ซึ่งเป็นหลอดไฟกลมๆ ส่องแสงสว่างเหลืองๆ ใช้งานทั่วไปในบ้านเรา แต่ทุกวันนี้ถูกใช้งานน้อยลงเรื่อยๆ เนื่องจากมันขาดง่าย และหลังจากเปิดใช้งานจะก่อให้เกิดความร้อนจึงสิ้นเปลืองพลังงาน
สิ่งที่ถูกนำมาแทนที่หลอดไส้ คือ หลอดฟลูออเรสเซนต์ (Compact Fluorescent Lamp) ซึ่งแม้จะประหยัดพลังงานมากขึ้น แต่ภายในหลอดมักมีการใช้สารเคมีหลายอย่างที่อาจเป็นอันตราย
ปัจจุบัน หลอดไฟที่ประหยัดพลังงานที่สุดและใช้งานกันแพร่หลายคือ หลอดแอลอีดี (LED ย่อมาจาก Light Emitting Diode) ซึ่งอันที่จริงหลอด LED ถูกนำมาใช้งานได้หลายปีแล้วในนาฬิกาดิจิตัล, ไฟประดับต้นคริสต์มาส, แสงแฟลชกล้อง, สัญญาณไฟจราจร
1
ในบทความนี้จะเล่าให้ฟังถึงพื้นฐานว่าหลอด LED ผลิตแสงได้อย่างไร ?
แสงจากหลอดไฟ LED เปล่งออกมาจากชิ้นส่วนของแข็งเล็กๆที่อยู่ภายใน นั่นคือ สารกึ่งตัวนำ (Semiconductor) ประจุบวกและประจุลบประกอบเข้าด้วยกัน เมื่อมีการใส่กระแสไฟฟ้าเข้าไปจะทำให้อิเล็กตรอนเคลื่อนจากชั้นประจุลบไปหาชั้นประจุบวก ซึ่งอิเล็กตรอนจะเปล่งแสงขณะที่มีการเคลื่อนที่ไปยังประจุบวกนั้น
ในช่วงแรกๆของการพัฒนาหลอดไฟ LED โครงสร้างของหลอดไฟทำให้แสงบางส่วนติดอยู่ข้างใน ทำให้แสงที่ออกมาสลัวกว่าหลอดไส้ แต่ปัจจุบันมันได้รับการปรับปรุงให้มีแสงสว่างมากขึ้นสุดๆ
ข้อได้เปรียบของหลอดไฟ LED คือใช้พลังงานน้อยลง เนื่องจากกระบวนการผลิตแสงของหลอดไฟ LED นั้นสูญเสียพลังงานไปในรูปแบบความร้อนน้อยกว่าหลอดไฟแบบอื่นมาก พูดอีกอย่างได้ว่ามันประหยัดพลังงาน
1
แต่เรื่องการประหยัดพลังงานจะกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย เมื่อเทียบกับเรื่องการประหยัดเวลา เนื่องจากโดยทฤษฎีแล้วหลอดไฟ LED สามารถใช้งานได้นานถึง 20 ปีโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ แต่ปัญหาคือราคาของหลอดไฟ LED นั้นสูงกว่าหลอดไฟแบบอื่นๆอยู่พอสมควรในช่วงแรกๆ แต่การผลิตเป็นจำนวนมากทำให้ราคามันถูกลงเรื่อยๆ
โฆษณา