เหตุผลที่รัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุน Bitcoin
ญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีและกฏหมายทางด้าน Digital Currency ที่ค่อนข้างจะเปิดรับและพยายามพัฒนาอุตสาหกรรมทางการเงินของโลกอนาคตอย่าง Blockchain และ Digital Currency ซึ่งสวนทางกับรัฐบาลประเทศอื่นๆในโลก เหตุผลคืออะไร? มาวิเคราะห์ไปด้วยกัน
ธนาคารกลางเป็นหน่วยงานของรัฐบาลที่มีบทบาทในการควบคุมปริมาณเงินในเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ แต่ถ้าประชาชนหันไปใช้ Bitcoin หรือ Stable coin
มาเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆ เป็นจำนวนมาก จะทำให้รัฐบาลไม่สามารถควบคุมปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจได้ ทำให้ธนาคารกลางและรัฐบาลเสียดุลอำนาจทางการเงินและอาจส่งผลต่อการควบคุมเศรษฐกิจของประเทศ!!
แล้วทำไมรัฐบาลญี่ปุ่นถึงสนับสนุน ? เมื่อปี 2017 รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศให้ Bitcoin สามารถใช้เป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยปัจจุบันมีร้านค้าพันธมิตรที่ตอบรับชำระเงินจาก Crypto ด้วยแอปฯ Rakuten Pay หลายพันจุด ครอบคลุมทั้งกลุ่มร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-Eleven, Lawson, Familymart ร้านขายยา เช่น Tsuruha จนถึงร้านอาหาร เช่น McDonald’s, Mister Donut
การที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศสนับสนุนการใช้ Bitcoin อาจมีเหตุผลมาจากญี่ปุ่นมีหนี้สาธารณะมากที่สุดในโลก!! มากถึง 253% ของ GDP (ข้อมูลปี 2019) หรือประมาณ 358 ล้านล้านบาท
ซึ่งถ้าวงการ Bitcoin หรือ Cryptocurrency ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมากพอ ผลทางอ้อมที่ญี่ปุ่นได้รับคือ ค่าเงิน USD จะอ่อนค่าลง เพราะคนหันไปให้ค่า Bitcoin มากขึ้น ซึ่งเงิน USD ที่อ่อนค่านั้นจะทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นใช้เงินเยนเท่าเดิมแต่จ่ายหนี้ได้มากขึ้น !!
ภาวะเงินฝืดและเงินเยนแข็งค่าเกินไป!! ซึ่งเป็นปัญหาสะสมมายาวนานกว่า 35 ปี ภาวะเงินฝืดทำให้คนญี่ปุ่นอยากเก็บเงินสำรองไว้เผื่อเกิดปัญหาในอนาคต
ประชาชนไม่กล้าซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย อีกทั้งยังมีปัญหาสังคมผู้สูงอายุที่มีมูลค่าการจับจ่ายใช้สอยที่ลดลง เมื่อไม่ได้เกิดการจับจ่ายทำให้สินค้าค้างสตอค
ผลที่ตามมา คือ เศรษฐกิจในประเทศฝืดเคือง บริษัทที่ผลิตสินค้าหลายแห่งปิดกิจการ เกิดการว่างงาน ยิ่งส่งผลให้ประชาชนขาดเงินในมือ ทำให้ยิ่งต้องประหยัด และสุดท้ายกลับมาเป็น “ภาวะเงินฝืดที่ฝั่งรากลึกต่อเนื่องยาวนาน”
ซึ่งการที่ Bitcoin ได้รับการยอมรับมากขึ้น คนญี่ปุ่นบางส่วนอาจหันไป ถือ Bitcoin หรือ Cryptocurrency อื่นๆ (เหมือนที่เคยถือทองคำ หรือถือเงินเยนในอดีต) เพราะคิดว่าจะได้ผลตอบแทนในอนาคตที่ดีกว่า อาจทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงบ้าง และอาจทำให้มีการใช้เงินเยนจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นกว่าในอดีต
แต่ถึงอย่างไรการที่รัฐบาลญี่ปุ่นยอมรับและสนับสนุน Cryptocurrency ก็ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะยอมขาดดุลอำนาจทางการเงินจนทำให้ค่าเงินเยนตกต่ำจนเกินไป (ต้องการให้เงินเยนอ่อนลงให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจเท่านั้น) โดยต้นปี 2020 รัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้มีการพยายามที่จะสร้าง Digital Currency ที่ผูกกับเงินเยน เพื่อให้เงินเยนมีค่าที่เหมาะสม ไปพร้อมๆกับการเติบโตของ Cryptocurrency
นอกจากนี้ยังมีการออกกฎหมายมากมายเพื่อทำให้ Cryptocurrency อยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยทางการใช้งานยิ่งขึ้น รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้มีการให้ใบอนุญาติกับบริษัทแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิตอลถึง 25 บริษัท ซึ่งถือว่าเยอะมากๆ เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกการใช้งานที่หลากหลาย ถือเป็นการปรับตัวจากทางรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างชาญฉลาด
อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญคือการพยายามดึงดูดนักลงทุนด้าน Blockchain และ Cryptocurrency จากประเทศที่กฎหมายด้านนี้ยังไม่สามารถตอบสนองเทคโนโลยีได้ทัน ให้เข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น ถึงแม้ตอนนี้การลงทุนใน Blockchain และ Cryptocurrency ในสหรัฐอเมริกาจะเติบโตกว่าญี่ปุ่นมากๆ แต่การทำอะไรสักอย่างก็ดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย
“ศัตรูของรัฐบาลและธนาคารกลาง คือ Cryptocurrency” แต่ถ้าเป็นศัตรูที่ไม่สามารถเอาชนะได้ ก็จงเป็นมิตรกับมันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกันให้ได้
แอดแนน
- 23
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
