Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นักบุญหนุ่มเฝ้าสนาม
•
ติดตาม
12 เม.ย. 2021 เวลา 01:30 • กีฬา
เรื่องเล่าจากปากคำของฮีโร “มาเรียน ปาฮาร์ส”
ผมจำได้ว่าช่วงเวลาที่ปาฮาร์สอยู่กับเซาธ์แฮมป์ตัน ผู้บรรยายภาคภาษาอังกฤษ เรียกเขาว่า ไมเคิล โอเวน แห่งลัตเวีย
ผมเห็นด้วยกับประโยคข้างต้นครับ เพราะมาเรียน ปาฮาร์ส มีความคล้ายกับไมเคิล โอเวน ทั้งขนาดรูปร่างสันทัด มีจุดเด่นในเรื่องของความเร็ว
เมื่อมองไปที่ใบหน้าของปาฮาร์ส ก็ดูอ่อนเยาว์กว่าวัยที่แท้จริง แถมเล่นฟุตบอลด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม บนสีเสื้อขาว-แดง ตัวโคร่งๆ ตามยุคของเสื้อฟุตบอลในสมัยนั้น ซึ่งแฟนบอลยุคเก่ายังจำเขาได้ดี
45 ประตูของมาเรียน ปาฮาร์ส เกิดขึ้นทั้งในเดอะ เดลล์ และเซนต์ แมรี
ทว่าก่อนหน้านี้ ที่มาเรียน ปาฮาร์ส จะกลายเป็นหนึ่งในตำนานของเซาธ์แฮมป์ตัน เขาเจอช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก โดยในเดือนแรกที่ย้ายมาอยู่ที่อังกฤษ ปาฮาร์ส ประสบปัญหาในเรื่องของภาษา เพราะสถานที่ที่เขาจากมานั้น ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ และตัวเขาก็ไม่คุ้นเคยกับภาษาใหม่ ภาษานี้เสียด้วย
คนแรกๆ ที่มีส่วนช่วยให้ปาฮาร์ส ปรับตัวกับบรรยากาศแวดล้อมใหม่ คนคนนั้นคือ เจมส์ บีทตี้ โดยปาฮาร์ส เรียกเขาด้วยความสนิทสนมว่า “บีตส์”
เจมส์ บีทตี และมาเรียน ปาฮาร์ส
ปาฮาร์ส กล่าวว่า “ช่วงเดือนแรกในอังกฤษนั้น ทุกๆ วันเหมือนอยู่กับในสนามรบ ไม่ใช่แค่สนามฟุตบอลเท่านั้น แต่รวมถึงการใช้ชีวิตในอังกฤษ ตลอดจนถึงในห้องแต่งตัวของทีม”
คนหนึ่งที่ช่วยให้ปาฮาร์ส ปรับตัวได้ก็คือบีทตี้ ที่กล่าวไปข้างต้น อีกคนหนึ่งก็คือ จอห์น มอร์ติมอร์ ผู้อำนวยการของทีม ซึ่งจอห์น มอร์ติมอร์ และภรรยา คอยช่วยเหลือปาฮาร์สทั้งในและนอกสนาม โดยเฉพาะการจัดหาครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษ เพื่อให้การใช้ชีวิตในอังกฤษ ราบรื่นขึ้น
ตามด้วยอีกหนึ่งตำนานของทีมอย่างฟรานซิส เบนาลี ที่ทำหน้าที่คอยไปรับไปส่งปาฮาร์ส เนื่องจากบ้านของทั้งสองคนอยู่ใกล้กัน และเบนาลี ก็เป็นคนชวนปาฮาร์สไปซื้อบ้านของพ่อตาของเขาอีกด้วย
ปาฮาร์ส และพระเจ้าชาวนักบุญ
เช่นเดียวกับ “ตำนานตลอดกาล” แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์ ซึ่งปาฮาร์ส บอกว่าจนถึงทุกวันนี้ เขาก็ยังติดต่อกับเลอ ก็อด อยู่เสมอๆ
“เขาเป็นพี่ใหญ่ เป็นตำนาน และเป็นคนที่มอบใจให้กับเพื่อนเสมอๆ”
ในมุมมองของปาฮาร์ส ยอมรับว่า เลอ ทิสซิเอร์ เป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาล
“แม้ว่าผมจะมาที่เซาธ์แฮมป์ตันในช่วงเวลาที่ใครหลายคนบอกว่าเขาผ่านจุดที่ดีที่สุดในชีวิตการค้าแข้งไปแล้วก็ตาม แต่ผมก็ไม่ได้คิดแบบนั้นหรอกนะ เขายังมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ อาจจะไม่คมกริบ หรือปราดเปรียว แต่พรสวรรค์ในการฝึกซ้อม การทำประตูในทุกๆ สัปดาห์ มันยังคงสุดยอดเสมอ”
ปาฮาร์ส ยกย่องประตูของเลอ ทิสซิเอร์ ซึ่งยิงใส่อาร์เซนอลอย่างสุดสวย ในเกมนัดสุดท้ายที่เดอะ เดลล์ มันเป็นประตูที่แสดงให้เห็นถึง “คลาส” ของเขา
ความรู้สึกของปาฮาร์สก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่รู้สึกมาตลอดว่า ทุกๆ วันในอังกฤษ คือสนามรบ ก็เริ่มไปในทิศทางที่ดีขึ้น ปาฮาร์ส เริ่มต่อติดกับเพื่อนร่วมทีม จนกล่าวได้ว่า จิตวิญญาณของความเป็นเดอะ เซนต์ “น่าทึ่ง” มาก
***ประตูแห่งความทรงจำ
45 ประตูของปาฮาร์ส เขาสามารถตอบได้อย่างง่ายดายเลยว่า ประตูใดเป็นประตูที่เขาคิดมาตลอดว่า มันเป็นประตูที่ยอดเยี่ยม นั่นคือ เกมที่พบกับดาร์บี เคาน์ตี
“มันไม่บ่อยนัก ที่ผมจะยิงประตูจากนอกกรอบเขตโทษ”
ปาฮาร์ส อธิบายว่า ถ้าสังเกตดูให้ดี ประตูที่ทำได้มักจะเป็นการทำประตูในกรอบเขตโทษ สาเหตุเป็นเพราะปาฮาร์สไม่ได้มีพละกำลังขาในการพังประตูได้อย่างแข็งแรง เมื่อเทียบกับบีตส์ หรือเลอ ทิสซิเอร์ แต่การยิงใส่ดาร์บี เป็นการยิงนอกกรอบ 30 หลา
“ผมทราบดีว่าแฟนบอลชอบประตูที่ผมยิงใส่ดาร์บี แต่ไม่ใช่แค่แฟนบอลเท่านั้นนะครับที่ชอบ แม้แต่ผมก็ชอบประตูนั้นเช่นกัน”
***ชีวิตที่ยอดเยี่ยมในสีเสื้อเซาธ์แฮมป์ตัน
เมื่อถามถึงแมตช์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของชายที่ชื่อว่า มาเรียน ปาฮาร์ส เขายอมรับว่า มันมีหลายแมตช์ แต่ที่ยังฝังแน่นติดทนนานในความทรงจำ เป็นเกมของปาฮาร์สที่สามารถทำประตูแรกให้กับทีมได้สำเร็จในการเจอกับแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
“ตอนนั้นเราตามหลังอยู่ ก่อนที่บีตส์ จะโขกชงมาให้ผม แล้วผมก็โหม่งตีเสมอเข้าไป อีกเกมหนึ่งก็คงเป็นเกมที่เราชนะชาร์ลตัน เพราะช่วงนั้น เป็นช่วงที่เราย้ายมาเล่นที่เซนต์ แมรี แล้วเราก็ไม่ชนะใครเลย 5 เกมติดต่อกัน”
ด้วยความที่มาเรียน ปาฮาร์ส ค้าแข้งกับเซาธ์แฮมป์ตันมานานถึง 7 ฤดูกาล ทำให้ความเป็น “เดอะ เซนต์” จึงอยู่ในกายเนื้อของปาฮาร์ส เรียบร้อยแล้ว ทำให้ความรู้สึกที่สุดยอดที่สุดในสีเสื้อของปาฮาร์สกับเซาธ์แฮมป์ตัน เลยเป็นที่ทีมเอาชนะปอร์ทสมัธได้
“ตอนนั้นผมเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ แล้วก็ทำประตูใส่ปอมปีย์ได้ มันทำให้ผมโล่งใจมากๆ เพราะผมรอคอยโอกาสการลงสนามมาโดยตลอด ซึ่งในช่วงที่อยู่ระหว่างการพักรักษาตัว ผมเคยคิดที่จะแขวนสตั๊ดไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ผมก็ผ่านมันมาได้ในที่สุด”
นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่ดีที่สุดเวลาที่ปาฮาร์ส นึกถึงเซาธ์แฮมป์ตัน เขาคิดว่า “ผู้คน” ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่แฟนบอลมายังสนาม ผู้คนในตัวเมือง
“ผมอาจไม่รู้จักพวกเขา แต่พวกเขาจะให้กำลังใจคุณเสมอ”
ที่น่าสนใจ ผู้คนในเซาธ์แฮมป์ตัน ล้วนให้การสนับสนุนสโมสรอย่างเต็มที่
“พวกเขาช่วยผมตั้งแต่วันแรก พวกเขาสนับสนุนผมเป็นอย่างดี ผมสัมผัสถึงสิ่งนั้นได้ ‘ผู้คนในเซาธ์แฮมป์ตัน’ คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในความทรงจำของผม”
***ปฏิเสธทุกข้อเสนอจากทีมอังกฤษ
มาเรียน ปาฮาร์ส อยู่กับทีมจนถึงฤดูกาล 2005-06 สถานการณ์ของทีมเวลานั้น คือการเป็นทีมในระดับเดอะ แชมเปียนชิป
แน่นอนว่า ความสามารถของปาฮาร์ส ยังได้รับการยอมรับจากทีมจากอังกฤษจำนวนมาก แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ปาฮาร์ส ก็ปฏิเสธทุกข้อเสนอจากทีมอังกฤษทุกทีม
“เอเยนต์ของผมบอกว่า มีข้อเสนอจากทีมอังกฤษสองทีมอยากได้ตัวผมไปร่วมทีม แต่ผมไม่สนใจที่จะคุย เพราะผมไม่อยากเล่นกับทีมอื่นในอังกฤษที่ไม่ใช่เซาธ์แฮมป์ตัน”
ดังนั้นแล้ว การตัดสินใจของปาฮาร์ส หลังสิ้นสุดฤดูกาล 2005-06 คือการเดินทางออกไปให้ไกลจากเกาะอังกฤษให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
หลังจากนั้น ปาฮาร์ส ใช้เวลาที่เหลือในอาชีพพ่อค้าแข้งกับ อนอร์ธโธซิส ฟามากัสตา ในไซปรัส ก่อนที่จะกลับไปยังลัตเวียบ้านเกิดกับทีมสกอนโต และยุติการเป็นนักฟุตบอลกัลเอฟเค ฆูร์มาลา
ปัจจุบัน มาเรียน ปาฮาร์ส ยังคงวนเวียนอยู่ในโลกฟุตบอล โดยทำงานเป็นผู้จัดการทีม แต่ตอนนี้ ยังว่างงาน หลังจากลาออกจากการเป็นเทรนเนอร์ของทีมเซียนา ทีมระดับเซเรีย ดี ของอิตาลี ภายหลังทำงานกับทีมได้เพียงหนึ่งเดือน
“ความทรงจำของผมและแฟนบอลเซาธ์แฮมป์ตันมันพิเศษมากๆ ซึ่งมันจะอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป”
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Cult Hero
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย