[Thomas หนุ่มลูกครึ่งใต้ ออสเตรเลีย] ปุ๋ยหมักสูตร “ระเบิดดิน” แก้ปัญหา สภาพดินเป็นกรด หรือ ด่าง ซึ่งเกิดจากการใช้สารเคมีมากเกินไป กระผม Tiki Sydney สวนผักอินทรีย์ในต่างแดน กลับมาแล้วครับผม หายไปหลายวัน กระผมไปตามล่าสูตร “ระเบิดดิน”

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

Thomas หนุ่มลูกครึ่งใต้ ออสเตรเลีย

•

12 เม.ย. 2021 เวลา 03:50 • การเกษตร

ปุ๋ยหมักสูตร “ระเบิดดิน” แก้ปัญหา

สภาพดินเป็นกรด หรือ ด่าง

ซึ่งเกิดจากการใช้สารเคมีมากเกินไป

ภาพจากผู้เขียน

กระผม Tiki Sydney สวนผักอินทรีย์ในต่างแดน

กลับมาแล้วครับผม หายไปหลายวัน

กระผมไปตามล่าสูตร “ระเบิดดิน”

เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับพี่น้องผองเพื่อน

ที่เคยใช้สารเคมีในการทำเกษตรเป็นเวลานานมาก่อน

ใช้ทั้งปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง และอีกมากมายจะใช้

กระผมหาเจอจนได้ครับผม และคงมีหลาย ๆ คน

หาเจอก่อนผม แต่ไม่เป็นไรครับ มาทบทวนความจำกันครับ

แต่เดี๋ยวก่อน ! !

ก่อนที่เราจะไปรู้จัก “ปุ๋ยหมักสูตรระเบิดดิน”

เรามาทราบถึงปัญหา “มลพิษในดิน (soil pollution)”

มลพิษในดิน (soil pollution) คือ

การเสื่อมถอยของคุณภาพดิน หรือ

ภาวะการปนเปื้อนด้วยสารพิษ (soil pollutant)

ในดินที่มากเกินไป นั่นเองครับ

สิ่งเหล่านี้ละครับที่ส่งผลให้คุณสมบัติของดิน

เกิดการเปลี่ยนแปลง จนเป็นอันตราย

ต่อการดำเนินชีวิตต่อ คน สัตว์ ทั้งบนดิน และ ใต้ดิน

รวมถึงเป็นอันตรายต่อพืชเองด้วย

อีกยังทำให้ดินไม่เหมาะสม

ในการนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น ๆ อีกด้วย

กระผมจะพาทุกคน มาทำความรู้จัก “ดิน (soil)” มากขึ้น

Soil (ดิน) คือ สารที่เหิดจากการรวมตัวกันของ

ร้อยละ 45 เป็นแร่ธาตุต่าง ๆ

ร้อยละ 5 เป็นสารอินทรีย์

ร้อยละ 50 เป็นนำ้ และ อากาศ อย่างละ ร้อยละ 25

ซึ่งทั้งหมดนี้จะรวมตัวกันได้ต้องมาจาก

การสลายตัวของแผ่นเปลือกโลก และ

การย่อยสลายของซากพืชซากสัตว์ในธรรมชาติ

และดินในแต่ละพื้นที่ แต่ละประเทศ

หรือ ภูมิภาคของโลก มีลักษณะ

รวมถึงคุณสมบัติ ที่แตกต่างกันออกไป

เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยทางสภาพภูมิอากาศ

และภูมิประเทศ รวมถึงสิ่งมีชีวิตที่

อาศัยในอาณาบริเวณนั้น ๆด้วยครับ

แหล่งกำเนิด “ดินเสีย” หรือ “การเกิดมลพิษในดิน”

เริ่มที่ ดินเสียในธรรมชาติ เป็นผลมาจากการ

มีองค์ประกอบที่เป็นอันตรายต่อการดำรงอาศัย

ของสิ่งมีชีวิตในดิน เช่น

การมีส่วนผสมของเกลือ หรือ แร่ธาตุบางชนิด

มากเกินไป ทำให้เกิดภาวะ “ดินเค็ม (saline soil)

และเป็นอันตรายต่อพืช

หรือ

ดินที่มีการเจือปนของสารกัมมันตรังสี และ

โลหะหนัก (Heavy Metal)

จากหินแหล่งต้นกำเนิดของดิน

อันนั้นคือ สาเหตุการเกิดมลพิษในดิน แบบธรรมชาติ

มาดู ดินเสียจากกิจกรรมของมนุษย์กันบ้างนะครับ

การทิ้งขยะ และ ของเสียในย่านชุมชน

การใช้ปุ๋ยเคมี และ สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ติดต่อกันเป็นเวลานาน

การปล่อยน้ำเสีย และ การรั่วไหลของสารกัมมันตรังสี จากโรงงาน และ ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ

https://pixabay.com

และสิ่งเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อดิน ดังนี้

ผลกระทบจากมลพิษในดิน

ดินที่ปนเปื้อนสารเคมีหรือสารพิษต่างๆนั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อระบบนิเวศและสิ่งมีชีวิต

1.ผลกระทบต่อมนุษย์

https://pixabay.com

1.1สารเคมีปนเปื้อนที่ตกค้างในดิน

ส่วนใหญ่มักเป็นสาเหตุของการเกิดโรคร้ายต่างๆ

อย่างเช่น

การสัมผัสดินที่มีเบนซิน (Benzene)

และพอลิคลอริเนตไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyl: PCB) ตกค้างเป็นประจำ

อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและโรคมะเร็งตับได้

1.2การนำพืชผลทางการเกษตรที่ปนเปื้อนของสารตะกั่วและปรอทเพียงเล็กน้อย

สามารถสร้างผลเสียต่อ

การพัฒนาระบบประสาท และ สมองของมนุษย์

รวมไปถึงเป็นอันตรายต่อตับ และ ไตอีกด้วย

2.ผลกระทบต่อสัตว์

https://pixabay.com

2.1โดยเฉพาะสัตว์ที่มีลำตัวเป็นข้อปล้อง (Arthropod) และจุลินทรีย์ที่อยู่ในดิน

2.2 ทำให้วงจรการบริโภคของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ

ถูกทำลาย พืชหรือผู้ผลิตไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำให้ผู้บริโภคในแต่ละลำดับขั้นของห่วงโซ่อาหารขาดแหล่งอาหารที่สำคัญ

3.ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

https://pixabay.com

มลพิษในดินยังอาจก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ

และ มลพิษในน้ำได้อีกด้วย

จากการระเหยของสารเคมีตกค้างในดิน

โดยเฉพาะ สารเคมีจำพวกไนโตรเจน (Nitrogen) และฟอสฟอรัส (Phosphorus) ที่ตกค้างในดิน

เมื่อถูกชะล้างลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ

ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำลำคลอง หรือ แหล่งน้ำบาดาล

อาจทำให้น้ำเกิดการเน่าเสีย

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก

https://ngthai.com/science/27458/soil-pollution/

เมื่อบางครั้งเราหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ไม่ได้

เรามาทำแบบนี้ กันครับ

ปุ๋ยหมักสูตร “ระเบิดดิน” 💥💥🧨💣

ส่วนผสม

(1).ดินร่วนในท้องถิ่นบดละเอียด 1 kg.

(2).รำละเอียด 1 kg.

(3).กากน้ำตาล หรือ น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนแกง (ช้อนโต๊ะ)

(4).น้ำเปล่า 2 แก้ว

(5).ผ้าฝ้ายดิบ ขนาด 12 นิ้ว * 12 นิ้ว จำนวน 2 ผืน

วิธีทำ

นำเอาส่วนผสมตั้งแต่ ข้อ (1) - ข้อ (4) มาผสมกันให้เป็นก้อน จะได้ทั้งหมด 2 ก้อน

ห่อด้วยผ้าฝ้ายดิบ ทิ้งไว้ในร่ม 2-3 คืน ก็จะมีเชื้อจุลินทรีย์ขึ้นที่ก้อนดิน

ถ้าใครอยากได้ 10 ก้อน ก็ทำสูตรนี้ 5 ครั้ง หรือ ง่าย ๆแบบนี้

เอาอัตราส่วนผสม * 5 ครับ เช่น

ดินร่วนบดละเอียด 1*5 = 5 kg. หรือ

กากน้ำตาล 2*5 = 10 kg.

อัตราส่วนนี้ จะทำได้ 10 ก้อน ครับผม

เมื่อทำเสร็จแล้ว ทิ้งไว้ 2-3 คืนก่อนนำมาใช้

อ้าว 🤔 ! ! แล้วใช้อย่างไรครับ

อ่อ เดี๋ยวผมบอกวิธีให้ครับ

วิธีใช้

นำก้อนดินที่ได้ 1 ก้อน ผสมน้ำ 20 ลิตร และ

กากน้ำตาล 1 kg. หมักต่อ 3-7 วัน

ถึงตะเอาน้ำไปใช้ในรูปจุลินทรีย์บำรุงดิน

ถ้าใช้ในแปลงพืชผัก ให้ใช้น้ำหมัก 4 ช้อนแกง ต่อ น้ำ 20 ลิตร รดแปลงผัก

ถ้าใช้ในสวนผลไม้ ให้ใช้น้ำหมัก 3 ช้อนแกง ต่อ น้ำ 20 ลิตร รดรอบทรงพุ่ม

ถ้าใช้สำหรับต้นกล้า ให้ใช้น้ำหมัก 1 ช้อนแกง ต่อ น้ำ 20 ลิตร รดต้นกล้าพืช จะใช้ทุก ๆ 3-7 วันครั้ง จนกว่าต้นกล้าจะแข็งแรง (อย่าลืม รดน้ำเปล่าล้างใบด้วยนะครับ)

ยังมีเพิ่มเติมครับ แต่ให้ไปศึกษาต่อเองที่นี้นะครับ

http://www3.oae.go.th/rdpcc/images/filesdownload/km/Knowledge/productions/13.pdf

เป็นไงกันบ้างครับ สูตร “ระเบิดดิน” 💥💣🧨ที่ผมสืบค้นคว้าหามาให้

ผมเชื่อว่า ทุกคน ทุกพื้นที่ มีดินที่จะทำการปลูกพืชผักกินเอง

แต่ที่ไม่ได้ทำ เพราะ พอปลูกอะไรก็เจริญเติบโตไม่ดี ผลผลิตไม่มี เลยทำให้ท้อ และคิดว่า ตัวเองไม่เก่ง ไม่ถนัด ไม่เหมาะกับการเพาะปลูก

จริง ๆ แล้ว สาเหตุอาจมาจาก คุณภาพของดินที่เราจะปลูก ไม่มีคุณภาพก็ได้นะครับ

กระผมหวังว่า หลังจากทุกคน ได้อ่านบทความนี้ของผมแล้ว

จะลองสักตั้งนะครับ ลองทำตาม ลองพิสูจน์ดู ว่าจริงไหม ที่เราเป็นคนปลูกพืชผักไม่เจริญเติบโต งอกงาม

ถ้าลองแล้ว ยังปลูกพืชผักไม่ได้เรื่องอีก ค่อยถอดใจ แล้วมาอย่างไว ซื้อผักสดผมไปกินครับ

ต้องกราบขอบพระคุณข้อมูล

สูตรระเบิดดิน จาก

http://www3.oae.go.th/rdpcc/images/filesdownload/km/Knowledge/productions/13.pdf